บิ๊กแมตช์แดงเดือด หงส์เปิดรังชนผี

"บิ๊กแมตช์แดงเดือด" หงส์เปิดรังชนผี

สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันอันตรายของเหล่าเดอะค็อป

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 16 กันยายน 2548 16:03 น.

หลังเสร็จศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มนัดแรก เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ได้เวลาของคอลัมน์ บิ๊กแมตช์ ที่จะหยิบคู่บอล คู่เดือดมานำเสนอแฟนลูกหนังตามปกติในทุกวันศุกร์ตามปกติ และสำหรับสัปดาห์นี้แม้จะมีคู่บอลที่น่าสนใจหลายคู่ไม่ว่าจะเป็น อาร์เซนอล เปิดรังต้อนรับ เอฟเวอร์ตัน หรือ ชาร์ลตัน รองจ่าฝูงที่มีคิวดวลกับ เชลซี จ่าฝูงพรีเมียร์ชิพ แต่สุดท้ายก็ต้องจำใจเลือกคู่ดวลเดือดของสองทีมแดงเดือด เมื่อ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ทีมอันดับที่ 11 ของตารางจะเปิดสนามแอนฟิลด์ทำสงครามสีแดงกับทีม ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 ของตาราง ในเวลา 18.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน 2548

โดยเกมนี้ทีมเจ้าถิ่นอยู่ในฟอร์มที่แม้จะไม่ได้ดีเด่อะไรนัก แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายจนน่าหนักใจ เมื่อลงเล่นในศึกฟุตบอลลีกไปแล้ว 3 นัด ยังไม่พบกับความพ่ายแพ้เลย ด้วยผลงานชนะ 1 นัด และเสมออีก 2 นัด มี 5 คะแนน

ส่วนทีมเยือนฟอร์มการเล่นในลีกสวยหรูกว่าเจ้าถิ่นเล็กน้อย เมื่อเปิดฤดูกาลมา 4 นัด กวาดชัยชนะไป 3 นัด และเสมออีก 1 นัด พร้อมกับยังไม่แพ้ทีมใดเลยเช่นกัน มี 10 คะแนน

ด้านความพร้อมของทีมเจ้าถิ่น ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือทีมหงส์แดงคงต้องลุ้นอย่างหนักให้ เฟร์นานโด มอริเอนเตส ดาวยิงทีมชาติสเปนหายจากอาการบาดเจ็บให้ทัน แต่หากช่วยไม่ได้จริงๆ โอกาสพร้อมจะตกเป็นของ ปีเตอร์ เคร้าช์ กองหน้าร่าวยาวที่โชว์ฟอร์มได้ดีในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ส่วนผู้เล่นในตำแหน่งอื่นๆ ที่บาดเจ็บหมดสิทธิ์ลงเล่นแน่นอน(อยู่แล้ว) ก็มี เจอร์ซี่ ดูเด็ค กับ แฮร์รี่ คีเวลล์ ที่ถึงอย่างไรก็คงไม่กระทบกระเทือนทีมชุดใหญ เนื่องจากไม่ใช่นักเตะชุดใหญ่ในทีมกระทิงแดงอยู่แล้ว

ขณะที่ทีมเยือนดูเหมือน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือทีมปีศาจแดงจะมีเรื่องปวดหัวจากอาการบาดเจ็บของนักเตะคนสำคัญ อาทิ กาเบรียล ไฮน์เซ่ , แกรี่ เนวิลล์ และ รอย คีน ทำให้เกมนี้จะเป็นโอกาสของ จอห์น โอเชีย ที่จะได้ลงเล่นในตำแหน่งแบ็กขวา, คีแรน ริชาร์ดสัน ในตำแหน่งแบ็กซ้าย และ อลัน สมิธ ที่จะได้รับโอกาสให้สวมบทบู๊กลางสนามแทน รอย คีน อีกต่อไป ขณะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกจอมสับก็จะได้กลับมาช่วยทีมอีกครั้ง หลังกลับจากไปร่วมงานศพของคุณพ่อ ส่วน เวย์น รูนี่ย์ แม้จะโดนใบแดงแบบไม่น่าอภัยในเกมยุโรปก็สามารถลงเล่นในเกมนี้ได้เช่นกัน

เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าอารมณ์เดือดของเร้ดอาร์มี่

สำหรับผลงานการเจอกันของคู่นี้เมื่อฤดูกาลที่แล้วที่สนามแอนฟิลด์ ในวันที่ 15 มกราคม 2548 ปรากฎว่าขุนพลปีศาจบุกมายัดเยียดความปราชัยให้กับลูกทีมของ เอลราฟา 1-0 จากประตูชัยของ เด็กแสบ เวย์น รูนี่ย์ ในนาทีที่ 21 ขณะที่ เวสต์ บราวน์ ปราการหลังเด็กผีก็โดนไล่ออกในนาทีที่ 65 แต่พลพรรครักหงส์ก็ไม่สามารถทำสกอร์ได้ จึงแพ้ไปอย่างเจ็บปวดเมื่อจบเกมการแข่งขัน

สถิติการเจอกันของทั้งสองทีม
ฟุตบอลลีก : ลิเวอร์พูล ชนะ 49 ครั้ง, แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 53 ครั้ง และ เสมอกัน 42 ครั้ง
เฉพาะพรีเมียร์ลีก : ลิเวอร์พูล ชนะ 7 ครั้ง, แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 13 ครั้ง และ เสมอกัน 6 ครั้ง

สถิติการเจอกันของทั้งสองทีมที่สนามแอนฟิลด์
ฟุตบอลลีก : ลิเวอร์พูล ชนะ 35 ครั้ง, แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 20 ครั้ง และ เสมอกัน 17 ครั้ง
เฉพาะพรีเมียร์ลีก : ลิเวอร์พูล ชนะ 4 ครั้ง, แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 7 ครั้ง และ เสมอกัน 2 ครั้ง

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีมที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-4-2) : โฮเซ่ เรน่า, สตีฟ ฟินแนน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ซามี่ ฮูเปีย, สตีเฟ่น วอร์น็อค, ซาบี้ อลอนโซ่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, หลุยส์ การ์เซีย, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่, ฌิบริล ซิสเซ่ และ ปีเตอร์ เคร้าช์
แมนฯ ยูไนเต็ด (4-5-1) : เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์, จอห์น โอเชีย, มิกกาเอล ซิลแวสต์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, คีแรน ริชาร์ดสัน, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, อลัน สมิธ, พอล สโคลส์, เวย์น รูนี่ย์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ รุด ฟาน นิสเตลรอย

เกมนี้เชื่อว่าทีมหงส์แดงคงหวังล้างตาจากฤดูกาลที่แล้ว ที่แพ้แมนฯยูไนเต็ด ทั้งสองนัดเหย้าเยือน อีกทั้งการได้เล่นในถิ่นแอนฟิลด์คงสร้างความฮึกเหมให้กับผู้เล่นไม่น้อย โดยเชื่อว่า เอลราฟา น่าจะหวังเก็บ 3 คะแนนจากเกมนี้ เนื่องจากต้องการขยับอันดับเพื่อเกาะกลุ่มนำของตารางต่อไป เนื่องจากตั้งใจพักผู้เล่นหลายคนในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกกับ รีล เบติส เมื่อกลางสัปดาห์ เพื่อรอเน้นเต็มที่ในเกมนี้

ขณะที่ทีมเยือนมีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บของนักเตะคนสำคัญหลายคน เชื่อว่าคงไม่มาเล่นเกมนี้แบบเปิดหน้าแลกเป็นแน่ ยิ่งเกมสวนกลับของเจ้าถิ่นเรียกได้ว่าน่าเกรงขามพอสมควร คาดว่าเกมนี้ทีมปีศาจแดงจะต้องพยายามอัดแผงกองกลางของเจ้าถิ่นให้อยู่ด้วยการอัดผู้เล่นมาช่วยกลางสนามถึง 5 คน โดยให้ ฟาน นิสเตลรอย เป็นศูนย์หน้าเป้า ขณะที่เกมริมเส้นซ้าย-ขวา จะเป็นหน้าที่ของ รูนี่ย์ กับ โรนัลโด้ ที่จะสลับกันลากเลื้อยเข้าหาประตู

คาดว่าเกมนี้คงสู้กันในพื้นที่กลางสนามเป็นส่วนใหญ่ รอฉวยโอกาสเมื่อคู่ต่อสู้พลาด ขึ้นอยู่ที่ว่าใครจะคมกว่ากันในท้ายที่สุดก็จะเป็นผู้ชนะ...

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์