แชมปดิวิชั่นหนึ่ง18สมัยแชมป์ยุโรป5สมัยได้แชมปพรีเมียร์แล้วหลังเอาชนะทีมเชลซี 2-0 ทำให้แฟนลิเวอพูลออกมาโม้และยกหางกันใหญ่




หงส์ล้มจ่าฝูง!ตอร์เรสเทพเหมาสองขึ้นที่ 9
หงส์แดงลิเวอร์พูลกลับมาอย่างยิ่งใหญหลังรวมพลังเปิดรังแอนฟิลด์เอาชนะเชลซี 2-0 จากสองประตูในครึ่งแรกของเฟร์นานโด ตอร์เรสนำทีมคว้าชัย 3 นัดติดขึ้นที่ 9 ส่วนจ่าฝูงหยุดแช่อยู่ที่ 25 แต้มนำแมนฯยูฯแค่ 2 แต้มเท่านั้น

พรีเมียร์ลีก

วันอาทิตย์ที่ 7 พฤศจิกายน 2553


ลิเวอร์พูล 2-0 เชลซี

ประตู : 1-0 ตอร์เรส น.11,2-0 ตอร์เรส น.44


ศึกบิ๊กแมทช์ประจำสัปดาห์ระหว่างลิเวอร์พูลกับเชลซีเกมนี้รอย ฮอดจ์สันกลับมาใช้ระบบ 4-2-2 สู้โดยให้เดิร์ก เคาท์ยืนหน้าคู่เฟร์นานโด ตอร์เรสโดยเจอร์ราร์ดคุมแดนกลางร่วมกับลูคัส

ด้านเชลซีใช้ 4-3-3 สูตรถนัดมีนิโกลาส์ อเนลก้า,ฟลอร็องต์ มาลูด้าและซาโลมง กาลูเป็นตัวปิดสกอร์แต่ดิดิเยร์ ดร็อกบามีชื่อเพียงแค่ตัวสำรอง

ครึ่งแรก

หงส์วิ่งไล่ทันที
ต้นเกมลิเวอร์พูลไม่เคยแพ้ใครเพราะวิ่งเข้าบีบราวกับเสพม้ามาทำเอานักเตะเชลซีต้องรัดกุม

เอล นินโญ่ 1-0!!!!!!!!!!!
เกมที่สูสีแทบไม่มีอะไรเลยแต่โอกาสแรกของเกมนี้ในนาที 11 เป็นหงส์แดงจากจังหวะที่เหมือนไม่มีอะไรเมื่อสเคอร์เทลแทงบอลจากกลางสนามฝากให้เคาท์พลิกแล้วเหลือบเห็นตอร์เรสเลยหยอดข้ามหัวทั้งอเล็กซ์และเจทีก่อนดูดลงอย่างนิ่มแล้วใช้ตัวพิงจนอดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษเข้าไม่ถึงแล้วยิงหักข้อกระเด้งผ่านมือเช็กบอลตุงหน้าต่างเข้าไปอย่างสวยงาม

ตอร์เรสติดใจ
พอได้แล้วคราวนี้ตอร์เรสมั่นใจขึ้นมาทันตาเห็นเลยได้บอลนอกกรอบก่อนส่องไกแต่หลุดเสาออกไปเอง

เชลซีลุยแหลก
ตอนนี้ลิเวอร์พูลหันมาตั้งรับรอสวนทำให้เชลซีได้ครองบอลหาช่องเข้าเจาะเป็นเนื้อเป็นหนังและพยายามเข้าทางด้านมาร์ติน เคลลี่ดาวรุ่งแต่เจอสไลด์กวาดเต็มๆจนเดอะค็อปปรบมือให้กันเกรียว

หงส์ไล่หนักคุมกลาง
เชลซีพยายามจะทำเกมลุยใส่แต่แดนกลางยังไม่สามารถทำเกมได้เนื่องจากเจอร์ราร์ด,ลูคัส,รามิเรสรวมไปถึงเคาท์และมักซี่วิ่ไล่ช่วยกันได้ดีมากทำให้ลูกโยนขึ้นหน้าเหมือนจะไร้พิษสง เรียกว่าถ้ามีดร็อกบาอาจใช้สูตรนี้ได้

รามิเรสยิงเต็มข้อ
นาที 28 ลิเวอร์พูลอาจไม่มีอะไรในการจ่ายบอลสุดท้ายแต่นาที 28 ลูกครอสของเคาท์ที่เคลลี่เข้าแย่งไปถูกแขนเชอร์คอฟจนเดอะค็อปร้องจะเอาจุดโทษแต่รามิเรสไม่สนวิ่งมายิงอัดเต็มๆเช็กล้มตัวรับพอดี

เกมชัดเครียด
ตอนนี้เกมค่อนข้างเครียดเพราะนักเตะเจ้าถิ่นเริ่มเข้าถึงเนื้อถึงตัวและมีการทำฟาว์ลจากทั้งสองทีมบ่อยมากจนทำให้นึกถึงสมัยโจเซ่ มูรินโญ่ห้ำหั่นกับราฟาเอล เบนิเตซที่แย่งการครอบครองบอลกันอย่างเอาเป็นเอาตาย

คาราวะตอร์เรสยิงสวย 2-0!!
ก่อนหมดเวลานาทีเดียวลิเวอร์พูลมาได้ลูก 2 อย่างไม่น่าเชื่อจากจังหวะที่เชลซีกำลังจะสวนกลับหลังลูคัสกะจังหวะบอลผิดลูกเลยข้ามหัวแต่แอชลีย์ โคลที่กำลังติดเครื่องดันทำช้าเลยถูกรุมตอมทั้งลูคัส,รามิเรสและเจอร์ราร์ดก่อนเป็นอดีตแข้งปอร์โต้แย่งได้แล้วกระชากขึ้นมาก่อนป้ายออกซ้ายให้ตอร์เรสตรงริมกรอบโทษฝั่งซ้ายแล้วลากแต่งเข้าขวาก่อนยิงยัดติดไซด์ทะลุแนวรับโดยเฉพาะเจทีที่แสกหน้าเลี้ยวเบียดเสาเสียบหน้าต่างจนปีเตอร์ เช็กได้แต่ยืนดูเฉยๆ เสียงเดอะค็อปในแอนฟิลด์แทบดังไปถึงหมู่เกาะฟาโรห์กันเลยทีเดียว หมดครึ่งแรกหงส์แดงนำ 2-0

ครึ่งหลัง

ดร็อกบามาแล้ว
ไม่เป็นที่แปลกใจเมื่อคาร์โล่ อันเชล็อตติส่งดร็อกบาลงตั้งแต่ต้นครึ่งหลังโดยแทนซาโลมง กาลูที่แทไม่มีบทบาทใดๆเลย

มักซี่ยิงไกล
แต่เริ่มมาได้นาทีเศษๆลิเวอร์พูลเคาะบอลสวนกลับขึ้นมาสวยงามก่อนที่มักซี่จะรับบอลจากหัวขิงแล้วพลิกยิงไกลบอลพุ่งเข้าเป้าดูแล้วสยองแต่เช็กยืนคุมเสาดีรับเข้ามือหนึบ

ลูคัสสุดยอด
วันนีลูคัสตัดบอลสำคัญๆได้หลายหนเรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งของแดนกลางในการรับมือกับผู้เล่นของเชลซีอย่างเต็มรูปแบบไม่ว่าอเนลก้า,มาลูด้าและดร็อกบาต้องเสียท่าให้แข้งฟ้าประทานผู้นี้กันหมดและช่วงนี้จ่าฝูงกำลังขึงเกมอย่างหนักหมายจะตีไข่แตกให้เร็วที่สุด

ดร็อกบาปั่นฟรีคิก
เชลซีแม้ได้ครองบอลเยอะแต่ยังหาโอกาสง้างเกือกยิงทดสอบเรน่าไมได้เลยแม้กระทั่งได้ฟรีคิก 30 หลาดร็อกบารับหน้าที่ยิงแต่เลือกปั่นจะให้อ้อมกำแพงแต่สงสัยลืมกดล่างขวาบอลเลยไม่ไซด์พุ่งออกข้างเสาไปเอง

รามิเรสโขกข้ามคาน
นาที 60 แอชลีย์ โคลเปิดบอลจากปีกซ้ายเป็นรามิเรสโขกเต็มๆแต่บอลข้ามคานออกไปนี่ถ้าเข้าหัวดร็อกบาสงสัยไม่น่าเหลือ

เชอร์คอฟซัดเรน่าเซฟ
ทีมเยือนบุกหนักมากอีกนาทีเดียวเชอร์คอฟได้ลูกชิ่งจากเพื่อนก่อนลากกระชากหลุดเข้าในเขตโทษด้านซ้ายแล้วส่องยิงกะให้เบียดเสาแต่เรน่ายืนคุมอยู่ปัดทิ้งหวุดหวิด

เรน่าโคตรเซฟ!!
นาที 65 ซูเปอร์เซฟแห่งเกมเกิดขึ้นจากจังหวะที่ดร็อกบาเปิดบอลขึ้นมาทางปีกขวาแล้วมาลูด้าวิ่งสอดมาแปด้วยอีขวาตัดหน้าเคลลี่ระยะเผาขน 6 หลาแต่จอมฮาประจำทีมล้มตัวปัดเซฟเหลือเชื่อมาก

หงส์รับแหลก
ตอนนี้หงส์แดงไม่สนใจเกมรุกแล้วเพราะรับเต็มตัวแนวรับใครได้บอลหวดทิ้งแบบไม่ต้องคิดให้มาก

มักซี่ยิงไกลอีก
นาที 72 เจ้าถิ่นได้ฟรีคิกทางปีกขวาแล้วสุดท้ายบอลโดนเคลียร์แต่มักซี่ยิงไกลเข้ากรอบแต่ไม่ผ่านมือเช็กที่ล้มรับเข้ามือหนึบ

เคาท์เกือบซัดเม็ด 3
อีก 3 นาทีต่อมาลิเวอร์พูลได้เตะมุมแล้วบอลเคลียร์ไม่ขาดเมเรเลสสบโอกาสยิงบอลโดนไม่เต็มไปติดบล็อกกองหลังแล้วแฉลบมาเข้าทางเคาท์ที่จับแล้วพลิกหมุนตัวยิงตรงระยะ 8 หลามุมแคบแต่เช็กล้มตัวใช้ขาเซฟเฉี่ยวเสานิดเดียวเท่านั้น

บีบหัวใจ
เกมของลิเวอร์พูลทำเอาแฟนนั่งลุ้นกันไม่ติดเพราะตอนนี้เป็นเชลซีที่บุกวันเวย์แล้วตอนนี้อันเช่ส่งตัวรุกมาหมดทั้งสเตอร์ริดจ์และโบซิงวาในขณะที่รอย ฮอดจ์สันซึ่งเป็นคนเปลี่ยนตัวยากอยู่แล้วยังไม่ขยับทำอะไร

นิโก้ซัดชนคาน!!
ก่อนหมดเวลา 4 นาทีเรื่องเหลือเชื่อเกิดขึ้นหลังแนวรับเจ้าถิ่นพลาดปล่อยให้อเนลก้าพลิกบอลในเขตโทษแล้วหักข้อยิงร้อนถึงเรน่าต้องล้มตัวปัดบอลกระเด้งลงพื้นชนคานแล้วกำลังจะเข้าทางดร็อกบาที่วิ่งมาซ้ำเน้นๆ 5 หลาแต่คาร์ราเกอร์มานัวเนียสไลด์ตัดจนเรน่ากลับมาคว้าเข้ามือ รอดตายช็อก!!

มักซี่หลุดเดี่ยวยิงไม่ได้
ช่วงทดเจ็บลิเวอร์พูลเกือบหล่อเฟี้ยวหลังจังหวะสวนกลับเอ็นก็อกที่ลงมาแทนตอร์เรสพลิกบอลแล้วไหลให้มักซี่หลุดทะลุเข้าไปล่อเป้ากับปีเตอร์ เช็กแล้วล็อกหนีและแม้นายทวารร่างโย่งจะเอาตัวมาโดนแต่แข้งอาร์เจนไตน์มาล้มช้าไปนิดท่าเลยไม่สวยเท่าไหร่จนฮาวเวิร์ด เวบบ์ให้เล่นต่อไม่งั้นเสียจุดโทษแน่นอน

หมดเวลาหงส์แดงเอาชนะเชลซีอย่างสุดยอด 2-0 และเป็นการกวาดชัย 3 นัดติดทำให้พุ่งจากอันดับ 16 มาอยู่ที่ 9 ห่างจากแมนฯซฺตี้ทีมอันดับ 4 แค่ 5 แต้มส่วนเชลซีแพ้เป็นนัดที่ 2 ในฤดูกาลนี้และนำหน้าแมนฯยูไนเต็ดแค่ 2 แต้มเท่านั้น

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล :
โฆเซ่ เรน่า,มาร์ติน เคลลี่,เจมี่ คาร์ราเกอร์,มาร์ติน สเคอร์เทล,พอล คอนเชสกี้,ราอูล เมเรเลส(สเปียริ่ง น.92),ลูคัส เลว่า,เดิร์ก เคาท์(เชลเวย์ น.84),สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด,มักซี่ โรดริเกซ,เฟร์นานโด ตอร์เรส* (เอ็นก็อก น.88)

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช(โบซิงวา น.70),จอห์น เทอร์รี่,อเล็กซ์ ,แอชลีย์ โคล,รามิเรส,จอห์น โอบี มิเกล,ยูริ เชอร์คอฟ (สเตอร์ริดจ์ น.76),ซาโลมง กาลู(ดร็อกบา น.46),นิโกลาส์ อเนลก้า,ฟลอร็องต์ มาลูด้า



























_________________
Credit : Soccersuck 



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์