แสงสว่างที่แอนฟิล

ประทับใจและตื่นเต้น กับ แนวทางที่เปลี่ยนไป

ออกมาตั้งกระทู้แบบนี้ สงสัยคงโดนแฟนบอลทีมอื่นๆ ออกมาเน็บแนมแน่ๆครับ แต่ใครจะแคร์ครับ เพราะนี่คือที่ของแฟนบอลลิเวอร์พูล ถ้าไม่แสดงความรู้สึกหรือเขียนถึงลิเวอร์พูลที่นี่(ดอทคอม) แล้วจะไปเขียนที่ไหน ...อิอิ 

ก่อนอื่นต้องบอกอย่างนี้ก่อนครับ ผมเองส่วนตัว ปีนี้ความหวังต่อลิเวอร์พูล ผมไม่ได้คาดหวังโทรฟี่ใดๆครับ เพราะยอมรับกับสภาพของหงส์เวลานี้ครับ ที่เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง ซึ่งคงต้องให้เวลากับนักเตะ ผู้จัดการทีมกันตามธรรมเนียม แต่ไม่ได้หมายถึงผมไม่ได้แอบภาวนาให้เกิด เพราะยังไงผมก็อยากเห็นหงส์แดง กลับมาสู้ความยิ่งใหญ่อีกครั้งอย่างที่สุด ฤดูนี้ ผมแค่หวังให้หงส์แดง สร้างทีมด้วยศักยภาพที่ควรจะเป็น การสร้างทีมเวิร์ค การประสานที่ลงตัวของผู้จัดการ นักเตะ และแฟนบอล ที่จะช่วยกันสร้างความเชื่อมั่นกลับมา และอย่างน้อยให้เราจบฤดูการด้วยโควต้า แชมป์เปี้ยนลีก นั่นคือสิ่งที่ผมหวังที่สุดใน ฤดูกาลนี้ครับ

เกมส์เมื่อคืนนี้ ผมได้มาดูก็ตอน นาที30กว่าๆ และจากสถิติที่เห็นในทีวี อาเซนอลครองบอลได้มากกว่า ทำให้ผมพอนึกภาพออกเลยว่า เราคงโดนบุกอยู่ข้างเดียว จนได้เห็นจังหวะยิงของจอนสัน และใบแดงของโจโคล(ไม่อยากจะพูดอะไรเลยกับใบแดงนี้ที่มากเกินเหต) และพอเริ่มต้นครึ่งหลังมา เรามีนักเตะในสนามแค่10คน แต่เกมส์ของเรากลับ ดูมีระบบ และค่อยๆเซตเกมส์ แถมยังได้ประตูแรกมาอย่างรวดเร็ว จากความสามารถเฉพาะตัว และแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่ไม่ค่อยได้เห็นเลยจาก เดวิด เอ็นกอก ซึ่งผมถือว่า เป็นสิ่งที่ดีและจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับหงส์แดงในปีนี้
กองหลังเรา เล่นง่ายๆ ดูแน่นขึ้น ไม่ยุ่งยากสับสน ไม่เตะทิ้งเตะขว้าง กองกลางเราประสานกันได้อย่าง เข้าใจง่าย และช่วยกันสอดรับได้ดี มันทำให้ผมเห็นว่า หงส์แดง ในยุคที่ผ่านมา 5-6 ปี เล่นกันยากเกิน ซึ่งไม่อยากพูดถึงเรื่องเดิมๆ แต่สิ่งที่ผมเห็นในแอนฟิลเมื่อคืนนี้ มันทำให้ผมรู้สึกว่า นี่คือลิเวอร์พูลที่จับต้องได้ และสัมผัสได้

คืออะไร ลิเวอร์พูลที่จับต้องได้ สัมผัสได้ .....ผมกำลังพูดถึง เกมส์ที่เราในฐานะแฟนบอลที่ติดตามมาตลอด เวลาเราหงส์แดงเตะ เราจะรู้จัดนักเตะ สไตล์การเล่น ทักษะ ความสามารถแต่ละคน ซึ่งหากใครเล่นดี เล่นไม่ดี เราจะนึกในใจว่า ควรให้พัก ควรเปลี่ยนออก ควรให้คนนั้นลงแทน ควรส่งตัวนั้นไปเสริม ซึ่ง เราไม่มีทางคาดเดา หรือตั้งความหวังได้เลย กับลิเวอร์พูลในยุค ราฟา ซึ่งอีโก้ และทำทีมเหมือนจะสร้างโมเดลอะไรสักอย่าง ที่คิดว่าเหนือธรรมชาติ และเหมือนอยากเป็นผู้สร้างสูตรใหม่ แบบผู้วิเศษ (ว่าจะไม่พูดถึงแล้วเชียว)

แต่ในยุคของ รอย ฮัดสัน ผมกลับเห็นการแก้เกมส์ง่ายๆ ตามธรรมชาติ การไม่รีรอที่จะแก้เกมส์ เปลี่ยนตัว การจัดตัวนักเตะ ที่ไม่ฝืนธรรมชาติ และแฟนบอลอย่างเราๆ คาดเดาได้ ทำให้เรามีส่วนร่วมในเกมส์ไปด้วย ไม่ต้องอึดอัดกับความคิดเหนือมนุษย์ แก้เกมส์แบบพวกนอกโลก รอย ฮัดสัน แสดงให้เห็นว่า การส่งนักตามความสามารถของนักเตะ ตามธรรมชาติ นั่นทำให้นักเตะเองก็มีความสุข และถนัด คุ้นเคยในการเล่น ผลงานมันจะออกมาดีเอง เราเองแฟนบอลก็มีส่วนร่วมในเกมส์เช่นว่า การอ่านเกมส์ตามไปด้วยกัน และพูดหน้าจอทีวีว่า คนั้นควรลงได้แล้ว คนนี้ควรพักได้แล้ว    ..... สิ่งเหล่านี้ ทำให้ผมพอมองเห็นแสงสว่างที่ส่องลงมายังแอนฟิลครับ ว่าสปีริตในทีมกำลังจะกลับมา ผู้จัดการ นักเตะ และแฟนบอล เรากำลังจะสร้างทีมไปด้วยกัน และนั่นคือความสุขที่สุดของการเชียร์และรักในฟุตบอล ทีมลิเวอร์พูล และนั้นคือ ฟุตบอลที่เราจับต้องได้ สัมผัสได้

ปล. ขอพูดถึงผลของเกมส์เมื่อคืนนิดนะครับก่อนจะจบ ผลเสมอกัน ถือว่าสมหวังครับ หากนึกถึงเรื่องที่เราเหลือสิบคน กับทีมที่ทีมเวอร์ดีอย่างอาเซนอล และการผิดพลาดของ เรน่า ผมยอมรับได้ครับ เค้าทำดีที่สุดแล้ว ก่อนหน้านี้สองสามจังหวะ เรน่าเหมือนเสียสมาธิ ไป มีจังหวะออกไปตัวพลาดๆหลายครั้ง เหตุผลนึง ผมว่าอาจเพราะเสียสมาธิกับแดดที่แยงตาครับ ผมยังเชื่อมั่นใน เรน่า เสมอครับ

ขอบคุณ..ลิเวอร์พูล ที่ทำให้ผมมีความสุขอีกครั้งครับ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์