ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก : ลิเวอร์พูล 2-2 ซันเดอร์แลนด์

src=http://sport.mthai.com/wp-content/uploads/2010/09/head-11.jpg


ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก


วันเสาร์ ที่ 25 กันยายน 2553


ลิเวอร์พูล 2-2 ซันเดอร์แลนด์


เริ่มมาได้เพียงสองนาที ตอร์เรส ก็จังหวะกระโดดสับไกด้วยขวาเต็มเท้า บอลเสียบคานอย่างงาม แต่ไลน์แมน กลับยกธง ล้ำหน้าไปซะก่อน และถัดมาในนาที ที่ 6 ลิเวอร์พูล ก็ออกนำจังหวะส้มล่น จากเทอร์เนอร์ เขี่ยลูกคืนหลังเบา ตอร์เรสวิ่งไปฉกบอล ก่อนไหลบอลให้ เค้าท์ แปเข้าประตูไปง่ายๆ ลิเวอร์ออกนำอย่างรวดเร็ว 1 ประตู 0 ในาทีที่ 6 อย่างง่ายดาย


src=http://sport.mthai.com/wp-content/uploads/2010/09/215-300x279.jpg
15 นาที ผ่านยังเป็นทางด้านทีมลิเวอร์พูลที่ยังทำเกมรุกได้ดูดีกว่าซันเดอร์แลนด์อยู่เยอะ  โดยทางซํนเดอร์ทำได้เพียงแค่เคาะบอลกันไปมาบริเวณกลางสนามเท่านั้น ซึ่งทางลิเวอร์พูลใช้การขึ้นเำกมทาง ซ้ายและขวา โดยเฉพาะเค้าท์ มีบทบาทกับเกมรุกของลิเวอร์พูลอยู่มากที่เดียว


มาถึงนามฃที ที่ 20 เรน่า ก็เกือบปล่อยไก่ จากจังหวะจับไกลตัวเว่อร์ ก่อนที่ เแดนนี่ เวลเบ็ค จะวิ่งเข้ามาแย่งบอล แต่เราน่ายังไววิ่งเข้าไปเตะบอลไปได้แบบหวุึดหวิด


และ อีก 5 ที่ต่อมา ซันเดอร์แลนด์ ก็มาได้ลูกจุดโทษ จากจังหวะการทำแฮนด์บอลในเขตโทษ ของคริสเตียน โพลเซ่น และ เบนท์ ก็รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ซันเดอร์แลนด์ไล่ตีเสมอ มาเป็น 1 ต่อ 1 แล้ว


30 นาทีผ่าน กลายเป็นซันเดอร์แลนด์ ที่เหมือนบอลได้ใจหลังจากได้ลูกตีเสมอ ไล่บุกกดดันใส่ลิเวอร์พูล ได้อยู่ตลอดโดยเปอร์เซน การครองบอลกลับมาเหนือกว่าลิเวอร์แล้ว โดยเกมบุกของลิเวอร์พูล เริ่มทำกันเสียเองในแดนกลางซะเป็นส่วนใหญ่src=http://sport.mthai.com/wp-content/uploads/2010/09/313-300x201.jpg


40 นาที ผ่านลิเวอร์ก็คงยังซ้อมเกมรับอยู่อย่างตลอด เล่นบอลกันเหมือนอยากจะโดนยิง แล้วถึงตอนนี้ ตอร์เรส ดูเหมือนจะมีอาการบาดเจ็บ ที่เข่าซ้าย


เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรก ทดเจ็บ สองนาที แต่ลิเวอรืก็ยังส่งบอลกันขาดๆเกินในแดนกลางอยู่ตลอด เรียกได้ว่าซิมง มิกโยเลต์ ผู้รักษาประตูของซันเดอร์แลนด์ยืนเบื่ออยู่หน้าประตูตัวเอง แบบไม่มีงานทำ จบครึ่งแรก ก็ยังเสมอกันอยู่ 1 ต่อ 1


เริ่มเกมมาในครึ่งหลังมาได้เพียวสองนาที เบนท์ก็มาโขกให้ซันเดอร์แลนด์ หนึลิเอสร์พูลเจ้าบ้านเป็น 2 ต่อ 1 แล้ว และจากรูปเกมเบนท์ มีโอกาสทำแฮททริก ได้อีกด้วย


55 นาทีผ่านรูปเกมของลิเวอร์พูลยังคงสู้ซันเดอร์แลนด์ไม่ได้เลย เป็นรองอยู่เยอะทั้งการครองบอล การจ่ายบอลที่ผิดพลากกันอยุ่ตลอด


เข้านาทีที่60 ซันเดอร์มีดอกาสยิงประตูไปแล้ว 11 ครั้ง ส่วนลิเวอร์พูล มีโอกาสยิงเพียง 5 ครั้้งเท่านั้น แต่ๆๆๆ!!! จังหวะต่อมาในนาที 63 พี่เจิดก็วิ่งเข้าโมงบอลเต็มหัว จากการกระชากของตอร์เรสก่อนเปิดเข้ากลาง ลิเวอร์พูลไล่ตามตีเสมอ มาเป้น 2 ต่อ 2 แล้ว


แล้วหลังจากเพียง 3 นาที นักเตะลิเวอร์พูล ก็ต้องเสียเลือด จากจังหวะขึ้นโขกกันเอง ของเจมี่ คาร์ราเกอร์และ มาร์ติน สเคอร์เทล จนใต้เบ้าตาของคาร์ราเกอร์ แตก ส่วนศรีษะของสเคอร์เทล ก็มีเลือดซึมออกมาเช่นกัน


เข้าสู้ นาทีที่ 70 รูปเกมของลิเวอร์พูลดูดีขึ้นมาทันตาเห็น โดยเฉาพะเสียงเชียร์ที่ดังสนั่น ทำให้นักเตะลิเวอร์พูลกลับมาเล่นกันได้ดีขึ้นมาก


นาทีที่ 75 เอนก็อก ตัวสำรองที่ลงมาแทน โพลเซ่น ก็โชว์จังหวะโยกหลอก ก่อนสับด้วยขวาเต็มเท้า แต่ ซิมง มิกโยเลต์ ก็ปัดออกมาได้แบบหวุดหวิด ถือว่าเป็นโอกาสน่าได้ประตูขึ้นนำอย่างมาก


นาที 80 ซันเดอร์ก็ส่งไม้ตายตัวสุดท้ายลง อย่างทางด้าน กียาน มาแทน เวลเบ็ค เพื่อหวังยิงประตูชัยในช่วงเวลาที่เหลือ


ถึงตอนนี้ลิเวอร์แถบจะบุกอยู่ฝ่ายเดียวแล้ว และมีโอกาสยิงหลายครั้ง จาก เอนก็อก แต่แนวรับของซันจเดอร์แลนด์ ก็ยังไม่พลาด


และนาที 87 เกล็น จอห์นสัน ก็ได้จังหวะสับ ด้วยซ้าย เต็มเท้า บริเวณหน้าเขตโทษ แต่บอลก็พุ่งหลุดกรอบออกไปนิดเดียวเท่าั้นั้น


และช่วงท้ายเกม แฟนหงส์แดง ก็ได้ยิ้มและมีลุ้นกันอีกรอบ เพราะกรรมการชูป้าย ทดเวลาบาดเจ็ยถึง 6 นาที และช่วงทดเจ็บนาทีที่ 4 ลิเวรอ์พูล ก็พลาดได้โอกาสขึ้นนำแบบไม่น่าเชื่อ จากจังการสกัด จากปากประตูของเทอร์เนอร์ แบบหวุดหวิด


และอีกสองนาที แอ็กเกอร์ ก็โขกบริเวณ กรอบหกหลา หลุดกรอบไปแบบไม่น่าให้อภัยเลย และสุดท้ายลิเวอร์พูล ก็ทำได้แค่เสมอกับซันเดอร์แลนด์ ไป 2 ต่อ 2


รายชื่อผู้เล่น 11 คน ของทั้งสองทีม


ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า – เกล็น จอห์นสัน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, พอล คอนเชสกี้, คริสเตียน โพลเซ่น, ราอูล เมยเรเลส, เดิร์ก เค้าท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, โจ โคล, เฟร์นานโด ตอร์เรส


ซันเดอร์แลนด์ : ซิมง มิกโยเลต์, เนดุม โอนูโอฮา, ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์, ไตตัส บรัมเบิ้ล, ฟิล บาร์ดสลี่ย์, อาห์เหม็ด อัล-มูฮัมมาดี้, ลี แคตเทอร์โมล, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สตีด มัลบร็องก์, เแดนนี่ เวลเบ็ค, ดาร์เรน เบนท์


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์