หงส์หวิดเน่า! ยูนตีเจ๊าเรือมันหยด 2-2

 
หงส์แดงลิเวอร์พูลเอาตัวรอดไปได้อีกนัดหลังนำก่อนแต่เกือบพังเมื่อถูกสตีเฟ่น ไอร์แลนด์ทื่ล้ำหน้าแต่ยิงแซงยังดีได้ยอสซี่ เบนายูนตามตีเสมอเร็วทำให้ยังนอนแอ้งแม้งอยู่ที่ 7 ตามเดิมส่วนลูกทีมมาร์ค ฮิวจส์เสมอเป็นนัดที่ 6 ติดต่อกันแล้ว

พรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2552


ลิเวอร์พูล 2-2 แมนฯซิตี้

ประตู : 1-0 สเคอร์เทล น.49,1-1 อเดบายอร์ น.69,1-2 ไอร์แลนด์ น.76,เบนายูน น.77



ครึ่งแรก

หงส์หวิดนำ-แอกเกอร์แตก
เล่นมาแค่ 5 นาทีหงส์แดงหวิดขึ้นนำจากฟรีคิกไกล 40 หลาเยื้องๆทางขวาเป็นเจอร์ราร์ดเปิดพุ่งเข้าเขตโทษแล้วตูเร่โถมมาแย่งโหม่งกับแอกเกอร์บอลย้อยทะลักไปเสาสองที่สเคอร์เทลโหม่งแบบบอลพุ่งมาหาเร็วเป็นกระสุนแต่กิฟเว่นลอยตัวปัดมือเดียวแบบปัดยุงบอลค่อยๆกระเด้งผ่านเสาออกไป

แต่จังหวะนี้แอกเกอร์แตกเลือดอาบยืนก็ยืนไม่ไหวเพื่อนต้องช่วยประครองให้นั่งลงแล้วก็หามออกไปเลยก่อนที่คีย์เกียกอสจะต้องถูกส่งลงสนามแทน

หงส์เกือบโดน
แต่เจ้าถิ่นเปลี่ยนช้าให้เวลาล่วงเลยมาถึงนาทีที่ 10 ทำให้ต้องเล่น 10 ตัวจนเกือบเสียประตูจากลูกสาดยาวเข้าเขตโทษเป็นแบร์รี่โขกชงในกรอบกะจะให้อเดบายอร์เข้าชาร์จที่เสาสองแต่เรน่าบินปัดพ้นอันตราย

บาเบิ้ลเจ็บเล่นไม่ไหว
เกมของลิเวอร์พูลยังไม่คืบหน้าเพราะไรอัน บาเบิ้ลมาเจ็บจังหวะที่ยิงแล้วถูกซาบาเลต้าปั๊มตรงหน้าเขตโทษทำให้เล่นต่อไม่ไหวต้องส่งยอสซี่ เบนายูนลงมาแทนในนาที 19

เจอร์ราร์ดบอกกูเอง
นาที 27 หงส์แดงได้เสียวอีกหลังเอ็นก็อกเลี้ยงนัวเนียตรงหน้าเขตโทษก่อนทะลักไปถึงเคาท์ที่ดีดเร็วให้เจอร์ราร์ดวิ่งมายิงติดบล็อกก่อนมาเข้าทางทีนี้หวดตูมเดียวบอลพุ่งเฉี่ยวสาเหลี่ยมนิดเดียว

ไอ้สั้นเกือบชช็อกเดอะค็อป
คู่นี้เปิดแลกกันสนุกโดยที่เจ้าถิ่นได้เจอร์ราร์ดโชว์ความคะนองไล่บอลสไลด์ตัดจนแฟนบอลเฮหลายครั้งแต่ก่อนหมดเวลา 10 นาทีเรือใบเกือบได้ประตูหลังเวย์น บริดจ์ลากตัดจากปีกซ้ายเข้าในแล้วไหลเข้ามาหน้าเขตโทษเป็นไอร์แลนด์ที่วิ่งข้ามหลอกให้ฌอน ไรท์ ฟิลิปปส์ยิงบอลปลิ้นไซด์เฉี่ยวหน้าต่างได้เสียว

บอลคู่นี้ทันกันเกือบทุกจังหวะและช่วยซ้อนดักกินจนสุดท้ายแล้วหมดครึ่งแรกเสมอกัน 0-0 แบบได้ลุ้นสนุกพอสมควร

ครึ่งหลัง

หงส์เริ่มลุยทันที
เริ่มมา 3 นาทีหลังซิตี้บุกมาเสียวถึงหน้าประตูเจ้าถิ่นแต่งวดนี้ลิเวอร์พูลลุยมาบ้างเป็นเคาท์หลุดกระขากเข้ามาถึงกรอบโทษทางขวาก่อนตบตั้งให้เจอร์ราร์ดวิ่งมายิงแต่ติดบล็อกอย่างน่าเสียดาย

สเคอร์เทลยิงตุง 1-0
แต่อีกนาทีเดียวหงส์แดงได้ฟรีคิกตรงริมกรอบโทษฝั่งซ้ายหลังเอ็นก็อกแตะลอดขาซาบาเลต้าที่เข้าพรวดแต่เจอเหนี่ยวทำให้เจอร์ราร์ดรับหน้าที่ปั่นพุ่งๆมาที่เสาแรกและสเคอร์เทลวิ่งมาแหย่ยิงตัดหน้าอเดบายอร์ที่ยืนงงๆเข้าไปง่ายๆ กิฟเว่นถึงกับผงะไม่ได้พุ่งเลยเพราะมาเร็วจบเร็วจริงๆ

หงส์ตั้งรับ
ลิเวอร์พูลหันไปตั้งรับและกองหลังเคลียร์ทุกจังหวะส่วนเกมรุกก็เริ่มหายๆเพราะใช้การวางยาวให้เอ็นก็อกขึ้นโหม่งซึ่งก็เก็บบอลไม่ได้เลยทำให้ตอนนี้เรือใบครองบอลเข้านวดมากกว่าแล้ว

บายอร์โขก 1-1
หลังจากรับอยู่นานนาที 69 ลิเวอร์พูลมาโดนตีเสมอจนได้จากจังหวะเตะมุมเป็นอเดบายอร์ขวิดคนเดียวโดยที่สเคอร์เทคุมห่างบอลกระเด้งพื้นผ่านมือเรน่าตุงหน้าต่างเข้าไปง่ายๆ 1-1 แล้ว

หงส์งานเข้าไอร์แลนด์ซัดแซง
ตอนนี้เจอร์ราร์ดหายไปจากเกมเพราะเล่นสูงกลางก็ให้ไม่ได้เพราะมีแต่ตัวรับและนาที 76 มาเสียลูกสองง่ายๆจากลูกที่เตเบซแทงพักบอลให้ไรท์ ฟิลลิปส์พิงคีย์เกียกอสในเขตโทษแล้วตวัดให้ไอร์แลนด์วิ่งมาที่จุดนัดพบแปจ่อๆเข้าไป

ช็อก!เบนายูนตีเสมอเร็ว 2-2
แต่ดีใจกันแค่นาทีเดียวหงส์แดงกลับมาตีเสมออย่างรวดเร็วจากจังหวะที่เอ็นก็อกโชว์ทักษะกระดกบอลตรงหน้าเขตโทษหนีตัวประกบแล้ววอลเลย์บอลแฉลบเลสค็อตต์กลายเป็นไหลมาเข้าทางเบนายูนที่สอดมาเสาสองสไลด์เผาขน 2 หลาเข้าไปเหลือเชื่อ

ไอ้สั้นชักป่วน
ก่อนหมดเวลา 10 นาทีเดอะค็อปเสียวทั้งสนามหลังเตเบซพิงบอลในกรอบแล้วป้ายคืนให้ไรท์ ฟิลลิป์ซัดเเลียดเต็มข้อแต่เรน่าล้มตัวตระครุบติดหนึบ

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งคู่เปิดแลกกันโดยต้องพึ่งพาอาศัยตัวรับคอยต้านแนวรุกโดยหงส์แดงเสียเปรียบกว่าเพราะบุกไม่หลากหลายบอลต่อกันลำบากส่วนเรือใบจะเคาะบอลแล้วพักกันได้ดีกว่า สุดท้ายทำอะไรไม่ได้เสมอระทึก 2-2 ทำให้ลิเวอร์พูลไม่ชนะใคร 3 นัดเก็บได้แค่ 2 แต้มอยู่อันดับ 7 ส่วนซิตี้เสมอเป็นนัดที่ 6 ติดต่อกันหรือไม่ชนะใครตั้งแต่เดือนกันยายนแล้ว

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล :
โฆเซ่ เรน่า,เจมี่ คาร์ราเกอร์ ,มาร์ติน สเคอร์เทล,ดาเนี่ยล แอกเกอร์ (คีย์เกียกอส น.11),ฮาเวียร์ มาสเคราโน่,ลูคัส เลว่า ,เดิร์ก เคาท์,ไรอัน บาเบิ้ล (เบนายูน น.18 (ออเรลิโอ น.86)),สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด,ดาวิด เอ็นก็อก

แมนฯซิตี้ : เชย์ กิฟเว่น,พาโบล ซาบาเลต้า,โคโล่ ตูเร่(โอนูฮา น.46),โจเลออน เลสค็อตต์,เวย์น บริดจ์,ไนเจล เด ยอง,แกเรธ แบร์รี่(เตเบซ น.61),ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์,สตีเฟ่น ไอร์แลนด์,เคร็ก เบลลามี่,เอ็มมานูเอล อเดบายอร์



















 

                                           ขอบคุณข่าวจาก lentee.com

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์