ลิเวอร์พูล

hit

0

Written on 12:50 by thaicourt


src=http://3.bp.blogspot.com/_M5A3Pc2D7I8/SoyR-UcXz0I/AAAAAAAAA9E/SJPHiFd3bys/s320/a5dec51df4a60c020ec1226b277f48a1.jpg
ช่วงที่ผ่านมา ผมได้รับ e-mail จากหลายๆท่านเขียนมาบอกว่า

อยากที่จะให้เพิ่มเติมในส่วนของ cocky funny เพราะรู้สึกว่ามัน
สนุกและได้ผลดี


ครับ ผมก็คิดเหมือนกัน สาว 2-3 คนที่ผมจีบติดช่วงหลังๆ มานี่
cocky funny (CF) มีส่วนสําคัญมาก ครับ ผมมาคิดดูแล้วถ้าไม่มี
CF นี่ผมคงจีบไม่ติดอย่างแน่นอน


ก่อนอื่นผมอยากจะพูดถึงทัศนคติที่คุณ ต้องมีเวลาที่ใช้ CF กันก่อน


สิ่งแรกที่คุณต้องมีซึ่งเหมือนกับการใช้ เทคนิคอื่นๆ ก็คือ คุณต้องไม่สนใจผลลัพธ์
เพราะอย่างที่รู้ๆกันอยู่ว่า ถ้าเราสนใจผลลัพธ์ เราก็มั่นใจแค่เปลือกนอก แต่ข้างในยัง
หวังที่จะให้เธอมาชอบ ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณก็จะไม่สามารถ CF ได้เต็มที่เพราะคุณกดดันตัวเอง


คุณไม่จําเป็นต้องกดดันตัวเองว่าจะต้อง จีบสาวคนนี้ให้ติดให้ได้ คุณไม่จําเป็นเลยครับ เพราะมัน
ไม่มีประโยชน์อะไรเลย คุณควบคุมเธอไม่ได้ คุณมี อิทธิพลกับเธอบ้างเท่านั้นเอง


สอง คุณควรจะอยู่ในอารมณ์ที่ดี อันนี้เห็นกันได้ชัดๆ เพราะเวลาที่คุณ CF เธอ คุณกําลังจะทําให้เธอขํา
ถ้าคุณกําลังอารมณ์ไม่ดีอยู่ คุณจะทําให้เธอขําได้หรือครับ?


เวลาจะใช้ CF กับสาวๆ ให้คุณคิดว่า อืมม ชั้นรู้ว่าเธอจะต้องชอบเพราะชั้นเป็นคน cocky funny
เธอจะต้องหัวเราะแน่ๆ ให้คุณคิดแค่นี้เวลาจะใช้มันทุกครั้ง ซึ่งพอคุณบอกตัวเองอย่างนี้นานๆเข้า ต่อไปคุณไม่ต้องคิดอย่างนี้อีกเลย
เพราะคุณจะรู้สึกเอง มันจะซึมเข้าไปเป็นธรรมชาติของคุณเอง คุณก็จะเริ่มเป็น dj โดยธรรมชาติ
focus อยู่ที่ความสนุกของ CF อย่าไป focus ที่ตัวผู้หญิงว่าเธอจะตอบสนองยังไง



เอาล่ะครับ เมื่อทัศนคติถูกต้องแล้วผมก็อยากจะให้คุณรู้ถึง concept อีกอันนึงคือ


Be Sexual คือ การที่เป็นคนเปิดในเรื่องเพศ ไม่ซ่อนมันไว้ข้างใน


การที่เราเล่นหูเล่นตากับผู้หญิง , สัมผัสเธอ, พูดเรื่อง sex กับผู้หญิง (พูดเฉพาะเมื่อมันเหมาะสมเท่านั้น)
อย่างนี้ถือเป็นการที่เรา sexual ทั้งหมด ดูง่ายๆ เลยก็คือ Nice guy เป็นพวกที่ปิดในเรื่องเพศ เป็นพวก Non-sexual
Nice guy จะไม่กล้าทําในสิ่งที่ผมบอกข้างต้น เพราะพวกเค้านึกว่ามันจะทําให้ผู้หญิงกลัว ตกใจ และหนีไปจากเค้า


src=http://2.bp.blogspot.com/_M5A3Pc2D7I8/SoyR0DPXlvI/AAAAAAAAA80/68TRG5SzaNM/s320/02c4150c47d162e2159b7e1fbe7657c3.jpgน่าสงสาร nice guy นะครับที่ไม่รู้ว่าผู้หญิงชอบผู้ชาย sexual


แต่การที่เรา sexual ไม่ใช่การที่เรา หื่นกาม สองอย่างนี้ต่างกันนะครับ
ถ้าคุณเดินไปเจอผู้หญิงคนนึงยังไม ่ได้รู้จักกันเลย คุณไปบอกเธอ หน้าอกคุณใหญ่จังเลยครับ ผมชอบ


เอ่อ... ถ้าไปพูดอย่างนี้ก็ตัวใครตัวมันครับ เพราะมันไม่ใช่ sexual แล้ว มันเกินไปกลายเป็นพวกบ้ากาม โรคจิต
เพราะฉะนั้นทําความเข้าใจให้ดีก่อนนะครับ



โอเค คราวนี้ผมอยากจะให้คุณใช้เทคนิค CF แต่ว่านํามันมารวมกับ Sexual ด้วย
เป็น CF + Sexual


เอ๊ะ! แล้วมันทํายังนะ คุณอาจจะยังสงสัยอยู่


ก้อไม่ยากครับ CF+ Sexual คือการพูดตลก แบบกวนๆ แซวนิดๆ และก็แฝงเรื่องเพศ เรื่อง sex เข้าไปด้วย



ทําไมถึงต้องใช้ CF + Sexual ?


จําได้มั้ยว่า ถ้าผู้หญิงรู้สึกสบายๆกับเราอย่าง เดียวแต่ไม่รู้สึกว่าเราเปิดในเรื่องเพศ เราจะเป็นได้แค่เพื่อน


ถ้าผู้หญิงรู้สึกว่าเราเปิดในเรื่องเพศแต่ ไม่รู้สึกสบายๆ relax เมื่ออยู่กับเรา เราจะกลายเป็น ไอ้โรคจิต บ้ากาม


แต่ถ้ามันมีทั้งสองอย่าง เธอรู้สึกสบายๆ กับเรา และเราเป็นคนที่เปิดในเรื่องเพศ ผู้หญิงจะจัดเราไปอยู่ในกลุ่ม
ที่อยากจะเป็นแฟนด้วย


CF+Sexual ทําให้เรามีทั้งสองอย่างครับ เจ๋งมั้ยล่ะครับ อิอิ



และเมื่อไรที่คุณถนัดการพูดแบบ CF+Sexual แล้วละก็ เตรียมตัวโดนสาวๆเข้ามารุมได้เลย!!!



CF + Sexual




1. ผมไปเที่ยวผับนึงกับสาวที่ผมกําลังจีบอยู่ ซึ่งวันนั้นเธอริน เหล้าให้ผมบ่อยมากๆ ผมเลยบอก
ผม : จะมอมเหล้าชั้นเหรอ?
เธอ : ใช่ ได้มั้ยล่ะ? เธอพูดและก็รินเหล้าส่งให้ผม
ผม : เสียใจด้วย ไม่ได้ ชั้นไม่ยอมให้เธอข่มขืนชั้นหรอกนะ สบตาพร้อมยิ้มด้วยความมั่นใจ กวนๆ
เธอ : ยิ้มและส่งสายตา sexy



2. ผมได้นัดสาวไปทานข้าวที่ร้านอาหาร ทานเสร็จผมก็ขับรถจะไปส่งเธอ
ระหว่างที่ขับอยู่นั้น เธอก็ได้เอนมาซบไหล่ผม บรรยากาศเริ่มเป็นใจ
พอดีรถติดไฟแดง ผมเลยก้มลงไปจูบหน้าผากเธอ เธอสบตากับผมครู่นึง
แล้วเราก็จูบกัน (ตอนนั้นตอนกลางคืนครับ ดึกแล้วด้วย รถผมติดไฟแดงอยู่คันเดียว
ไม่มีรถข้างๆ และข้างหลังครับ ^_^ ) จากนั้นเธอก็ถามผมว่า


เธอ : เป็นยังไง พอจะสู้สาวๆคนอื่นได้มั้ย?
ผม : อืมม อันนี้ต้องขอพิสูจน์ดูอีกครั้งนึงก่อน


ผมก้มลงไปจูบเธออีกสักพักนึง แล้วก็พูดว่า


ผม : โอ้ววว ทางสถาบันของเราขอมอบประกาศนียบัตรพร้อมทั้งโล่ห์ดีเด่นให้คุณ
ในฐานะที่คุณเป็นนักเรียนที่ทําคะแนนได้สูงสุด ทิ้งห่างคนอื่นๆขาดลอย


เธอ : หัวเราะพร้อมทั้งเข้ามากอดผม


ผม : เห็นรถ taxi แล่นผ่านรถผมไปหนึ่งคัน ผมหันกลับไปมองสัญญาณไฟ พร้อมคิดในใจว่า
ไฟแม่_เขียวตั้งนานแล้วนี่หว่า 55




3.ผมได้คุยโทรศัพท์กับสาวคนนึงที่ผมจีบมาสักระยะแล้ว เริ่มที่จะรู้สึกสบายๆกันแล้ว
คุยกันสักพัก ผมบอก


ผม : โอเค ไว้แค่นี้ก่อนละกัน เธอก็ไปนอนได้แล้ว มันดึกแล้ว
เธอ : อืม แล้วค่อยคุยกันใหม่
ผม : ได้ครับ แต่ว่าคืนนี้ไม่ต้องนอนฝันถึงผมก็ได้นะครับ พูดทีเล่นทีจริง
เธอหัวเราะนิดนึงแล้วพูดว่า : เดี๋ยวคืนนี้จะตามไปหลอกในฝันซะให้เข็ด




src=http://3.bp.blogspot.com/_M5A3Pc2D7I8/SoyR974FMNI/AAAAAAAAA88/3r6gGQmO5Do/s320/7899457f12a04cc93ccb839b4ac1ea3d.jpg4. ผมนัดสาวไปเที่ยว เธอแต่งชุดเกาะอกมา ผมเลยใส่ cocky funny ไปว่า


ผม : แต่งชุดแบบนี้ ผมว่ามันอันตรายนะครับ ทําทีเหมือนจะพูดจริงจัง
เธอ : เหรอ มันโป๊เกินไปเหรอ
ผม : คือมันก็ไม่มากหรอก แต่กลัวว่าอีกสักพัก จากเกาะอกมันจะมาเกาะที่เอวนะสิ ยิ้มกวนๆพร้อมส่ายหัว
เธอทุบผม : หาว่าชั้นหน้าอกเล็กเหรอ




5. อันนี้เอามาจากหนังเรื่อง FAKE เป็น ฉากที่พระเอกคือลีโอ พุฒ เจออั้ม นางเอกเป็นครั้งแรกในผับ
พระเอกเห็นนางเอกนั่งอยู่คนเดียว ท่าทางเศร้าๆ จึงเข้าไปนั่งคุย คุยอะไรไม่รู้ จําไม่ได้ สักพักนางเอกก็พูด



นางเอก : คุณรู้เหรอว่าชั้นเป็นคนยังไง?
พระเอก : รู้ คุณเป็นผู้หญิง ผมยาว ที่กําลังผิดหวังกับความรัก
นางเอก : แล้วอะไรอีกล่ะ?
พระเอก : แล้ว..คุณก็กําลังสนใจผม ยิ้มที่มุมปากนิดนึง สีหน้า แววตานิ่งมองที่ตานางเอก
นางเอก : เซ็นส์ได้ว่าพระเอกไม่ใช่ nice guy





6. อันนี้ก็มาจาก FAKE หลังจากที่พระเอก ลีโอ พุฒมีอะไรกับนางเอกแล้ว ตอนเช้าตื่นขึ้นมา
พระเอกก็หอมนางเอกแล้วก็คุยกันสักพัก นางเอกก็พูดว่า


นางเอก : คุณชอบชั้นตรงไหน?
พระเอก : ใครบอกว่าผมชอบคุณ? ยิ้มนิดๆ


แต่พระเอกก็เจอเอาคืนเพราะดันไปถามเธอกลับว่า


พระเอก : แล้วคุณล่ะชอบผมตรงไหน?
นางเอก : ใครบอกว่าชั้นชอบคุณ?


***ใครได้ดูหนังเรื่องนี้จะเห็นว่าลีโอ พุฒ พระเอกที่ตอนแรกมีลักษณะกึ่ง jerk กึ่ง donjuan กลับกลาย
เป็น nice guy เต็มตัวหลังจากที่รู้จักนางเอกไม่นาน (การเป็น nice guy ไม่ใช่เรื่องผิดแต่ต้องทําในเวลาที่เหมาะสม
พระเอกค่อนข้างจะเป็นแมนมากโดยปกติ แต่หลังจากเจอนางเอกแล้วกลับเฝ้าเพ้อถึงนางเอก ตลอดเวลา
กลายเป็นโคตร nice guy)


หรือบางครั้งถ้าเราอยากจะดัดแปลงให้เป็น CF + Neg hit ก็สามารถทําได้ได้ (พูดตลก เสียดสีที่แฝงไว้ด้วยการแซวข้อบกพร่องของเธอ)




src=http://3.bp.blogspot.com/_M5A3Pc2D7I8/SoyRz7itx-I/AAAAAAAAA8s/P2CKWkxNE8c/s320/0c8b954c560c12f25627796c61e786d6.jpgCF + Neg hit



7. ผมชวนสาวไปเที่ยว ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถ เธอก็โชว์รูปที่เธอไปถ่ายมาให้ผมดู


เธอ: เป็นไง น่ารักมั้ย?
ผม : อันนี้ คุณป้าที่ไหนมายืนโพสท่าอยู่เนี่ย?
เธอ : ทําหน้างอนๆ แต่อมยิ้ม
ผม : โอ๋ๆๆๆ ไม่เอาน่า ดูสิ งอนมากๆ ตีนกาขึ้นเลยนะ เอามือไปแตะที่ตาของเธอ
เธอ : ทุบแขนผม (อีกแล้ว)



8. อันนี้ผมใช้ตอนที่เธอถามผมว่าทําไม ผมถึงเข้าไปขอเบอร์เธอ


เธอ: ทําไมถึงมาขอเบอร์(ชื่อเธอ)ล่ะ เพื่อน (ชื่อเธอ) สวยกว่า(ชื่อเธอ) อีกนะ เปลี่ยนใจยังทันนะ
ผม : ก็(ชื่อเธอ) เป็นผู้หญิง ที่สะดุดตามากที่สุด พูดเหมือนจะจริงจังอีกแล้ว ^_^
เธอ: เหรอ สะดุดตายังไง? ทําเสียงดีใจ
ผม : ก็พอมองเข้าไปในกลุ่มแล้ว (ชื่อเธอ)เตะตามาก ตัวใหญ่ บึกบึน บดบังรัศมีคนอื่นๆหมดเลย
เห็นครั้งแรกแล้วรู้เลยว่า..ปกป้องเราได้ทั้งชีวิต ยิ้มกวน



***มุขปกป้องเราได้ทั้งชีวิต ยืมมาจากเดี่ยวไมโครโฟนของ โน้ต อุดม



9. ผมไปเที่ยวผับกับเธอ เธอหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ ผมมองไปที่คําเตือนบนซองเขียนว่า
สูบบุหรี่ทําให้แก่เร็ว ผมชี้ให้เธอดูคําเตือน เธอยิ้มนิดนึง ผมเอื้อมมือไปจับแก้มเธอ
แล้วก็พูด


ผม : ไม่น่าเชื่อ การสูบบุหรี่ทําให้คนเราแก่เร็วจริงๆ ผมส่ายหัวพร้อมกับถอนหายใจ
เธอ : หัวเราะแล้วก็แซวผมกลับว่า ผมก็แก่พอๆกับเธอนั่นแหละ



คําเตือน : ห้ามใช้ cocky funny มากเกินไป มิฉะนั้นอาจจะมีสาวๆมากมายมารุมล้อมโดยไม่รู้ตัวได้ ^_^

src=http://www.blogger.com/img/icon18_edit_allbkg.gif




Keyword listening


0

Written on 12:49 by thaicourt


src=http://2.bp.blogspot.com/_M5A3Pc2D7I8/SoyRI5RoFjI/AAAAAAAAA8k/SiBnVMWjB_g/s320/aa3ae9fc6a49959269cd30553c32bbdc.jpg


เอาล่ะครับ คราวนี้เราจะมาพูดกันถึงเทคนิคที่จะทํา ให้คุณคุยกับสาวๆได้อย่างไม่ต้องกังวล ว่าไม่มีอะไรจะให้คุย
ผู้ชายหลายคนมีปัญหามากครับ ในการคุยกับสาวๆแล้ว อึ้ง พูดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะคุยอะไรดี


คุณคิดว่าเวลาเราคุยกับสาวๆนั้นเรา ควรจะคุยเรื่องอะไรดีครับ เราควรจะคุยเรื่องอะไรที่จะทําให้เธอไม่เบื่อ?


ไม่ยากครับ คุยเรื่องเธอไงล่ะ!!!


กฎข้อที่ 1 ของการคุย คุณคุยเรื่อง ของเธอ ไม่ใช่เรื่องคนอื่น ไม่ใช่เรื่องตัวคุณเอง แต่คุณคุย เรื่องของเธอ!!!


ผู้หญิงถ้าได้คุยเรื่องของตัวเองส่วนมากจะสามารถเมาท์ ได้อย่างยาวนานข้ามปี บางครั้งเราแทบ จะไม่มีโอกาสได้อ้าปากเลยด้วยซํา
เรื่องของคุณและของคนอื่น คุณค่อยคุยเมื่อเวลาโอกาสมันมาถึงเท่านั้น เช่นเธอเล่าว่าเธอชอบไปทะเล คุณอาจจะเสริมเรื่องของคุณว่าคุณชอบไปทะเลเหมือนกัน
อะไรแบบนี้ โดยปกติแล้วการคุยที่ดีเราควรจะคุยเรื่องของ เธอประมาณ 70 % ของการคุยทั้งหมด


การคุยเรื่องของเธอ นอกจากมันจะทําให้เธอไม่เบื่อแล้วยัง มีอีกเหตุผลนึงที่ทําให้เราควรจะคุยเรื่องของเธอ คุณรู้มั้ยครับว่ามันคืออะไร?
ลองคิดดูสิครับ ผมเฉลยให้คุณทางด้านล่างแล้ว แต่อย่าเพิ่งไปดูเฉลยนะ ลองคิดดูก่อน



ถึงตอนนี้เรารู้แล้วว่าเราควรจะคุยเรื่องของเธอ คราวนี้จะทํายังไงไม่ให้การคุยมันขาดช่วง
ปัญหาที่ผมได้ยินผู้ชายถามบ่อยๆ ก็คือ เวลาคุยกับสาวๆ ไปได้สักพัก มักจะหมดเรื่องคุย บทสนทนาจะขาดช่วง
ทําให้รู้สึกอึดอัดทั้งคุณและเธอ


ปัญหานี้พบบ่อยมากครับ ยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่เงียบๆ พูดน้อยๆ อยู่แล้วเนี่ยก็ยิ่งจะรู้สึกลําบากมากในการคุยกับสาวๆ


ไม่เป็นไร ทางแก้มีอยู่แล้ว ง่ายนิดเดียว เพียงแค่ขอให้เราตั้งใจฟังสิ่งที่เธอพูดมา เราก็จะพบว่า ประโยคที่เธอพูดออกมานั้น
โดยส่วนใหญ่เธอได้บอกใบ้ถึงสิ่งที่เธออยากจะคุยต่อไปให้เรามาแล้ว วิธีนี้ใช้การสังเกตคําในประโยคที่เรียกว่า keyword ที่เธอพูดออกมาเท่านั้นเอง
keyword คือคําที่เด่นออกมาในประโยคที่เราสามารถนํามาตั้งเป็นคําถามใหม่ได้ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถคุยได้โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีอะไรให้พูดอีกต่อไป


วิธีนี้ผมเรียกมันว่า keyword listenning



ตัวอย่างที่ 1


เธอ วันนี้ไปเดินชอปปิ้งที่สยามกับผึ้งสองคน
ถ้าคุณตั้งใจฟัง คุณก็จะรู้ว่าเธอให้ keyword คุณมา 3 คํา


1. สยาม
2.ชอปปิ้ง
3. ผึ้ง


คําสามคํานี้แหละที่คุณสามารถนํามันมาตั้งคําถามใหม่ได้ คุณอาจจะถามเธอต่อไปว่า


สยาม-------- ทําไมถึงชอบไปสยาม?
ชอปปิ้ง-----เวลาไปชอปปิ้งชอบซื้ออะไร?
ผึ้ง-----------ไปชอปปิ้งกับผึ้งบ่อยแค่ไหน ทําไมชอบไปกับผึ้ง?



เห็นมั้ยครับว่าแค่ประโยคเดียวที่เธอพูดมา เราสามารถเอามาตั้งคําถามได้ตั้งหลายอย่าง
ง่ายนิดเดียวครับครับ แค่จับ keyword ที่เธอพูดมาให้ได้ จะว่าไปแล้วคล้ายๆเล่นต่อคํา
เธอพูดถึงอะไรเราก็ถามต่อไปถึงสิ่งนั้น เจาะลึกเข้าไป



ตัวอย่างที่ 2


เธอ อาทิตย์ก่อนไปเที่ยวภูเก็ตกับเพื่อนมา
เธอให้ทางเลือกคุณ 2 ทาง



1.ภูเก็ต
2. เพื่อน



ภูเก็ต------ภูเก็ตมีอะไรน่าสนใจบ้าง? ชอบตรงไหน?
เพื่อน------ไปกับใครบ้าง?


ตัวอย่างที่ 3


เธอ ชอบไปดูหนังที่เมเจอร์เวลาว่าง
ทางเลือก 3 ทางอีกแล้ว


1. ดูหนัง-----ชอบดูหนังแนวไหน?
2.เมเจอร์----ทําไมชอบไปเมเจอร์?
3.เวลาว่าง--แล้วเวลาว่างทําอย่างอื่นหรือเปล่า?


ไม่ยากเลยครับแค่ตั้งใจฟัง จับ keyword ที่เธอพูดมา คุณก็จะมีคําถามที่สามารถถามเธอได้มากมาย
เท่านี้คุณก็จะเป็นคนที่คุยเก่งขึ้นอีกมากทีเดียว!!!


เฉลยคําถามsrc=http://3.bp.blogspot.com/_M5A3Pc2D7I8/SoyQ4b17y5I/AAAAAAAAA8c/1_DMfhY2tm4/s320/ce63f7ddcf90c18157ca0cf357e5a9b0.jpg


เวลาที่เราคุยเรื่องของเธอมันจะทําให้ เธอเผยตัวตนของเธอออกมา ทําให้เธอรู้สึกว่าเปิดใจ
กับเรามากขึ้น เคยรูสึกกันใช่มั้ยครับว่า เวลาเราบอกเรื่องของเราให้ใครฟังก็ตาม ถ้าเค้าตั้งใจฟัง
เรื่องของเราเป็นอย่างดี เราจะรู้สึกว่าเราเริ่ม สนิทกับคนนั้นมากขึ้น เป็นจิตวิทยาครับ เพราะเวลาเรา
เล่าเรื่องส่วนตัวของเราให้คนอืนฟังเนี่ย จิต ใต้สํานึกมันจะรู้สึกเองเลยว่า


โอเคขณะนี้ฉันกําลังเปิดเผยเรื่องของฉันอยู่ เพราะฉะนั้นคนที่คุยอยู่ด้วยเป็นคนที่ฉันไว้ใจได้ เป็นคนที่ฉันสนิทด้วย
จิตใต้สํานึกเรามันจะคิดไปเองเลยครับ เพราะฉะนั้นถ้าเราทําให้เธอคุยเรื่องของ เธอได้มากเท่าไหร่
เธอก็จะเปิดใจให้กับเรามากเท่านั้น


และมันจะได้ผลยิ่งขึ้น ถ้าเรื่องของเธอนั้น เป็นเรื่องความรู้สึกของเธอ ชอบ ไม่ชอบอะไร
มีความรู้สึกต่อเรื่องนั้น เรื่องนี้ยังไง ถ้าคุณทําให้เธอเผยเรื่องความรู้สึกเธอออกมามากๆ
โอกาสที่เธอจะสนิทกับคุณก็จะเร็วยิ่งขึ้น


อย่าลืมนะครับ คุยเรื่องของเธอประมาณ 70 % ของการคุยทั้งหมด และถ้าจะให้ดีคุยเรื่องความรู้สึกของเธอ

src=http://www.blogger.com/img/icon18_edit_allbkg.gif




สันนิษฐานว่าเธอจะซื้อจากคุณ


0

Written on 12:43 by thaicourt


src=http://3.bp.blogspot.com/_M5A3Pc2D7I8/SmvtR8BG5QI/AAAAAAAAA4s/QUDLBSUZWl0/s320/9.jpg


ลองสมมุติกันว่าพวกเราเป็นคนขาย ของที่ต้องการจะ ขายสินค้าอะไรก็ได้ สักตัวนึง เอาเป็นว่าว่าเรา
เป็นคนขายเสื้อผ้าละกัน เป็นเจ้าของร้าน เสื้อผ้าแห่งหนึ่ง คุณเห็นลูกค้าคนหนึ่งเข้ามาในร้าน เค้าเดิน
ดูเสื้อผ้าไปเรื่อยๆ ทีละตัวๆ จนเกือบจะทั่วร้าน แล้วเค้าก็มาหยุดอยู่ตรงเสื้อตัวหนึ่ง


อืมม เค้าหยิบขึ้นมา พลิกดูข้างหน้า ข้างหลัง ขอบตะเข็บ เค้าหยุดดูเสื้อตัวนี้นานพอสมควร
คุณสังเกตุได้ว่าเค้าน่าที่จะสนใจเสื้อตัวนี้บ้างไม่มากก็น้อย คุณก็เลยเดินเข้าไปพูดว่า


สวัสดีครับ เสื้อตัวนี้นี่เป็นเสื้อดีไซน์แบบใหม่ล่าสุด สั่งตรงมาจากต่างประเทศครับ แบบเสื้อตัวนี้กําลังฮิตมากครับในหมู่วัยรุ่น
อื้มม ครับ สวยดี เขาตอบ
ครับ และเนื้อผ้าตัวนี้ก็ยังนิ่มมากครับ สวมใส่สบายเหมาะกับ อากาศร้อนอย่างเมืองไทย เรามีให้เลือกทั้งแบบ
สีแดงและสีขาวนนะครับ ไม่ทราบว่าคุณชอบสีไหนครับ แดงหรือขาว
'งั้นผมเอาสีแดงละกันครับ เขาตกลงซื้อ


อ่า ห้าาาา คุณทําสําเร็จ!!! คุณขายเสื้อได้แล้วเพราะว่าคุณ ได้ปฎิบัติตามกฎข้อที่ 1 ของนักขายที่ดี นั่นก็คือ


คุณสันนิษฐานว่าลูกค้าจะซื้อ


คุณไม่ได้ถามลูกค้าว่า คุณจะซื้อเสื้อตัวนี้หรือเปล่าครับ? ตรงกันข้ามคุณถามเค้าว่า คุณจะเอาสีแดงหรือสีขาวครับ
คุณบอกข้อดีของสิ่งที่ลูกค้ากําลังจะซื้อจากนั้น คุณก็ให้เค้าเลือกเองว่าจะเอาแบบไหน


คุณสันนิษฐานไว้ก่อนแล้วว่าเค้าจะซื้อจากคุณ!!!



ถ้าคุณปฎิบัติตามกฎข้อนี้รับรองว่ายอดขายคุณจะเพิ่มขึ้นจากเดิมแน่นอน รู้มั้ยครับว่ากฎข้อนี้ เป็นกฎที่
เซลล์แมนทุกคนรู้จักเป็นอย่างดี


เมื่อ 3-4 เดือนก่อนถ้าถ้าคุณเรียนอยู่มหาลัยใดมหาลัยหนึ่ง คุณคงเคยเจอเซลล์ที่มาขายบัตรลดดูหนังของ i-max คงยังพอจํากันได้ใช่มั้ยครับ ตอนนั้นมีอยู่วันนึงผมกําลังเดินอยู่กับเพื่อนผมคนนึงที่หน้ามหาลัย เซลล์คนนี้ก็เข้ามาทักทายอย่างเป็นกันเอง จากนั้นเค้าก็บรรยายสรรพคุณต่างๆของบัตรอันนี้เยอะแยะไปหมด พอเสร็จแล้วเค้าก็ถามผมกับเพื่อนว่า


น้องทั้งสองคนจะซื้อกี่ใบคะ พี่ว่าซื้อไปสัก 3 ใบนะคะจะได้เอาไปเผื่อแฟนน้องด้วย


อ้าาาาาาา เค้าไม่ได้ถามผมกับเพื่อนว่า น้องจะซื้อหรือเปล่าคะ? แต่เค้าให้ผมตัดสินใจว่าจะเอากี่ใบ
เค้าสันนิษฐานว่าผมจะต้องสนใจและซื้อไปอย่างแน่นอน ผมนั้นไม่ได้สนใจอะไรมากก็เลยไม่ได้ซื้อ แต่
เพื่อนผมมันตัดสินใจซื้อไป 1 ใบ ที่เซลล์คนนี้สามารถขายได้เพราะว่าปฎิบัติตามกฎการขายที่สําคัญ
นั่นคือการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเราจะสนใจ


อืมมม แล้วเราจะมาประยุกต์ใช้ในการจีบสาวได้ยังไง? ก็ไม่ยากครับ อย่างแรกคือให้คุณหาสาวคนที่คุณคิดว่า
น่าจะสนใจในตัวคุณอยู่บ้าง จากนั้นคุณก็นํากฎข้อนี้มาใช้


แต่ก่อนอื่นลองมาดูตัวอย่างที่ผิดที่ผู้ชาย ืnice guy ส่วนใหญ่ทํากันก่อน


เค้าเจอสาวสวยที่ชอบแล้วก็เดินเข้าไปคุยกับเธอ (ถ้าวันนั้นเค้ากล้าพอ) เธอก็ตอบสนองด้วยท่าทีที่โอเค เหมือนจะสนใจเค้าอยู่บ้าง
ทุกอย่างเหมือนจะไปด้วยดี แต่แล้วก็มาตายตอนจบเมื่อเค้าพูดขึ้นมาว่า ไม่ทราบว่าผมจะขอเบอร์โทรศัพท์คุณได้มั้ยครับ?
เธอนิ่งไปสักพักก่อนจะตอบกลับมา เอ่อ...... คือว่า ค่อยมาคุย ตอนที่เราเจอกันครั้งต่อไปดีกว่านะคะ


โอวว โนวววว ผิดพลาดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


การถามเช่นนี้สิ่งที่คุณให้ตัวเลือกเธอคือ ให้เธอตอบว่าได้ หรือ ไม่ได้ มีอยู่สองอย่าง
คุณไปเปิดโอกาสให้เธอปฎิเสธคุณได้ ไม่ดีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


ตรงกันข้ามถ้าเป็นดอนฮวนจะพูดว่า


ผมคิดว่าเราน่าจะทําความรู้จักกันไว้นะครับเพราะว่าอย่างน้อยเราคงจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ เบอร์โทรศัพท์คุณเบอร์อะไรครับ? จากนั้นนิ่งแล้วรอเธอตอบกลับมา ถ้าคุณอ่านเธอถูกว่าเธอพอจะสนใจในตัวคุณ เธอจะให้เบอร์คุณมาเพราะคุณไม่ได้ให้
ตัวเลือกปฎิเสธสําหรับเธอ คุณแค่บอกสิ่งที่ดีที่จะเกิดขึ้นถ้าเธอ ปฏิบัติตามจากนั้นคุณก็สันนิษฐานเอา เองเลยว่าเธอจะต้องให้เบอร์คุณ


src=http://3.bp.blogspot.com/_M5A3Pc2D7I8/SmvtRmH34II/AAAAAAAAA4k/nGAz5C1rHhM/s320/5.jpgหรือว่าจะเป็นตอนที่คุณชวนเธอออกเดท


เราน่าจะ ไปหาอะไรสนุกๆทํากัน วันเสาร์นี่นะ เธออยากที่จะไปโยนโบว์หรือ ไปดูหนังมากกว่ากัน
อ้อม อยากจะไปทานข้าว กันตอนกลางวันหรือตอนเย็น
หนิง สะดวกวันเสาร์หรือ วันอาทิตย์


ถ้าเธอสนใจคุณอยู่บ้าง โอกาสที่เธอ จะเลือกอย่างใด อย่างหนึ่งมีมากกว่า 70 % และก็
ขอแสดงความยินดีด้วยครับ!!!! คุณจะได้ไปออกเดทกับสาวคนที่ คุณชอบแล้ว



หรือถ้าเธอลังเล ปฎิเสธคุณก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวล นี่เป็นธรรมชาติของผู้หญิงที่ไม่สามารถจะตอบตกลงผู้ชายได้ในครั้งแรก
รอจนกว่าคุณคิดว่าความสนใจเธอเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ทําให้เธอรู้ว่าคุณไม่ได้รีบเร่งจะให้เธอตอบตกลง ให้เธอรู้ว่าคุณก็ไม่ได้อยากจะฝืนให้บางสิ่งบางอย่างมันเกิดขึ้น โชว์ให้เธอเห็นว่าคุณเป็นคนที่สบายๆ รีแลกซ์ และเมื่อเวลาที่ดีมา ถึงค่อยลองถามเธอใหม่อีกครั้งนึง



สิ่งที่ต้องจําไว้อีกอย่างนึงก็คือคุณต้องไม่ลังเล สีหน้า นํ้าเสียง แววตา ต้องแสดงออกมาว่าคุณมั่นใจว่า
เธอจะต้องตกลง คุณต้องเชื่ออย่างเต็มที่ว่าเธอจะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง และเมื่อนั้นเทคนิคนี้ก็จะมีประสิทธิภาพสูงสุด


อย่าลืมนะครับ สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเธอสนใจ!!!

src=http://www.blogger.com/img/icon18_edit_allbkg.gif




พจนานุกรมดอนฮวน


0

Written on 12:39 by thaicourt


src=http://4.bp.blogspot.com/_M5A3Pc2D7I8/Smvsp0XTHDI/AAAAAAAAA4c/dxJkrhOf2EM/s320/10.jpg

การเป็น dj โดยส่วนมากแล้วเราจะสื่อให้คน อื่นได้รู้ด้วย
ท่าทาง และลักษณะภายนอกแต่ว่าคําพูดนั้นก็ เป็นสิ่งที่จําเป็นที่จะต้องมี
เพราะว่ามันจะเป็นประโยชน์อย่างมาก ถ้าคุณสามารถสื่อสารได้ดีทั้ง
คําพูดและท่าทาง


แต่อย่างไรก็ตามคําพูดนั้นจะต้องมาพร้อม กับท่าทางภายนอกเสมอ
ถ้าคุณได้อ่าน เจมส์บอนด์คอมบิเนชั่น ในบทที่5นั่นแหละคือลักษณะที่ดีที่ควรจะมี
ไว้


เอาล่ะ ต่อไปนี้คือ คําหรือประโยคที่คุณจะต้องตัดไปจากพจนานุกรม dj
คุณจะต้องหลีกเลี่ยง ไม่พูดคําเหล่านี้ เรียกว่าลืมไปเลยว่ามีอยู่ในภาษาไทย


ไม่แน่ใจ ไม่รู้สิ จะเอายังไงดี ทํายังไงดี หรือคําอื่นๆที่มีความหมายคล้ายๆกัน


คุณจะต้องพยายามหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด ถ้าเกิดคุณไม่แน่ใจบางอย่างขึ้นมาจริงๆ คุณจะต้องนิ่งเข้าไว้ ทําให้เหมือนกับว่าไม่มีอะไรสามารถมาทําอะไรคุณได้ เหมือน คุณรู้ว่าปัญหามันจะแก้ไปได้ด้วยดี



ไม่ว่าปัญหาเหล่านั้นมันจะเล็กน้อยหรือใหญ่โตแค่ไหน คุณก้อจะไม่พูดคําเหล่านี้ออกมา คุณต้องฝึกให้มันเป็นธรรมชาติ เพราะ dj คือคนที่ไม่เคยหวั่นไหวเมื่อปัญหารอบข้างเข้ามากระทบ เค้าพร้อมที่จะแก้ปัญหาอยู่ตลอดเวลา


ลองดู เมื่อคุณตัดคําเหล่านี้ออกไปจากพจนานุกรมได้เมื่อไหร่ คุณก็จะรู้สึกว่าตัวเองมั่นใจอย่างมาก เพราะคุณไม่เคยบอกกับตัวเอง เลยว่าคุณไม่มั่นใจ!!!

src=http://www.blogger.com/img/icon18_edit_allbkg.gif







กระทู้เด็ดน่าแชร์