พ่อแฉเอง! บอกอาควิฟิตเป็นชาติแล้ว

 
ราฟาเอล เบนิเตซกุนซือนาธานชักเครียดแล้วหลังพ่ออัลแบร์โต้ อาควิลานี่ออกมาเแฉว่าลูกเขาฟิตพอที่จะลงสนามมานานนับเดือนแต่ไม่เข้าใจเหตุผลที่ยังต้องนั่งสำรองแบบไร้ความหมายเช่นนี้

ดาวเตะวัย 25 ปีต้องพักรักษาตัวตั้งแต่ซัมเมอร์หลังผ่าตัดข้อเท้าแต่หายกลับมาเคาะสนิมจนประเดิมลงเล่นนัดแรกในคาร์ลิ่ง คัพที่พ่ายอาร์เซนอลเมื่อเดือนตุลาคม

หลังจากนั้นเจ้าชายเลือดผสมทำได้เพียงแค่นั่งสำรองยิ้มไปวันๆจนเดอะค็อปตั้งคำถามกันถ้วนหน้าโดยเอลบอสให้เหตุผลเพียงแค่ว่าอาควิลานี่ยังไม่ฟิตพอที่จะลงสนามในเกมหนักๆ

ล่าสุดพ่ออาควิซึ่งเป็นทีมแพทย์ของโรม่าออกมาแฉว่าลูกของเขาฟิตเป็นเดือนแล้วและคนเดียวที่ให้คำตอบได้ว่าเสียเงิน 17 ล้านปอนด์ซื้อเขามาเพื่ออะไรคือราฟา

อัลแบร์โต้พร้อมลงเล่นและฟิตมานานกว่าหนึ่งเดือนแล้วพ่ออาควิเผย

เขารู้สึกดีและอาการบาดเจ็บก็หายเป็นปลิดทิ้ง ตอนนี้ทางเดียวที่เขาจะฟิตแบบเต็มที่คือลงเล่นให้มากขึ้นเท่านั้นเอง

เขาอยากเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งในอังกฤษและวิ่งเต็มแก่แล้ว เขาหงุดหงิดมาก,ตอนแรกก็เจ็บ,ต่อมาก็หงุดหงิดที่ไม่ถูกเลือกลงสนามอยู่นานนม เห็นได้ชัดว่าเขาไม่แฮปปี้เลยที่ต้องรอนานขนาดนั้นกว่าจะมีส่วนร่วมกับทีม

ผมไม่รู้เหตุผลว่าทำไมเบนิเตซถึงไม่เลือกส่งเขาลงสนามนับตั้งแต่กลับมาจากอาการบาดเจ็บ

นั่นคือประเด็นของอัลแบร์โต้ เขาจะต้องทำให้โค้ชเชื่อว่าเขาต้องเล่น ผมไม่รู้ว่ามีแรงกระตุ้นพิเศษอะไรที่ทำให้เบนิเตซไม่ใช้งานเขา

แม้ลูกชายหัวเสียแบบนี้แต่พ่อยืนยันว่าเพลย์เมคเกอร์เท้าช่างทองมีความสุขดีในถิ่นแอนฟิลด์

เขาแฮปปี้กับลิเวอร์พูลเอามากๆ เขาปรับตัวได้ดีเลยล่ะ

เขากำลังเรียนรู้ภาษาซึ่งเป็นปัญหาในตอนแรกและรอบๆตัวเขาก็มีทั้งเพื่อน,ครอบครัวและคู่หมั้นอยู่ข้างกายเสมอ

เขาชอบเมืองนี้,วัฒนธรรม,ฟุตบอลและบรรยากาศที่สนามต่างๆมาก เขาประทับใจกับแฟนบอลที่มีต่อนักเตะเหลือเกิน

สาเหตุที่อาควิลานี่ยังไม่ได้รับโอกาสอย่างจริงๆจังๆนักเพราะดันมาฟิตผิดที่ผิดเวลาซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างที่ผลงานของหงส์แดงกำลังย่ำแย่และแทบหาชัยชนะไม่เจอซึ่งราฟาเอล เบนิเตซต้องการผลการแข่งขันให้ดีเอาไว้ก่อนเพื่อลดความกดดันอย่างมหาศาล

8 นัดหลังเฉพาะในพรีเมียร์ลีกลิเวอร์พูลชนะแค่ 2 นัดทำให้ราฟาไม่กล้าเปลี่ยนลงมาแทนฮาเวียร์ มาสเคราโน่หรือลูคัส เลว่าซึ่งถนัดในเรื่องเกมรับและจะสังเกตได้ว่าหงส์แดงลงเล่นแต่ละนัดไม่เคยเป็นต่อคู่แข่งหรือเล่นเหนือกว่าแม้กระทั่งเล่นในบ้านตัวเองจึงไม่เหมาะที่จะลงไปห้ำหั่นในเกมที่วิ่งไล่กันกระจายเพื่อต้านทานเกมรุกของฝ่ายตรงข้ามนั่นเอง