ฮาจิโกะ ...หัวใจพูดได้

ฮาจิโกะ หมาที่มีความรัก

ฮาจิโกะ ตอนมีชีวิต กับรูปปั้น

เมื่อสุดสัปดาห์ ผมได้มีโอกาสดูหนังเรื่องนึง เป็นเรื่องราวของหมาตัวนึง ในประเทศญี่ปุ่นซึ่งหมาตัวนี้ เป็นที่โด่งดังและรู้จักตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบํน จนเอาเรื่องราวของมันไปทำเป็นหนังสือ หรือหนัง ภาพยนต์ ไปไกลถึงฮอลลีวู๊ด  หมาตัวนี้มันมีชื่อว่า....

ฮาจิโกะ....
  สุนัขอันโด่งดังแห่งย่านชิบูยะนั้น เป็นตัวแทนให้ระลึกถึงความซื่อสัตย์ของเจ้าฮาจิโกะ สุนัขพันธุ์อากิตะ ซึ่งลืมตาขึ้นมาดูโลกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 1923 ในจังหวัดอากิตะ โดยเมื่ออายุได้เพียง 2 เดือนเจ้าฮาจิโกะถูกส่งตัวไปอยู่กรุงโตเกียวกับเจ้านายของมันคือ เอซะบุโระ อุเอะโนะ ศาสตราจารย์ประจำคณะเกษตรศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล(มหาวิทยาลัยโตเกียวในปัจจุบัน) ซึ่งศาสตราจารย์รู้สึกภาคภูมิใจกับเจ้าฮาจิโกะเป็นอย่างมาก เนื่องจากมันเป็นสุนัขอากิตะสายพันธุ์แท้ซึ่งหาได้ยากในสมัยนั้น (ใครเคยดูการ์ตูนเรื่อง ไอ้เขี้ยวเงิน
นั่นแหระครับ)

ในวันที่เจ้านายต้องไปสอนหนังสือ ฮาจิโกะจะคอยส่งเจ้านายถึงประตูหน้าบ้าน โดยอุเอะโนะต้องไปขึ้นรถไฟที่สถานีชิบูยะ จากนั้นเมื่อถึงเวลา 15.00 น. ซึ่งเป็นเวลาเลิกงานแล้ว เจ้าฮาจิโกะจะมากระดิกหางรอพบเจ้านายของมันที่สถานีรถไฟเสมอ แต่แล้ววันหนึ่งในวันที่ 21 เดือนพฤษภาคม 1925 ศาสตราจารย์ อุเอะโนะ เกิดอาการเส้นโลหิตในสมองแตก และเสียชีวิตขณะอยู่ที่มหาวิทยาลัย อย่างไรก็ตาม ในวันนั้น ฮาจิโกะยังคงมารอเจ้านายของมันที่สถานีรถไฟ โดยไม่มีทางรู้ได้เลยว่า มันจะไม่ได้พบกับเจ้านายของมันอีกแล้ว เนื่องจากเขาได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ


หลังจากที่ศาสตราจารย์อุเอะโนะเสียชีวิต ภรรยาของเขาได้ย้ายบ้านไปและนำเจ้าฮาจิโกะไปให้กับญาติของศาสตราจารย์ที่อยู่ห่างออก
ไปจากสถานีรถไฟหลายกิโลเมตร แต่ว่าเจ้าสุนัขพันธุ์อากิตะผู้ซื่อสัตย์กลับไม่ยอมอยู่กับเจ้านายใหม่ของมัน เพราะทันทีที่มันหลุดออกมาได้ มันวิ่งตรงไปที่บ้านเก่าของมันแต่เมื่อไม่เจอใคร มันจึงกลับไปรอที่สถานีรถไฟเหมือนเมื่อครั้งที่เจ้านายของมันยังมีชีวิตอยู่ โดย คิคุซะบุโระ โคบายาชิ อดีตคนสวนของศาสตราจารย์ซึ่งอาศัยอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟเป็นคนคอยดูแลเจ้าฮาจิโกะแทน

ทุกวันเมื่อถึงเวลา 15.00 น. เจ้าฮาจิโกะจะวิ่งไปรอเจ้านายของมันที่สถานีรถไฟไม่เคยขาด ทำให้เรื่องราวความซื่อสัตย์ของมัน เริ่มเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อเรื่องราวของมันถูกตีพิมพ์ลงบนหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นในปี 1932 ทำให้ผู้คนทั่วสารทิศเดินทางมาดู มาเล่นกับเจ้าฮาจิโกะ นอกจากนั้น ชาวญี่ปุ่นยังได้ยกให้เจ้าฮาจิโกะเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับเด็กๆอีกด้วย

ในเดือนเมษายน 1934 อันโดะ เทะรุ ศิลปินชื่อดังจึงได้ทำรูปหล่อทองแดงของเจ้าฮาจิโกะขึ้นมาเพื่อยกย่อง และนำไปตั้งไว้ที่สถานีรถไฟชิบูยะ อย่างไรก็ตาม ในเดือนมีนาคม 1935 ฮาจิโกะก็ได้กลับไปพบกับเจ้านายของมันอีกครั้ง โดยมีคนพบว่าฮาจิโกะนอนตายยังจุดที่มันคอยมารอเจ้านายของมันทุกวันมานานกว่า 10 ปี ซึ่งข่าวการตายของฮาจิโกะนั้นถือว่าเป็นข่าวใหญ่มาก จนถูกตีพิมพ์ลงบนหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น สำหรับร่างของฮาจิโกะนั้นถูกนำไปเก็บรักษาเอาไว้ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ในกรุงโตเกียว

ฮาจิโกะ แม้จะเป็นแค่หมา ที่มนุษย์อย่างเราๆ บางครั้งก็ใช้คำหรือกริยาที่แสดงหรือสื่อออกมาอย่างกับหมานั้นเป็นสิ่งไม่ดี แท้จริงแล้ว หมานั้นคือเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ คนที่เลี้ยงหมาจะรู้ดี

ที่ร่ายยาวมา เด่วจะมีคนบอกว่าเกี่ยวไรกะบอร์ดกีฬา ผมเองเมื่อได้มีโอกาสได้ทำความรู้จักกับประวัติของหมาตัวนี้ ผมจึงมั่นใจอย่างไม่อายหมาเลยครับว่า  ชื่นชมมันจริงๆและยอมรับในความจงรักภักดีของมันต่อเจ้าของ ต่อสิ่งที่มันยึดมั่นในความรักเจ้าของ ความซื่อสัตย์ และผมเชื่อว่ามันคงเป็นความรู้สึกในอีกแง่นึงในชีวิตผมที่ รัก ภักดี ในสโมสร ลิเวอร์พูล (ขออภัยแฟนบอลหงส์ครับ ที่ผมเอาเรื่องหมามาเปรียบกับความรักสโมสร) แม้นับสิบๆปี ที่หงส์ไม่เคยได้แชมป์ ไม่เคยพบความสำเร็จ แต่ผมก็ยินดีที่จะรอคอยความสำเร็จของหงส์แดงต่อไป

หากมีคนบอกว่า สงสัยต้องรอจนตายไปข้าง ที่จะได้เห็นหงส์แดงได้สัมผัสแชมป์ ผมก็ไม่แคร์ อย่างน้อยผมได้ทำสิ่งที่ผมรัก นั่นคือใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เคียงคู่ไปกับลิเวอร์พูลที่ผมรักครับ



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์