 |
“หงส์แดง” ลิเวอร์พูลเก็บตัวก่อนเปิดซีซั่นใหม่ที่ชายแดนออสเตรีย ท่ามกลางทิวทัศน์อันเงียบสงบ งดงามติดเทือกเขาแอลป์
ด้วยคาดหวังว่าความสดชื่นในบรรยากาศอันรื่นรมย์ของประเทศออสเตรีย จะทำให้นักเตะได้รับการกระตุ้น และต่อเติมพลังทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อสู้ศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2010-11 ที่จะเริ่มในกลางเดือนสิงหาคมนี้ อย่างเต็มที่
ทุกอย่างปีนี้ “ใหม่หมด” โค้ชใหม่...เสื้อชุดแข่งใหม่... อาจมีนักเตะใหม่ แน่นอนครับ “ความหวังใหม่” เกิดขึ้น
ความหวังใหม่ กับ ความหวังใหม่ๆ ดูมันใกล้เคียงแต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับว่า ณ เวลานี้ วงการไม่แน่ใจว่าลิเวอร์พูล เอฟซี จะไปได้ถึงระดับไหน
การต่อสู้เพื่อแย่งชิงพื้นที่ชปล. ไม่ง่ายอีกต่อไปแล้วด้วยเพราะ ทอตแน่มฮอตสเปอร์ แสดงให้เห็นว่ามีดีพอ ขณะที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยิ่งบ้าเลือดทุ่มเงินอีกหลายก่อนเพื่อ “ซื้อ” อันดับ 4 ให้ได้
ใช้คำว่า “ซื้อ” อันดับสี่เพราะอันดับสาม-สองและหนึ่ง น่าจะถูกจับจองเอาไว้แล้ว เว้นเสียแต่ว่ามีบางทีมเกิดอาการหน้ามืดเป็นลมล้มลงกับพื้น ไม่สามารถหาพื้นที่ยืนในกลุ่ม 3 อันดับแรก ซึ่งทุกอย่างมันก็ไม่แน่ สุดยากแก่การทำนายว่า เชลซี, แมนฯยูฯ, อาร์เซนอล
แม้กระทั่ง สเปอร์ส, แมนฯซิตี้ จะออกตัวและสร้างผลงานได้ดีขนาดไหน หรือ...กระทั่งว่า “หงส์แดง” ยุคใหม่ เกิดสร้างความตกอกตกใจกระโจนพรวดขึ้นไปเกาะกลุ่มนำ
มันก็เป็นไปได้นะครับ
แฮ่.แฮ่...ขอให้วงการตกใจเพราะเรื่องนี้อย่าไปให้เขาตกใจว่าออกตัวไป 3 เดือนแล้วลิเวอร์พูลเกิดร่วงลงไปกองกับกลุ่มท้ายตาราง ลุ้นตกชั้นซะงั้น
หวังว่าคงไม่ไปไกลถึงโซนอันตรายนะครับ
ของแบบนี้คาดการณ์กันพอได้ แต่ทำนายไม่ถูกเหมือนกันว่า ลิเวอร์พูลจะยืนอยู่ตรงจุดไหนเมื่อผ่าน 3 เดือนแรกอันเป็นการประเมินสถานะการณ์ของทีมว่าควรอยู่กลุ่มไหน...ชปล.... ยูโรปา หรืออย่างอื่น
มีหลายคนแซวบอกว่าการไปดึง รอย ฮอดจ์สัน มาเพราะมีประสบการณ์ ยูโรปา ลีก ที่ดีกว่า ราฟา เบนิเตซ เกรงว่า ราฟา คงทำงานไม่ได้เพราะเอาแต่เล่น ชปล. มาจนเคยตัว พอตกไปเล่นถ้วยเล็กอาจมีปัญหาได้ แหม...อันนี้ก็แซวกันเรื่อยเปื่อย เพราะ ราฟา เคยคว้าแชมป์ ยูฟา คัพ กับ บาเลนเซีย มาแล้ว เรียกว่าก็คุ้นเคยอยู่ เพียงแต่ ระยะเวลา 6 ปีสำหรับเขากับทีมมันถึงจุดอิ่มตัวมั้ง
ประเมินกันว่าทำต่อคงไม่ดีขึ้น เพราะความอดทนของผู้บริหารมีจำกัด อันนี้แตกต่างจากแฟนบอลที่ยังพอมีความอดทนเป็นต้นทุนให้หนุนหลัง ราฟา
ทุกอย่างเป็นอดีตไปหมดแล้ว วันนี้ รอย ฮอดจ์สัน คงตระเตรียมแผนงานกับสตาฟใหม่ของเขานำโดย ยังให้โอกาส แซมมี ลี ทำงานด้วย แต่ยังไม่รู้ว่าจะอยู่ตรงไหน ผู้ช่วย สตาฟ หรืออะไร ขณะที่โดยมารยาทนั้น แซมมี คงต้องโบกมือลา หากเจ้านายใหม่เข้ามาแล้วไม่เอ่ยปากแสดงท่าทีว่าจะยังไงกับเขา นี่ก็ยังเป็นปริศนาอยู่ให้ขบคิดอีกหนึ่งจุด
เอาเถอะครับ...วันนี้ รอย ฮอดจ์สัน คือทางเลือกใหม่ของลิเวอร์พูล.....และเป็นทางเลือกที่วงการเห็นว่าเหมาะอยู่ไม่น้อย ด้วยเพราะเขาคือคนอังกฤษแต๊ๆ เป็นผลผลิตที่สังคมฟุตบอลอังกฤษต้องการ หลังจากขาดมันสมองท้องถิ่นในการสร้างฟุตบอลของตัวเอง เนื่องจากมีโค้ชต่างชาติเต็มไปหมด ทุกคนมั่นอกมั่นใจกับโค้ชต่างชาติ นับตั้งแต่ อาร์แซน เวนเกอร์ บุกตลาดพรีเมียร์ลีก
ฮอดจ์สัน จึงทำงานภายใต้ความรู้สึกที่ดีจากสังคมฟุตบอลอังกฤษ เหมือนที่ แฮร์รี เรดแนปป์ ทำเอาไว้
ถามว่า ฮอดจ์สัน จะทำอย่างไรกับ “หงส์แดง” แน่นอนเหลือเกินว่างานแรกของเขากำลังพยายามอยู่นั่นคือ “ซื้อ” สถานะของนักเตะลิเวอร์พูลชุดปัจจุบันให้กลับคืนมา
ซื้อ...สตีเวน เจอร์ราร์ด, ซื้อ เฟร์นานโด ตอร์เรส ให้มั่นใจกับเขาและอนาคตของทีม ขณะที่การซื้อ ฮาเวียร์ มาสเชราโน ดูเหมือนว่าใกล้จะเป็นหมันเพราะไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียกในขณะนี้.... หลายครั้งที่ ฮอดจ์สัน ส่ง SMS เชียร์ทีมโปรด...เอ้ย ข้อความสั้นเพื่อให้ มาสเชราโน ติดต่อกลับมา
“No Reply” ฮอดจ์สัน ว่าอย่างนั้น
คิดแบบหยาบๆนะครับ มาสเชราโน เก็บข้าวของออกไปจากแอนฟิลด์นับตั้งแต่ปิดซีซั่น ที่เหลือคือบ้านหลังใหม่ของเขาจะอยู่ในสเปนหรืออิตาลี ข่าวที่ออกมาแรงๆนั้นคือการทำงานกับนายเก่า ราฟา เบนิเตซ ในทีมอินเตอร์ ซึ่งโอกาสเป็นไปได้สูง
เพราะขนาดตอน ราฟา คุมลิเวอร์พูล มาสเชราโน ยังร่ำๆจะย้าย นับประสาอะไรกับ รอย ฮอดจ์สัน ก็ต้องกาชื่อกัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่าออกจาก 11 คนแรกของหงส์แดงไปก่อน ขณะที่ เจอร์ราร์ด และ ตอร์เรส นั้น ต้องลุ้นกันต่อ ในรายของ เจอร์ราร์ด เข้าใจว่าอายุอานามก็ไม่น้อยแล้ว
โอกาสย้ายทีมมีแต่ไม่มากเท่ากับ ตอร์เรส ซึ่งตกเป็นข่าวทุกวัน
ทั้งเชลซี, แมนฯซิตี้ และอีกหลายทีมใหญ่ที่พร้อมหอบเงิน 50 ล้านปอนด์ เพื่อดึงไปร่วมทีม ถ้าถามผมว่าควรขาย ตอร์เรส มั้ย ถ้าได้ราคาระดับ 50 ล้านปอนด์ ก็ควรนะครับ เพราะยังไงก็กำไร 2 เท่าเห็นๆ มีแต่ได้กับได้ เงินจำนวนนี้นำมาช่วยเหลือจุนเจือสถานะทางการเงินและยังแบ่งไปซื้อนักเตะใหม่มาเสริมทีม
วันนี้ลิเวอร์พูลไม่ต้องการ “สตาร์” แต่ต้องการ “ทีม” มากกว่า
เล่นด้วยใคร...นักเตะคนไหน แต่ต้องการความเป็นทีมเพื่อนำสู่เป้าหมาย หมดยุค “ผู้นำ” หรือ “สตาร์” ประจำทีม เพราะหากขาดนักเตะเหล่านี้ไป ทีมก็มีปัญหามากกว่าไม่มี ตั้งแต่ชุด เจมี เรดแนปป์, แมกมานามาน, ฟาวเลอร์,โอเว่น จนมาถึง เจอร์ราร์ด, ตอร์เรส
ดูเหมือนว่าช่วงเวลา 20 ปีที่ผ่านมา “หงส์แดง” วนเวียนและชื่นชมกับความเป็น “ดาวเด่น” ของทีมที่เกิดขึ้นมา แต่ไม่สามารถส่งให้ทีมไปได้ไกลถึงเป้าหมายสูงสุดที่ตั้งเอาไว้ เมื่อมันเป็นแบบนี้ “ดาว” จึงไม่จำเป็นต้องติดบนบ่าหรือหน้าอกของทีมอีกต่อไป
ทุกคนฝากความหวังกับ แมกก้า, ฟาวเลอร์, โอเว่น, เจอร์ราร์ด, ตอร์เรส มากกว่าที่จะฝากความหวังเอาไว้กับทั้งทีม
ลิเวอร์พูลต้องการ “ทีม” มากกว่า “นักเตะ”
รอย ฮอดจ์สัน จะมีฝีมือมากกว่าปั้นทีมขนาดเล็กอย่างฟูแล่ม ได้ดีแค่ไหน เรายังมองไม่ออก ครั้นจะเปรียบเทียบกับฟูแล่มมันก็ไม่ได้อีก ทีมเล็กความกดดันก็เล็กตาม ทำงานง่าย ไม่มีใครมาวิพากษ์วิจารณ์หรือตกเป็นเป้าสายตามากมาย
ครั้งนี้ทีมใหญ่มากขึ้น....ฮอดจ์สัน ต้องทำงานใหญ่ขึ้น
เอาเป็นว่าทุกคนกำลังเฝ้าดูแนวทาง รวมทั้งบารมีของ ฮอดจ์สัน ว่าจะดีพอในการจัดการทีมลิเวอร์พูลชุดที่มี “ดาว” กันหลายดวง ได้ดีขนาดไหน
แค่..เจรจาให้ เจอร์ราร์ด, ตอร์เรส อยู่ต่อ น่าจะเป็นเป้าหมายอันดับแรกที่พิสูจน์ “บารมี” ของเขา ขณะที่ มาสเชราโน คงต้องปล่อยเขาไปตามทาง เพราะดูแล้วโอกาสยากมีมากกว่าง่าย
ส่วนการซื้อขายนักเตะแฟนลิเวอร์พูลคงไม่ต้องไปลุ้นอะไรมากมายเพราะ นักเตะที่จะได้ยังไงก็ไม่ใช่พวก “บิ๊กเนม” ค่าตัว 15 ล้านปอนด์ ขึ้นไป เพราะนอกจากเงินจะมีไม่มากแล้ว “บิ๊กเนม” เหล่านี้ก็ไม่น่าจะหันมามองลิเวอร์พูล ดังนั้นขุนพลใหม่ที่จะมาเสริมทัพคงเป็นนักเตะเกรดบีลบ....
จะบอกว่าเศษๆที่ทีมใหญ่เขาไม่มองก็พอได้ครับ
การได้นักเตะเกรดบีลบ หรือชั้นบอลไม่พิเศษอะไรมากมาย ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ทุกอย่างมันขึ้นกับ รอย ฮอดจ์สัน ที่จะผสมผสานความสามารถของนักเตะให้เล่นเป็น “ทีม” ได้อย่างไร
เอาเป็นว่าวันนี้เริ่มลงทีมเตะอุ่นเครื่องไปแล้ว.... ฮอดจ์สัน ต้องรีบดำเนินการจัดการทีมของเขาให้มันลงตัวโดยเร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็น...
1 ตั้งสตาฟโค้ชใหม่โดยด่วน แทนที่ก๊วนเดิมของ ราฟา ส่วนแซมมี ลี จะอยู่ตรงไหนดี
2 รั้ง เจอร์ราร์ด และตอร์เรส ให้อยู่ต่อ หรือไม่ต้องตัดใจขาย แม้คุยเร็ว positive ทั้งสองคู่ ส่วน ลูคัส เลวา ลั่นปากอยากอยู่ ถ้าไม่มีใครซื้อก็คงต้องให้อยู่ (555)
3 ทีมของเขาจะเล่นแบบไหน ในเมื่อแกนนำหลายคนไม่ได้ซ้อมจนถึงต้นเดือนสิงหาคมอย่าง เดิร์ก เคาต์, บาเบิล, ตอร์เรส, เรนา ขณะที่ เจอร์ราร์ด กลับมาซ้อมสัปดาห์หน้า ดูอีหลักอีเหลื่อ ยังไม่ปะติดปะต่อสักเท่าไหร่นะครับ
สำหรับผมแล้วความหวังใหม่ในทีมลิเวอร์พูล เอฟซี ปีนี้ ผมอยากเห็น “หงส์แดง” เล่นด้วยกันเป็น “ทีม” มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นใครมาจากไหน ไม่ว่า ตอร์เรส, เจอร์ราร์ด อยู่กับทีมต่อไป ก็ต้องทำให้ทั้งสองคนนี้เล่นกับทีมให้ได้ หรือเล่นให้เป็นทีมให้ได้
เพราะความเป็นทีมคือสิ่งที่ลิเวอร์พูลขาดหายไปกว่า 20 ปีครับ
เป็นทีมหรือเล่นอ
เล่นย่างมี “ทีมเวิร์ค” โอกาสชนะมีมากกว่าไม่ชนะ...โอกาสพัฒนาไปหาเป้าหมายที่วางเอาไว้มีใกล้กว่าไกลห่างออกไป
ผมอยากเห็นลิเวอร์พูล เอฟซี เล่นเป็นทีม นี่คือความหวังใหม่ในปีนี้ครับ
|
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
