หงส์ ปะทะ ปืนโต....เปิดซีซั่นก็มันแล้ว โดย..แจ๊คกี้



ลิเวอร์พูล ปะทะ อาร์เซนอล ประเดิมฤดูกาลใหม่ที่ท้าทายเป้าหมายของทั้งสองทีม

 



ฝ่ายหลังจัดระดับว่า “ลุ้นแชมป์” ส่วนพวกเราต้องทำให้ดีกว่าที่ 7 ด้วยเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรมจับต้องได้คืออันดับ 4 ซึ่งเมื่อก่อนเคยดูเหมือนไม่ยากแต่วันนี้เราต้องยอมรับว่าการเข้ามาทำงานของ รอย ฮอดจ์สัน ก็ยังคงไม่เห็นอะไรชัดเจนนัก
 


เมื่อบวกกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กระทั่งสเปอร์ส เองที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาก็พร้อมสำหรับอันดับ 4 แม้ว่าจะถูกสงสัยว่าปีนี่เล่นถ้วยใหญ่ด้วยลุ้นที่สี่ด้วย จะไหวมั้ย
 


ตัดชื่อ แมนฯยูฯ และเชลซี คู่ชิงแชมป์โดยตรง เหลืออีกสองโควตาในอันดับ 4 มีอาร์เซนอล, แมนฯซิตี้, สเปอร์ส และลิเวอร์พูล
 


4 เลือกอีก 2 ครับ
 


ไม่ง่าย...แน่นอน
 


แม้ไม่ง่ายแต่ก็ได้ลุ้น มันคงเป็นอีกปีหนึ่งที่ดูบอลได้สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ ตลอดทุกสัปดาห์เหมือนที่ผ่านมา
 


สำหรับลิเวอร์พูล-อาร์เซนอล เปิดตัวมาจัดว่าเป็น “บิ๊กแมตช์” ต้อนรับซีซั่นใหม่ แม้หงส์อันดับ 7 แต่ด้วยชื่อเสียง เกียรติยศ ยังคงเรียกร้องความสนใจจากทั่วโลกได้เป็นอย่างดี อังกฤษมีถ่ายทอดสด เมืองไทยก็มี นอกจากนี้ Standard Chartered  ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของทีม ซึ่งมีสาขาในเมืองไทยได้จัดงานเพื่อแฟนหงส์แถวๆสาธร นะครับ
 


ผมก็จะไปร่วมงานคงเก็บบรรยากาศมาฝากพร้อมผลแข่งในสัปดาห์หน้า
 


ส่วนทัศนะก่อนเกมคู่นี้ บอกได้เลยว่า ก็เหมือนทุกครั้งที่เตะกับอาร์เซนอล มันเป็นอะไรที่เล่นยาก เพราะปืนโต คือบอลชั้นเชิง ลูกสั้น เรียด แม่น เจาะช่อง แต่ก็เช่นกันทุกครั้งที่ ปืนโต เจอลิเวอร์พูล ดูเหมือนพวกเขายังหวั่นเกรงความเป็นทีมลิเวอร์พูลอยู่ ไม่ง่ายเช่นกันที่ อาร์เซนอล จะทำเกมได้ตามใจชอบ
 


โดยตัวฟุตบอลอาจดูมีชั้นเชิงเหนือกว่านิดๆ แต่ไม่ตลอดทั้งเกม
 


ปืนใหญ่คงเปิดตัว มารูยาน ชามัค ซึ่งแฟนหงส์คงจำได้ว่าอดีตดาวยิง บอร์กโดซ์  คนนี้มีดีอย่างไร  ส่วนเค้าโครง คอนเซปต์การเล่นบอลของพวกเขาเหมือนเดิม คอนโทรลด้วยบอลสั้น เรียด เท้าต่อเท้า และกับช่อง ตรงนี้ไม่มีอะไรใหม่ นอกจาก ชามัค มาเติมความสดในแนวรุก
 


ส่วนลิเวอร์พูลนั้นก็ยังกะเก็ง คาดเดาไปต่างๆนานา ผมติดตามอ่านบทความของเพื่อนนักข่าวที่ เมอร์ซีย์ไซด์ ก็มีความคิดหลากหลาย
 


ถ้าดูการทำงานของ รอย ฮอดจ์สัน โดยเฉพาะนัดล่าสุดที่ชนะ ราบอตนิคกิ แนวทางออกมาแบบระบบ 4-2-3- 1 แม้ส่วนตัวของ ฮอดจ์สัน นั้นชื่นชอบระบบ 4-4-2 มาตั้งแต่ไหนแต่ไร ตั้งพาทีมชาติสวิสเซอร์แลนด์ไปบอลโลก 1994 และทำทีมระดับสโมสรก็แบบนี้
 


เน้นหน้าคู่ ทั้งต่ำและสูง เน้นกองกลางสองคน เชื่อมเกมรุก-รับ1 คนและตัดเกมเพียวๆแบบฮาร์ดแมน อีก 1 มีปีกสองข้างเล่นด้านกว้าง
 


นั่นคือความคิดพื้นฐานของเขาแต่เดิม...แต่มาทำลิเวอร์พูลเท่าที่เห็นในเกมที่ต้องบอกว่า “เน้น” คือนัดล่าสุดเพราะมีนักเตะชุดใหญ่ลงเล่นกันบ้างแล้ว เห็นจัดแบบ 4-2-3-1  ดูท่าทางเน้นกองกลาง 5 คนที่แตกออกมาเป็น 2-3 คือรับ2 คน ได้แก่ ลูคัส กับ เจอร์ราร์ด ขณะที่ 3 แนวรุกเป็น โจ โคล ตัวฟรี ทางซ้ายเป็น โยวาโนวิช ขวาคือ ปาเชโก ข้างหน้าเวลานี้ต้องใช้ ดาวิด เอ็นก๊อก ไปก่อนรอ เฟร์นานโด ตอร์เรส กลับมาสมบูรณ์
 


นั่นคือ ราบอตนิคกิ ส่วนของจริงกับอาร์เซนอล ถ้าจะปรับเปลี่ยน ปาเชโก....คงต้องดูว่า เดิร์ค เคาต์ โอเคแค่ไหน พร้อมสำหรับ 45 นาทีแรกหรือตลอดทั้งเกม คนอื่นๆไม่น่าจะเปลี่ยนอะไร มีก็แบ๊กซ้ายที่ เกลน จอห์นสัน อาจต้องยืนไปก่อน โดย มาร์ติน เคลลี ที่แจ้งเกิดนัดแรกในชปล. เมื่อปีกลายทำได้เยี่ยมมาก ก่อนเจ็บยาว
 


ก็ไม่แน่ อาจเป็น แดน แอกเกอร์ เล่นแบกซ้าย จอห์นสัน แบกขวา คู่เซนเตอร์ คาร์ราเกอร์ กับ สเคอร์เทิล อันนี้ก็ต้องดูว่า กลางสัปดาห์ เดนมาร์ก, อังกฤษ อุ่นเครื่องแล้วมีใครบอบช้ำกลับมาบ้าง
 


โดยสรุปคงเป็นเกมที่ไม่มีใครอยากแพ้ มันคงไม่สดใสแน่หากเริ่มต้นด้วยความพ่ายแพ้ ผลเสมอถูกมองว่าเป็นธรรมชาติที่สุดของเกมใหญ่ และนัดแรกของซีซั่น
 


ถ้าชนะได้จะดีมาก....
 


ส่วนทัศนะของใครจะว่าอย่างไร แฟนปืนที่เข้ามาแจม แฟนทีมอื่นก็ทำได้อย่างอิสระ เหมือนที่ผ่านๆมา เพราะพื้นที่นี้เปิดกว้างสำหรับทุกคน โดยไม่กระทบคนอื่น อันที่จริงผมก็อยากจะสร้างกรอบเหมือนเวบบลอกนักข่าวฝรั่งที่เขามีกันเพื่อสร้างความชัดเจน ให้เข้าใจตรงกัน
 


มันเป็น  HOUSE RULE นะครับ เขาก็มีกันทั่วโลก
 


กำลังติดตามประเมินผลครับ เพราะโดยพื้นฐานผมเชื่อว่าคนที่รักฟุตบอลเหมือนกัน แชร์ความคิดเห็นกัน และไม่พาดพิง กระทบสิทธิการแสดงออกของคนอื่น ไม่โจมตี ไม่ว่าร้าย ไม่เสียดสี ใช้ถ้อยคำ ภาษาที่หยาบคาย กับทัศนะของคนอื่นๆ ผมเชื่อเช่นนั้นมาตลอดนะครับ
 


ท้ายที่สุดแล้วใครจะเขียนอย่างไรก็ได้ แต่ภาษาที่ออกมาแสดงถึงการขัดเกลาทางความคิด สติ ปัญญา
 


ไม่ต้องการต่อความยาวครับ ผมสามารถเขียนลงได้ทุกวัน ณ ที่ตรงนี้ ไม่ต้องรอถึง วันพุธหรอกครับ เอาเป็นว่า ทุกคนแสดงทัศนะได้เสรี แต่อย่าไปล้ำเส้นคนอื่น อย่าไปโจมตี อย่าไปให้ร้าย เสียดสี ด่าทอ เพื่อต้องการทำให้ตัวเองดูเหนือกว่าคนอื่น
 


ถ้าติดตามข้อเขียนของผมมาตลอดตั้งแต่วันแรกที่ทำงานเมื่อ 17 ปีที่แล้ว (25 ส.ค. 2535 หรือ1992) ปีแรกที่ดิวิชั่นหนึ่งเปลี่ยนเป็น พรีเมียร์ลีก
 


ผมไม่เคยให้ร้ายใคร โจมตีใคร ใช้ภาษาที่หยาบคาย ไม่ใช่เพราะผมเป็นคอลั่มนิสต์ แต่ผมเป็น “มนุษย์” ที่ต้องอยู่ในสังคมนี้ร่วมกับคนอื่นๆ มันต้องมีมาตรฐานในการดำเนินชีวิตนะครับ
 


โชคดีครับที่แฟนบอลในพื้นที่ 99.99999 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีปัญหาครับ
 


ยังไงลุ้นลิเวอร์พูลให้ชนะอาร์เซนอลอย่างสนุก หรืออย่าแพ้ในเกมแรกของซีซั่น แล้วสัปดาห์หน้าอาจมาเร็วคือวันจันทร์เพื่อให้ทันกระแสหลังเกม เรามาร่วมกันวิพากษ์วิจารณ์เหมือนเดิม
 


ผมวิพากษ์ คุณแสดงความคิดเห็น แตกประเด็น ต่อยอด ร่วมกันแชร์ทัศนะอย่างเสรี โดยไม่ล้ำเส้นแห่งความดีงาม
 


มีความสุขจะตายไปครับสำหรับชีวิตแฟนบอลอย่างพวกเรา
 


คุณเห็นด้วยมั้ยละ


 
JACKIE



 


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์