ต้อนรับ...อุลลิเยร์ด้วย 3 แต้ม

src=http://www.siamsport.co.th/_ImagesColumn/101207G6U50970.jpg


การกลับคืนถิ่นของ เชราร์ อุลลิเยร์ เริ่มต้นด้วยการต้อนรับจากบรรดา เดอะ คอป คงทำให้อดีตผจก.ชุด “ทริปเปิลแชมป์” บอลถ้วยปี 2001 อบอุ่นใจท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บถึงลบ6องศา


แม้ว่าเกมนัดนี้เด็กเก่าที่ อุลลิเยร์ เคยให้โอกาสแจ้งเกิดอย่าง สตีเวน เจอร์ราร์ด รวมทั้ง เจมี คาร์ราเกอร์ ที่เขาผลักดันให้เล่นทั้งแบกซ้ายและเซนเตอร์ฮาล์ฟ ไม่ได้ลงสนาม แต่ทั้งหมดก็ได้พบกันในห้องรับรองแขกวีไอพี นั่นก็รวมทั้ง ชาบี อลอนโซ ที่มาชมเกมนัดนี้ด้วย


น่าเสียดายที่ เฟร์นานโด ตอร์เรส ไม่ได้ลงสนามเพราะต้องไปเฝ้าภรรยาที่คลอดลูกชายช่วงนาทีที่ 74 พร้อมกับตั้งชื่อว่า “เลโอ”


นั่นหมายความว่าเกมนัดนี้ไม่มีสตาร์ดังหงส์แดงหลายคนลงสนามและต้องพบกับแอสตัน วิลล่า ยุคสร้างทีมใหม่โดย อุลลิเยร์ นอกเหนือไปจากการบาดเจ็บแล้วนัดนี้ วิลล่าส่งเด็กดาวรุ่งอย่าง โจนาธาน ฮอกก์, เคียแรน คลาร์ก, อัลไบรท์ตัน



เกมนี้ รอย ฮอดจ์สัน เล่นระบบ 4-4-2 เลือกใช้ บาเบิล กับ เอ็นก๊อกเล่นกองหน้าคู่ ปีกสองข้าง มักซี กับ เคาต์ กลางคู่ ราอูล-ลูคัส กองหลัง โซโต (ชื่อเล่นคีร์เกียคอส) กับสเคอร์เทิล และจอห์นสัน กับ คอนเชสกี้
 ประตูแรกได้มาเร็วนาทีที่ 14 จากเตะมุมของ ราอูล ที่เปิดลึกมาเสาสองให้ สเคอร์เทิล โขกย้อนกลับไปเสาแรก โดยมี เอ็นก๊อก โถมเข้าโหม่งเต็มแรง จากนั้นอีก2นาที ลูคัส เปิดบอลยาวให้ ไรอัน บาเบล หลุดเข้าไปยิงตุงตาข่าย ต้องบอกว่า 2 ลูกได้เร็วในสองนาที


ทำให้ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของลิเวอร์พูล


ไม่มีอะไรต้องวิพากษ์วิจารณ์กันมากเพราะสกอร์สองประตูแสดงให้เห็นเรื่องความเด็ดขาด ส่วนเกมที่คอนโทรลได้ทั้งหมดมีสัญญาณที่ดีในการเล่นเกมอย่างมีแบบแผน ก็เป็นอีกนัดหนึ่งที่เล่นได้ดีจากจำนวน 16 นัดล่าสุด ถ้ารวมกับเกมชนะเชลซี,เวสต์แฮม, แพ้สเปอร์ส



เทียบกับ 10 เกมแรก...นับว่าลิเวอร์พูลชุดนี้เริ่มเล่นอย่างมีรูปแบบไม่สะเปะสะปะ ออกลูกมั่วเหมือนช่วงแรก ที่จับต้นชนปลายไม่ถูก


คงเป็นเกมที่แฟนบอลอยากเห็นมากสำหรับมาตรฐานที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น


เกมที่เล่นได้ดีย่อมมีโอกาสนำไปสู่ชัยชนะ ขั้นต่อไปคือเกมที่เล่นได้ดีต้องรักษาเอาไว้ให้ต่อเนื่อง ไม่ใช่สามวันดีสี่วันไข้ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย หาความแน่นอนไม่ได้


นัดนี้จะมีบกพร่องบางช่วงเวลา เนือยเกินไป ความไม่ละเอียดในการให้บอล ผ่านบอล มีผิดพลาด ส่งบอลเสียในจังหวะสำคัญๆ กองหลังยังมีลูกเหม่อบ้าง แต่ถือว่าไม่เยอะมากมายเหมือนนัดก่อนๆ


รอย ฮอดจ์สัน ในเกมนี้ก็แสดงบทบาทมากขึ้นอย่างช่วง 5 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกจังหวะนักเตะลิเวอร์พูลเฉื่อย ก็ลุกขึ้นมากระตุ้นเตือน เพราะพลาดพลั้งโดนตีไข่แตก จบครึ่งแรกที่ 2-1 อาจลำบากในครึ่งหลังมากกว่าสกอร์ 2-0 ส่วนครึ่งหลัง พยายามเปลี่ยนนักเตะลงมาใช้งาน


ในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟที่ส่งดาวโรจน์อย่าง มาร์ติน เคลลี แทน โซโต เพราะดูวี่แววแล้วตอนนี้เซนเตอร์เหลือ 2 คน หลักๆ อาจเป็น เคลลี ที่ฉุกเฉินเผื่อเหลือเผื่อขาด



คาดหวังกันต่อไปว่าคงรักษาเกมที่เริ่มเป็นรูปร่างนี้ให้ได้ต่อเนื่องที่สุด เพื่อลุ้นเป้าหมายสำคัญของสโมสรในซีซั่นนี้นั่นคือ


พื้นที่ชปล. นั่นเอง



JACKIE

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์