เรน่าเซฟอุตลุดหงส์ยันลูกโลกลิ้นห้อย 0-0

เรน่าเซฟอุตลุดหงส์ยันลูกโลกลิ้นห้อย 0-0

เปเป้ เรน่าลืมฝันร้ายจากเกมอุ่นเครื่องอย่างรวดเร็วหลังโชว์ฟอร์มซูเปอร์เซฟนับไม่ถ้วนช่วยชีวิตหงส์แดงลิเวอร์พูลบุกยันเสมอกับทีมแกร่งในบ้านอย่างเบอร์มิงแฮมแบบโนสกอร์ขยับจาก 15 มาอยู่ที่ 13 มี 5 แต้มจาก 4 นัด

พรีเมียร์ลีก

วันอาทิตย์ที่ 12 กันยายน 2553


เบอร์มิงแฮม 0-0 ลิเวอร์พูล

ประตู : ไม่มี


รอย ฮอดจ์สันกุนซือลิเวอร์พูลส่งพอล คอนเชสกี้แข้งใหม่ลงเล่นนัดแรกในตำแหน่งแบ็คซ้ายทำให้ดาเนี่ยล แอกเกอร์ต้องนั่งสำรองส่วนราอูล เมเรเลสแข้งใหม่อีกคนนั่งสแตนด์บายที่ม้านั่งสำรอง

ด้านเบอร์มิงแฮมมีตัวเก๋าๆอย่างแม็คฟาดเด้น,โบว์เยอร์และแบร์รี่ เฟอร์กูสันที่ทำให้แดนกลางปึ๊กสุดๆ

ครึ่งแรก

เกมดูเชิง
ช่วงต้นเกมทั้งคู่เล่นแบบนวยนาดค่อยๆถ่ายบอลแล้วฉาบฉวยแต่ดูเหมือนลูกโลกจะได้บอลขึ้นเกมมากกว่านิดๆแต่ยังไม่มีจังหวะอะไรสวยๆเลยตลอด 10 นาทีแรก

ตอร์เรสตั้งยิงแป๊กเฉย
แต่เล่นไปเล่นมาลิเวอร์พูลเริ่มเก็บบอลและเคาะกันได้มากขึ้นนาที 11 มีโอกาสแรกในเกมนี้โดย GJ ลากจี้ขึ้นมาทางริมกรอบโทษมีสองกองหลังคอยประคองก่อนปาดเลียดมาที่จุดนัดพบให้ตอร์เรสวิ่งมายิงจากระยะ 12 หลาบอลแป๊กเสียราคาออกหลังไปเอง ลูกนี้หักข้อยิงดีๆอาจถึงหายกันเลยทีเดียว

หงส์คุมเกมแล้ว
ดูจากทรงบอลแล้วหงส์แดงประสานงานกันได้โอเคเลยนักเตะมีการเคลื่อนไหวทำให้การต่อบอลสามารถถ่ายได้เร็วเพื่อนเห็นแล้วให้ได้แต่ปัญหาคือตอนเข้าเขตอันตรายบอลยังไม่มีอะไรให้เสียวเลยยกเว้นลูกยิงแป๊กของเอล นินโญ่

เรน่าซูเปอร์เซฟ
แต่นาที 22 เบอร์มิงแฮมน่าจะได้ประตูขึ้นนำอย่างที่สุดหลังจังหวะฟรีคิกกลางสนามเจ้าถิ่นเล่นเร็วบอลออกไปทางซ้ายแล้วลี โบว์เยอร์เปิดบอลเกือบๆจะปีกซ้ายย้อยมาเข้ากบาลคาเมรอน เจโรมที่โถมมาโขกกดลงพื้นจากระยะ 8 หลาเรน่าล้มตัวปัดเหลือเชื่อ ลูกนี้น่าเข้าสุดๆ

ลูกโลกเริ่มติดเครื่อง
อย่างไรก็ตามเกมของทีมเยือนเริ่มป้อแป้และแนวรับต้องทำงานหนักมากขึ้นแถมคาร์ราเกอร์ทำฟาว์ลบนเส้น 18 หลาเสียฟรีคิกดีที่แม็คฟาดดเด้นปั่นข้ามคานออกไปเอง

ลูคัสโดนเก็บ 2 หนยังไม่เจ็บ
แฟน+ผู้เล่นเจ้าถิ่นปวดหัวเพราะลูคัสโดนเก็บสองครั้งจังหวะแรกการืดเนอร์เข้าช้าตอนลูลู่พักอกแล้วลื่นพอจิ้มบอลออกไปเลยถูกยัน จังหวะนี้โดนใบเหลืองแต่แข้งแซมบ้าไม่แสดงอาการเจ็บใดๆจากนั้นไม่นานแบร์รี่ เฟอร์กูสันเข้าช้าอีก ลูคัสด่าแหลกกรรมการเข้ามาเตือนและสุดท้ายก็ยังลุกมาเล่นต่อสบายๆ

ลูคัสไม่รู้ใจโพลเซ่น
นาที 33 โพลเซ่นเซ็งลูคัสอุตสาห์บังบอลในเขตโทษหมายจะให้ฉกไปเล่นต่อแต่มัวแต่คิดถึงพ่ออยู่เลยช้าเจอฉกยังดีที่เจโรมยิงข้ามคานออกไปเอง ไม่งั้นมีฮา

เรน่าช่วยชีวิตหงส์
อีก 3 นาทีต่อมาลิเวอร์พูลเกือบโดนหลังลาร์สสันเปิดบอลจากปีกขวาเจโรมพุ่งตอปิโดโขกระยะแค่ 6 หลาคนเดียวแต่เรน่าอ่านเกมออกปรี่ออกมาชกสองมือ

เรน่าโคตรพ่อเซฟ!!
ทีมเยือนรอดตายอย่างไม่น่าเชื่ออีกครั้งในนาทีต่อมาจากจังหวะเปิดบอลของคาร์ให้การ์ดเนอร์เขกเผาขน 5 หลาคนเดียวเต็มๆแต่บอลไปตรงตัวเรน่าที่ล้มตัวปัดมือเดียวก่อนกองหลังเคลียร์ทิ้งทันควัน ไม่เข้าได้ยังไงลูกนี้ แต่เหมือนเบอร์มิงแฮมเน้นเจาะทางคอนเชสกี้ที่หลุดตำแหน่งบ่อย

ท้ายเกมหงส์แดงโงหัวไม่ขึ้นกันเลยทีเดียวเรียกว่าจากที่เคยแอ๊บอยู่นานต้องประคองเอาตัวรอดเล่นเอารอย ฮอดจ์สันส่ายหัวเลยทีเดียว หมดครึ่งแรกเป็นเจ้าถิ่นที่เล่นดีกว่าก่อนเสมอ 0-0

ครึ่งหลัง

โผล่มาขิงซัดเสียว
เล่นมา 28 วินาทีลูคัสโหม่งลูกที่เบอร์มิงแฮมเคลียร์ตั้งให้เจอร์ราร์ดวอลเลย์ตามน้ำหน้าเขตโทษบอลติดไซด์แต่เบาไปเข้ามือฟอสเตอร์ที่ล้มตระครุบเอาไว้ได้ทัน

หงส์เกือบโดนอีก
นาที 57 ลูกฟรีคิกไกลลิเวอร์พูลคุมคนกันไม่อยู่อีกแล้วปล่อยให้ xx ล้มตัวโขกตรงระยะ 7-8 หลาตกพื้นข้ามคานออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ

ตอร์เรสซัดมุมแคบติดเซฟ
ผ่านหนึ่งชั่วโมงมากราฟฟิคขึ้นว่าลูกโลกครองบอลมากกว่าเล็กน้อยและเกมก็เริ่มเปิดมากขึ้นแล้วและนาที 63 จังหวะสวนกลับโยวาโนวิชเคาะบอลไหลให้เจอร์ราร์ดแทงเข้าในเขตโทษมุมแคบให้ตอร์เรสที่จับแล้วยิงยัดตรงนั้นเลยแต่ฟอสเตอร์ยืนปิดมุมมิดปัดสองมือออกหลังเอาเตะมุมไว้ก่อน ถ้าเข้าก็มหัศจรรย์แล้ว

วันนี้เจอร์ราร์ดมีแผลที่หูเลือดไหลตลอดเวลาทำให้แพทย์ต้องเอาผ้ามาโพกให้เล่นเอาเจ้าตัวหงุดหงิดเพราะต้องออกจากสนามปฐมพยาบาลหลายทีแล้ว

คอนเชสกี้เกือบทำพัง
นาที 70 คอนเชสกี้ไปเคลียร์ทิ้งที่เส้นหลังแป๊กเลยไปเข้าทางคาร์ที่เปิดสวนโป้งจากปีกขวาย้อยไปเสาสองให้เจโรมโขกเฉี่ยวเสานิดเดียว คอนเชสกี้วันนี้เล่นดีกับไม่ดีสลับกันไป

เมเรเลสแทนลูคัส
อีก 6 นาทีต่อมาเดอะค็อปกระทืบสะใจต่อหน้าคอมหลังปู่รอยเปลี่ยนเอาเมเรเลสลงมาแทนลูคัส เลว่าหลังเห็นเกมเนือยและไม่มีโอกาสลุ้นทำประตูเท่าไหร่

แต่ในจังหวะเดียวกันคอนเชสกี้เจ็บเล่นต่อไม่ไหวต้องให้แอกเกอร์ลงแทน

เมเรลสกับแอคชั่นในสนาม
ลงมาไม่เท่าไหร่อาจไม่เห็นความแตกต่างมากนักแต่การขยับหรือวิ่งจะดักทางของเมเรเลสแสดงให้เห็นเลยว่าเซนส์บอลแจ่มแจ๋วแถมนาที 80 ตอนที่เก็บบอลแล้วคืนให้เพื่อนก่อนวิ่งทำทางแต่มักซี่ดันใจร้อยรีบโยนให้ตอร์เรสทำให้แข้งทีมชาติโปรตุเกสต้องทำมือบอกส่งมาที่ตัวอย่ารีบโยน

ท้ายเกมแอบกลับมาสนุกอีกครั้งเพราะใครได้บอลนี่พาสวนขึ้นมาได้ลุ้นเสียวกันตลอดแล้วช่วงทดเจ็บลิเวอร์พูลเกือบได้ประตูชัยหลังลูกเปิดยัดของแอกเกอร์บอลเลยมาเสาสองเป็นเมเลเรสเข้าชาร์ตเผาขนมุมแคบแต่ผิดเหลี่ยมบอลปลิ้นไม่ได้ลุ้นแถมเหมือนล้ำหน้าด้วยแต่ทำอะไรกันไม่ได้เสมอ 0-0 แบ่งกันไปคนละแต้มเหมือนซีซั่นก่อนที่เสมอทั้งเหย้าและเยือนโดยลิเวอร์พูลขยับขึ้นมาอยู่ที่ 13 ส่วนเบอร์มิงแฮมอยู่ที่ 6

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

เบอร์มิงแฮม :
เบน ฟอสเตอร์,สตีเฟ่น คาร์,โรเจอร์ จอห์นสัน,สก็อต แดน,เลียม ริดจ์เวลล์,เซบาสเตียน ลาร์สสัน,แบร์รี่ เฟอร์กูสัน,ลี โบว์เยอร์,เคร็ก การ์ดเนอร์ ,เจมส์ แม็คฟาดเด้น(ซิกิซ น.90),คอเมรอน เจโรม

ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า *,เกล็น จอห์นสัน,เจมี่ คาร์ราเกอร์,มาร์ติน สเคอร์เทล,พอล คอนเชสกี้(แอกเกอร์ น.78),ลูคัส เลว่า(เมเรเลส น.76),คริสเตียน โพลเซ่น,มักซี่ โรดริเกซ,มิลาน โยวาโนวิช,สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด,เฟร์นานโด ตอร์เรส

















_________________
##### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์