ชูสตีวีจี-เคราช์ ทีเด็ดเตะบาร์ซา

ลาปอร์ตา ยอมรับ หวั่นฝีเท้า


เจอร์ราร์ด-เคราช์ ในเกม บาร์เซโลนา เปิดคัมป์นู รับแข้ง ลิเวอร์พูล วันที่ 21 กุมภาพันธ์

ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีม นัดแรก บาร์เซโลนา ซึ่งแพ้ บาเลนเซีย 1-2 ในเกมลา ลีกา สเปน เมื่อสุดสัปดาห์ จะพบกับ ลิเวอร์พูล ทีมซึ่ง บาร์เซโลนา ไม่เคยชนะเลยในการเจอกัน 3 ครั้งที่คัมป์นู (เสมอ 2 แพ้ 1)

อย่างไรก็ตาม หากนับการเจอกันทั้งหมด 6 นัด ต่างก็ชนะทีมละ 1 นัด เสมอ 4 นัด

โจน ลาปอร์ตา ประธานบาร์เซโลนา กล่าวถึงเกมนี้ว่า


นักเตะลิเวอร์พูลที่ต้องระวังเป็นพิเศษก็คือ สตีเวน เจอร์ราร์ด และ ปีเตอร์ เคราช์

ผมชอบ สตีเวน เจอร์ราร์ด เขาเป็นสัญลักษณ์ของลิเวอร์พูล ผมดูเทปนัดชิงแชมเปียนส์ลีก ระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ เอซี มิลาน รู้สึกทึ่งมากกับฟอร์ม เจอร์ราร์ด รวมถึง ซาบี อลองโซ และนายทวาร

ซึ่งเจอร์ราร์ด ถือเป็นหัวใจของทีม

ลาปอร์ตา กล่าวและเปรียบเทียบ เจอร์ราร์ด ว่าคล้ายกับกัปตันทีม คาร์เลส ปูโยล ที่เป็นสัญลักษณของบาร์เซโลนา โดยต่างก็คิดถึงทีมเป็นสำคัญ

ประธาน เจ้าบุญทุ่ม ยังบอกว่า ที่น่ากลัวอีกราย

ก็คือ ปีเตอร์ เคราช์ ที่ทั้งสูงและยังเล่นลูกกับพื้นได้เยี่ยม แต่โชคดีที่ บาร์เซโลนา ก็มี ราฟาเอล มาร์เกวซ ที่เล่นลูกกลางอากาศได้ดีเช่นกัน

ขณะที่ ซาบี มิดฟิลด์ บาร์เซโลนา บอกว่า


หากจะชนะลิเวอร์พูล บาร์เซโลนาต้องเล่นบอลด้วยความฉลาดเท่านั้น หากไปวิ่งไล่และปะทะหนักๆ ก็จะเข้าทางลิเวอร์พูลทันที พร้อมแนะให้หยุด เจอร์ราร์ด และ อลองโซ

กุญแจสำคัญสำหรับนัดแรกก็คือหยุดการสร้างสรรค์เกมในแดนกลางจากทั้ง เจอร์ราร์ด และ ซาบี อลองโซ ซึ่งน่ากลัวมากในตอนนี้ หากแดนกลางโชว์ฟอร์มไม่ออก เกมรุกก็จะไร้ประสิทธิภาพทันที

ส่วน เจอร์ราร์ด ก็บอกว่า


การที่ ลิเวอร์พูล ไม่เคยแพ้ที่คัมป์นูถือเป็นสถิติที่ดี และก็จะพยายามรักษาไว้ อย่างไรก็ตาม แต่ละเกมไม่เหมือนกัน ประวัติศาสตร์ก็ไม่สามารถช่วยเกมปัจจุบันได้ เขาหวังว่านัดนี้จะจบลงแบบมีความหวังสำหรับการเล่นนัด 2 ที่แอนฟิลด์

ไอเดียก็คือจบนัดแรกแล้วยังมีลุ้น ต่อ เพื่อจะได้ไปตัดสินที่แอนฟิลด์ ซึ่งแฟนๆ ของเราจะได้มีโอกาสช่วยทีมด้วย

ผู้ตัดสินนัดนี้ได้แก่ คีรอส วาสซาราส จากกรีซ ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ในอาชีพที่เขาจะได้ตัดสินเกม บาร์เซโลนา กับ ลิเวอร์พูล

โดยครั้งแรกเสมอ 0-0 เมื่อเดือนมีนาคม 2002

ที่สนามซาน ซิโร อินเตอร์ มิลาน จ่าฝูงกัลโช เซเรีย อา อิตาลี


ที่ชนะรวด ในลีก 16 นัด พบกับ บาเลนเซีย ทีมอันดับ 3 ศึกลา ลีกา สเปน โดยเจ้าบ้านได้นักเตะหลักๆ ฟิตเต็มที่สำหรับนัดนี้หลังจากได้พักในนัดล่าสุดที่ชนะ กายารี 1-0 นำโดยกองหน้าคู่ อาเดรียโน และ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

ขณะที่ พาทริก วิเอรา หายเจ็บกลับมาทำให้ เดยัน สแตนโควิช ขยับขึ้นมาเล่นเป็นเพลย์เมกเกอร์

บาเลนเซีย ที่ชนะ 8 จาก 10 เกมลีก ล่าสุด แม้จะเคยโดน อินเตอร์ ถล่ม 5-1 ในรอบแบ่งกลุ่มปี 2004

แต่กุนซือ ซานเชส ฟลอเรส ก็มั่นใจว่าพวกเขาจะสร้างปัญหาให้กับ อินเตอร์ ได้มากกว่าทีมในอิตาลีแน่นอน

ผมบอกแล้วว่า อินเตอร์ เป็นทีมที่ยิ่งใหญ่


แต่ บาเลนเซีย ก็จะไม่เหมือนกับทีมที่พวกเขาเคยเล่นด้วยในลีกอิตาลีแน่นอน

ทีมเยือนได้นักเตะฟูลทีมนำโดย

คาร์ลอส มาร์เชนา, ซานติอาโก คานิซาเรซ, ดาวิด บีญา และ เฟอร์นานโด มอริเอนเตส

ด้าน เชลซี ของ โจเซ มูรินโญ จะออกไปเยือน

ปอร์โต อดีตทีมเก่า โดยนัดนี้ เชลซี จะไม่มี คาลิด บูลาห์รูซ ที่เจ็บเช่นเดียวกับ โจ โคล และ แอชลีย์ โคล ขณะที่ ริคาร์โด คาร์วัลโญ อดีตกองหลังปอร์โต, โคลด มาเกเลเล

และ มิชาเอล บัลลัก จะคืนทีมอีกครั้ง

หลังได้พักในเกมสุดสัปดาห์ ส่วน ปอร์โต จ่าฝูงลีกโปรตุกิสนั้น โค้ช เยซัลโด เฟอร์ไรรา จะได้ ริคาร์โด ควอเรสมา ปีกตัวเก่งกลับสู่ทีม

มูรินโญ เคยนำเชลซี เตะ ปอร์โต 2 นัด


ในรอบแบ่งกลุ่มเดือนกันยายน 2004 ซึ่งนัดแรกชนะ 3-1 ที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ ก่อนแพ้ 1-2 ในนัดที่ 2

อีกคู่ โรมา เปิดบ้านพบ โอลิมปิก ลียง

โดยเตะ เกมยุโรปในบ้าน 8 นัด ล่าสุด โรมา ยังไม่เคยแพ้ ขณะที่ ลียง เล่นนัดเยือนรอบแบ่งกลุ่มที่ผ่านมา ชนะถึง 2 นัด รวมถึงการบุกไปเสมอ รีล มาดริด ที่เบอร์นาบิว


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์