หงส์จิกสิงห์บลูส์ 2-0 รั้งอันดับ 3 จี้รองฝูงเหลือ 5 แต้ม

เดิร์ก เคาท์ และเจอร์เมน เพนแนนท์ ช่วยกันกระทุ้งประตูให้ หงส์แดง ลิเวอร์พูล

หายเจ็บกลับมาแล้ว ปีเตอร์ เช็ก

เปิดรังแอนฟิลด์ไล่จิก สิงห์บลูส์ เชลซี 2-0 พร้อมกับรั้งอันดับ 3 มีคะแนนไล่หลัง แชมป์เก่า ซึ่งเป็นรองจ่าฝูงอยู่ในขณะนี้เหลือแค่ 5 แต้ม ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ

ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ชิป อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 2-0 เชลซี


ราฟาเอล เบนิเตซ หวังพา หงส์แดง ลิเวอร์พูล เปิดรังไล่จิก สิงห์บลูส์ เชลซี ให้ได้เพื่อทำคะแนนไล่จี้ แชมป์เก่า ซึ่งปัจจุบันรั้งอันดับ 2 ในตารางพรีเมียร์ชิป เหลือแค่ห้าแต้ม ซึ่งเกมนี้เจ้าถิ่นค่อนข้างสมบูรณ์พร้อมในเรื่องของตัวผู้เล่น ตัวหลักๆ อย่าง เจมี่ คาร์ราเกอร์ ,สตีเว่น เจอร์ราร์ด หรือ ชาบี้ อลอนโซ่ รวมถึงคู่หัวหอก เดิร์ก เคาท์ และปีเตอร์ เคร้าช์ อยู่กันพร้อมหน้า


ด้าน โฮเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ เชลซี ค่อนข้างมีปัญหาทั้งในและนอกสนาม แม้เกมนี้จะได้ ปีเตอร์ เช็ก นายทวารจอมหนึบกลับมา

ปีเตอร์ เช็กcome backหลังจากเจ็บจนต้องผ่ากระโหลก


ปีเตอร์ เช็กผ่าตัดกะโหลกศีรษะต้องพักไปนานกลับมาเฝ้าเสาอีกครั้ง แต่ในแผงเกมรับขาดทั้ง จอห์น เทอร์รี่ และริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ทำให้ต้องขยับทั้ง เปาโล แฟร์ไรร่า และมิคาเอล เอสเซียง มายืนจับคู่เป็นเซ็นเตอร์เพื่อแก้สถานการณ์เฉพาะหน้า แดนกลางก็ขาด โคล้ด มาเกเลเล่ ที่ติดโทษแบนจึงต้องส่ง จอห์น โอบี มิเกล ลงมาเสริม

เริ่มเกมการแข่งขันได้แค่ 4 นาที ลิเวอร์พูล ซึ่งตั้งเกมได้เร็วได้ประตูนำ 1-0

เดิร์ก เคาท์ เบิกสกอร์แรกให้หงส์


เมื่อ ปีเตอร์ เคร้าช์ ได้บอลสาดยาวจากหลังก่อนโขกเช็ดให้ เดิร์ก เคาท์ โหม่งฉีกไปหาช่องให้ตัวเองก่อนสับด้วยขวาส่งบอลผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก เข้าไปตุงตาข่าย

เกมยังเป็นเจ้าถิ่นที่ครองเกมไว้ได้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด โยนบอลจากแดนกลางให้ ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ ตัดเข้าในไปยิงด้วยซ้ายในรอบเขตโทษแต่เป็นนายทวารทีมเยือนเซฟเอาไว้ได้


นาทีที่ 18 หงส์อัดสิงห์โตน้ำเงินยับอีกครั้ง นำ 2-0

และแล้วเช็กก็ต้องมาพลาดลูกที่ 2 ในนาที ที่11


เชลซี พยายามตั้งเกมตอบโต้ขึ้นมา แต่ยังเป็นเจ้าบ้านที่ครองเกมได้เหนือกว่าจนกระทั่งนาทีที่ 18 เดอะ ค็อป ได้เฮลั่นแอนฟิลด์อีกครั้งเมื่อ เจอร์ราร์ด เปิดบอลไปหน้าประตู มิชาเอล เอสเซียง เซ็นเตอร์จำเป็นโหม่งเคลียร์ออกมาเข้าทาง เจอร์เมน เพนแนนท์ พักอกก่อนซัดด้วยขวาส่งบอลลอยข้ามมือ เช็ก กระแทกใต้คานเสียบตาข่ายให้ หงส์แดง นำห่าง 2-0

สถานการณ์ของทีมเยือนไม่สู้ดี อาร์เยน ร็อบเบน ที่บาดเจ็บตั้งแต่ 10 นาทีแรก ฝืดเล่นต่อไม่ไหว


โฮเซ่ มูรินโญ กุนซือ สิงห์บลูส์ จึงจำเป็นต้องปรับทัพส่ง ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ มาทำเกมทางด้านกราบแทน

ผ่านครึ่งชั่วโมง ชาบี้ อลอนโซ่ โดนเข่าของ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา แบบไม่ตั้งใจทำให้กองกลาง ลิเวอร์พูล ถึงกับปากแตกเลือดอาบต้องไปรับการปฐมพยาบาล

แต่ อลอนโซ่ ก็กลับลงมาโม่แข้งกันต่อ ซึ่งช่วงท้ายครึ่งแรก ลิเวอร์พูล เริ่มเน้นความแน่นอน บุกไม่ขึ้นก็มาตั้งรับเพื่อป้องกันประตูที่นำอยู่

ส่วน เชลซี ได้ครองบอลมากขึ้นแต่จังหวะทำเกมขึ้นไปลุ้นทำประตูแทบไม่มีโอกาส จะได้เสียวบ้างต้องไปลุ้นลูกยิงไกลของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด และดิดิเย่ร์ ดร็อกบา แต่ไม่ได้ผลทำให้จบ 45 นาทีแรก หงส์แดง ค่อนข้างได้เปรียบทั้งรูปเกมและสกอร์การแข่งขัน

เปิดฉากครึ่งหลัง เชลซี พยายามลงมาเดินเครื่องบุกใส่โดยทั้ง ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ และซาโลมอน คาลู ช่วยกันทำเกมรุกทางด้านข้าง


เพื่อลุ้นเปิดบอลให้ ดร็อกบา เข้าทำแต่ก็ยังไม่มีจังหวะได้ลุ้นแบบจังๆ ด้าน ลิเวอร์พูล ลงไปตั้งรับเป็นหลัง แต่ก็มีจังหวะสวนกลับได้ลุ้นเหมือนกันจากการที่ สตีฟ ฟินแนน เปิดเข้าในเขตโทษให้ เคร้าช์ ได้โหม่งแต่บอลพุ่งไปตรงตัว เช็ก


ผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็ม ลูกยิงลักไก่ระยะกว่า 40 หลาด้วยซ้ายอันทรงพลังของ รีเซ่ เกือบทำให้ ลิเวอร์พูล นำห่าง

ปีเตอร์ เคร้าชพยายามโหม่งลูกที่ริเซ่เตะชนคาน แต่เบาเกินไป


แต่บอลดันพุ่งไปกระแทกคานออกมาเต็มๆ เคร้าช์ ปรี่เข้าไปโหม่งซ้ำแต่ก็เบาไปทำให้ เช็ก ตามมารับบอลไว้ได้ แม้จะบุกน้อยกว่าแต่เจ้าถิ่นเกือบได้อีกครั้ง รีเซ่ เปิดบอลจากซ้ายไปเสาสองให้ เคาท์ ลอยตัวเข้ามาแปแต่บอลไม่ตรงกรอบ

เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย มูรินโญ่ จำเป็นต้องเติมเกมรุกจึงส่ง อังเดร เชฟเชนโก้ ลงมาเล่นแทน จอห์น โอบี มิเกล แต่เกือบจะเป็นเจ้าถิ่นที่ได้ประตูอีกครั้งเมื่อ เฌเรมี่ เอ็นจิตั๊ป เคลียร์บอลไม่ขาดทำให้ เคร้าช์ ได้วอลเล่ย์ด้วยขวาบอลเฉียดเสาออกไปแบบได้ลุ้น

นาทีที่ 82 ทีมเยือนพลาดโอกาสตีไข่แตกเมื่อ ไรท์-ฟิลลิปส์ เปิดบอลจากสุดเส้นหลังฝั่งขวาให้ ดร็อกบา เอี้ยวตัวยิงเร็วแต่ เจมี่ คาร์ราเกอร์ บล็อกเอาไว้ได้ทัน


อีก 5 แต้มเป็นที่ 2 แล้ว

จนแล้วจนรอดครบ 90 นาที ลิเวอร์พูล รักษาสกอร์เปิดบ้านทุบชนะ เชลซี 2-0 ทำให้ หงส์แดง มีเพิ่มเป็น 46 คะแนนจากการลงสนาม 24 นัด รั้งอันดับ 3 จี้ สิงห์บลูส์ ทีมอันดับ 2 เหลือแค่ 5 แต้ม และด้านของแชมป์เก่าสถานการณ์ป้องกันแชมป์ลำบากขึ้นเพราะตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูง 6 แต้มแต่ลงแข่งมากกว่าหนึ่งนัด โดยคืนวันอาทิตย์ ผีแดง จะมีคิวไปเยือน ปืนใหญ่ อาร์เซนอล

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม


ลิเวอร์พูล : โฮเซ่ เรน่า , สตีฟ ฟินแนน , เจมี่ คาร์ราเกอร์ , ดาเนี่ยล แอ๊กเกอร์ , ฟาบิโอ ออเรลิโอ , เจอร์เมน เพนแนนท์ , สตีเว่น เจอร์ราร์ด , ชาบี้ อลอนโซ่ , ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ , เดิร์ก เคาท์ , ปีเตอร์ เคร้าช์

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , เฌเรมี่ เอ็นจิตั๊ป , เปาโล แฟร์ไรร่า , มิคาเอล เอสเซียง , แอชลี่ย์ โคล , แฟร้งค์ แลมพาร์ด , จอห์น โอบี มิเกล , มิชาเอล บัลลัค , ซาโลมอน คาลู , ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา , อาร์เยน ร็อบเบน

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์



ลิเวอร์พูล 2-0 เชลซี
[1-0 : เดิร์ค เคาท์ (น.4) , 2-0 : เจอร์เมน เพนแนนท์ (น.19)]

แอสตัน วิลล่า 2-0 วัตฟอร์ด
[1-0 : กาวิน มาห์น (ทำเข้าประตูตัวเอง น.86) , 2-0 : กาเบรียล อั๊กบอนลาฮอร์ (น.90)

ฟูแล่ม 1-1 ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์
[1-0 : วินเชนโซ่ มอนเตลล่า (น.84) , 1-1 : ปาสกาล ชิมบงด้า (น.88)]

มิดเดิลสโบรช์ 5-1 โบลตัน วันเดอเรอร์ส
[1-0 : แกรี่ สปีด (ทำเข้าประตูตัวเอง น.6) , 2-0 : อาเบล ซาเวียร์ (น.10) , 3-0 : มาร์ค วิดูก้า (น.23) , 3-1 : เควิน โนแลน (น.25) , 4-1 : สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง (น.43) , 5-1 : มาร์ค วิดูก้า (น.84)]

นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-2 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
[0-1 : คาร์ตัน โคล (น.18) , 0-2 : มาร์ลอน แฮร์วู้ด (น.22) , 1-2 : เจมส์ มิลเนอร์ (น.45) , 2-2 : โนลแบร์โต้ โซลาโน่ (จุดโทษ น.54)]

ปอร์ทสมัธ 0-1 ชาร์ลตัน แอธเลติก
[0-1 : ออมดี้ เฟย์ (น.79)]

เรดดิ้ง 3-1 เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด
[1-0 : เชน ลอง (น.44) , 2-0 : ฮูลิเซส เดอ ลา ครูซ (น.50) , 3-0 : สตีเฟ่น ฮันท์ (น.70) , 3-1 : คริสเตียน นาเด้ (น.77)]

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์