++++JACKIE (siamsport): ทฤษฏีกับ -9 แต้ม ? ++++

ผมรวบรวม หลักฐาน จากสื่อมวลชนอังกฤษนับ 10 ฉบับ บวกกับเพื่อนนักข่าวที่เมอร์ซีย์ไซด์ รวมทั้งปรึกษาเรื่องเชิงกฏหมายธุรกิจกับเพื่อน, รุ่นน้องที่เป็น ทนายความ (เพราะกฎหมายไทยก็มีต้นแบบจากอังกฤษ)

เพื่อนำมาสรุปประเด็นไขข้อข้องใจให้ความกระจ่างกับแฟนบอล โดยรวบรวมข้อมูลที่เชื่อถือได้...ไม่ได้รู้สึกเอาเองมาเขียนนะครับ หรือฟังเขาเล่ามาโดยไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ!

ด้วยเพราะเวลานี้มีสื่อมากมายเกิดขึ้นในยุคเทคโนโลยีย่อโลก..การมีสื่อมากมายเป็นข้อดีและข้อเสียในเวลาเดียวกัน ข้อดี การบริโภคข่าวสารรวดเร็ว....ทันเหตุการณ์ ข้อเสียหากสื่อมากมายนั้นไม่ได้รับกลั่นกรองหรือไม่ได้เป็นสำนักข่าวที่มีมาตรฐาน (officially)

ความสับสนย่อมเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ผมไม่ได้กำลังจะบอกว่าสยามสปอร์ตมีมาตรฐานที่สุดในโลก...แต่ด้วยประสบการณ์ในการทำงานของนักข่าวและคอลั่มนิสต์มากมายผ่านเวทีงานระดับโลกและเข้าถึงแหล่งข่าวรวมทั้งมีความสัมพันธ์กับแหล่งข่าวอย่างใกล้ชิดที่เมืองนอก นั่นจึงทำให้เรากล้าบอกว่า

เรามีมาตรฐาน..อะไร ลือ ก็ต้องบอกว่า ลือ อะไรที่กลั่นและกรองออกมาให้น่าเชื่อถือมากที่สุดเราจำเป็นต้องทำ

เรื่องลิเวอร์พูลเอฟซี ในวันนี้คงได้ความกระจ่างกันสองประเด็นใหญ่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แฟนบอลหงส์แดงคงได้ติดตามอย่างใกล้ชิด ผมคงสรุปประเด็นให้ได้ชัดๆว่า

1 ลิเวอร์พูล เอฟซี ภายใต้การบริหารงานของ ทอม ฮิคส์และจอร์ช จิลเลตต์ จะต้องนำเงินจำนวน 280 ล้านปอนด์ไปชำระธนาคารหลวงแห่งสกอตแลนด์ ( The Royal Bank of Scotland) หรือRBS ที่เรารู้จักกันดีแล้วเวลานี้ให้หมด

กำหนดเส้นตายคือ ศุกร์ที่ 15 ต.ค. นี้ จะต้องชำระทั้งหมด..หลังจากทำการปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับแบงค์มารอบหนึ่ง เงินกู้ 237 ล้านปอนด์บวกดอกเบี้ยประมาณ 40 ล้านปอนด์ บวกเงินค่าปรับผิดนัดหรือชำระไม่ตรงกำหนดอีกเกือบ 20ล้านปอนด์ รวมแล้วประมาณ 280 ล้านปอนด์ (หมื่นสี่พันล้านบาท)

2 ลิเวอร์พูล เอฟซี ภายใต้การบริหารงานของ ทอม ฮิคส์ และจอร์ช จิลเลตต์ เกิดเป็นคดีความฟ้องร้องเรื่องการซื้อขายสโมสรขึ้นมาระหว่าง เจ้าของคือ ทอม ฮิคส์ และจอร์ช จิลเลตต์ กับ ประธานบริหารเฉพาะกิจของสโมสรคือนาย มาร์ติน บรอตัน, กับคณะกรรมการบริหารอีกสองคนคือ คริสเตียน เพอร์สโลว์ และ เอียน อายร์

คู่กรณีจะขึ้นศาลสูงที่ลอนดอนตามการคาดการณ์ของสื่อมวลชนอังกฤษว่าอย่างเร็วที่สุดจะเป็นวันอังคารที่ 12 ต.ค.

ขึ้นศาลเพราะ...ฮิคส์และจิลเลตต์ คัดค้านการขายสโมสรให้กลุ่มทุนใหม่ NESV เจ้าของทีมเบสบอล บอสตัน เรดซอกส์ ในราคา 300 ล้านปอนด์ ด้วยเพราะราคานี้จะทำให้ ฮิคส์ และจิลเลตต์ ขาดทุนย่อยยับจากเงินที่ตัวเองลงทุนให้กับสโมสร

พวกเขาคัดค้านด้วยการปลดบอร์ดบริหารออก 2 คนคือ เพอร์สโลว์และอายร์ โดยเลือกลูกชายตัวเองและคนสนิท(รองประธานบริษัทเดอะ คอป โฮลดิ้งที่ดูแลลิเวอร์พูล) มาแทน และบอกว่าการขายครั้งนี้ โมฆะ เรื่องนี้จึงต้องพึ่งอำนาจศาลท่านตัดสินคดีความ

อดใจรอเรื่องนี้...ว่าจะยังไง แต่ปัญหาที่สื่อมวลชนวิตกกังวลและพยายามทำให้เป็นประเด็นคือ...หากการซื้อขายเป็นโมฆะ (แม้พรีเมียร์ลีกระบุว่ากลุ่มทุนนี้ผ่านคุณสมบัติซื้อทีมหงส์แดงได้) หรือศาลท่านไต่สวนคดีความด้วยเวลานานจนเกินวันที่ 15 ต.ค. อันเป็นเส้นตายของเจ้าหนี้รายใหญ่ลิเวอร์พูลคือ RBS

ลิเวอร์พูลจะโดนธนาคารยึดแล้วควบคุมกิจการทันที เพราะบริษัทที่บริหารลิเวอร์พูลคือ เดอะ คอป โฮลดิง ของ ฮิคส์และจิลเลตต์ นั้นไม่ได้มีธุรกิจตัวอื่นเลยมีแต่ทีมลิเวอร์พูล เอฟซี ทีมเดียว ณ ตรงนี้เองที่ลิเวอร์พูลจะมีสภาพเหมือนกับพอร์ตสมัธ

เคยมีกรณีนี้กับเวสต์แฮม แต่ไม่โดนตัดแต้มเพราะบริษัทที่บริหารทีมเวสต์แฮมเป็นกลุ่มทุนไอซ์แลนด์นั้นทำธุรกิจหลายอย่าง ฟุตบอลเป็นหนึ่งในนั้น พวกเขาประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจจากธุรกิจตัวอื่นเลยกระทบกับฟุตบอล แบบนั้นถือว่าไม่ใช่ปัญหาที่สโมสรรับรู้

แต่เดอะ คอป โฮลดิ้ง บริหารธุรกิจฟุตบอลโดยตรงไม่มีตัวอื่นเลย และบริหารจนเกิดความผิดพลาดแบบนี้เข้าหลักเกณฑ์ตัดแต้มของพรีเมียร์ลีก

ตามกฎพรีเมียร์ลีกแล้วทีมไหนถูกควบคุมกิจการด้วยเพราะไม่มีศักยภาพในการบริหารต่อได้ทีมนั้นจะโดนตัดแต้ม...9 แต้ม ซึ่งพอร์ตสมัธ โดนไปก่อนจนตกชั้นไปแล้ว จากนั้นทีมที่ถูกควบคุมกิจการจะต้องลดรายจ่ายลงเกือบทุกเรื่อง ตั้งแต่ค่าน้ำค่าไฟ, ค่าจ้างพนักงานและถูกรายจ่ายที่ต้องลด

เอาง่ายๆเลยนะครับ....การลดรายจ่ายอาจทำด้วยการหารายรับเข้าทีม...อย่างเช่นขายนักเตะดาราประจำทีมออกไป

นี่คือการคาดการณ์ที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้กำลังเป็นที่โต้แย้งจากคริสเตียน เพอร์สโลว์ หนึ่งในผู้บริหารของทีมที่ระบุว่า ลิเวอร์พูลไม่ได้มีปัญหาเรื่องรายรับรายจ่าย งบดุลของสโมสรเดินสะดวก อีกทั้งเชื่อว่าธนาคารสกอตแลนด์ในฐานะเจ้าหนี้รายใหญ่น่าจะเลื่อนเวลาการชำระหนี้ออกไป

เพราะธนาคารไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบกับลูกหนี้ ด้วยเพราะสิ่งที่ธนาคารต้องการคือ เงินกู้ คืนมาให้หมด เพราะยิ่งหากทำให้ลิเวอร์พูลโดนควบคุมกิจการและโดนตัดแต้มแล้ว นักลงทุนที่ไหนจะเข้ามาซื้อกิจการและ เงิน ที่ธนาคารจะได้....ก็ช้าออกไปอีก

ครั้นจะ....บอกว่าง่ายมากยิ่งชำระช้าดอกเบี้ยก็ยิ่งบาน...เรื่องนี้เชื่อว่า ดุลยพินิจของศาล ย่อมใช้อำนาจผ่านทางธนาคารเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับลูกหนี้ด้วย (ผมเคยผ่านกระบวนการนี้)

นี่คือทางออกที่สวยหรูในกรณี ฮิคส์ และจิลเลตต์ ชนะ หรือศาลไต่สวนเลยกำหนด 15 ต.ค. แต่ถ้าหากศาลท่านไต่สวนแล้วให้ ฮิคส์ และจิลเลตต์ แพ้...

กลุ่มทุน NESV จะเป็นเจ้าของสโมสรใหม่ของลิเวอร์พูล หนี้สินกับแบงค์ถูกชำระและลิเวอร์พูลจะไม่โดนตัดแต้ม ที่น่าประทับใจยิ่งคือ

ฮิคส์ และ จิลเลตต์ กลับบ้านพร้อมกับสูญเงินในการลงทุนกับลิเวอร์พูลเกือบ 150 ล้านปอนด์ (เงินสองคนนี้)

เรื่องนี้ขอให้ติดตามอย่ากะพริบตาในสัปดาห์นี้นะครับ มีอะไรก็ อัพเดต ความคืบหน้าในกระทู้นี้ได้ตลอดเวลาครับพี่น้องหงส์แดงทั้งหลาย


--------------------------------

source: Jackie (siamsport)

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์