ชีวิตต้องสู้ของ ลูคัส เลวา



 

หากเอ่ยชื่อของ ลูคัส เลวา ต่อหน้าแฟนบอลลิเวอร์พูล หลายคนอาจทำหน้าไร้อารมณ์ หรือไม่ขอออกความเห็นถึงมิดฟิลด์ชาวบราซิลผู้นี้ที่โดนตราหน้าว่ายัง ''ชั้นไม่ถึง'' กับการเป็นนักเตะทีมหงส์แดง ขนาดสาวกในเมืองไทยยังขนานนามให้เป็น ''ลูกรัก'' ของ ราฟา เบนิเตซ ไปแล้ว


มิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติบราซิลได้โอกาสลงสนามต่อเนื่องยิ่งขึ้นในฤดูกาลนี้ ทันทีที่ ชาบี อลอนโซ่ อำลาจากทีมไปสู่ลีกสเปน แต่ลูคัส ยังคงรักษาฝีเท้าที่คาดเดาลำบากไว้อย่างต่อเนื่อง แม้บางจังหวะเขาจะเล่นดีใจหาย ความผิดพลาดที่ชัดเจนกว่าก็ดูจะบดบังผลงานเหล่านั้นไว้จนหมดสิ้น


บางทีภาพลักษณ์ของนักเตะบราซิลในสายตาของคนทั่วโลก อาจเป็นลีลาของ โรบินโญ่ หรือ โรนัลดินโญ่ ที่เต็มไปด้วยลูกเล่นแพรวพราว และเลวา ก็เชื่อว่ามันอาจเป็นสิ่งที่ทุกคนคาด นับแต่ย้ายมาสู่แอนฟิลด์ในหน้าร้อนของปี 2007


อย่างไรก็ดี นักเตะแซมบ้าไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ลีลาร้อนแรงอย่างที่ทุกคนเชื่อ หากยังมีแข้งจากเมืองกาแฟอีกมากมายที่แตกต่างออกไป รวมทั้งตัวเขาที่ยอมรับว่าไม่อาจงัดลูกเล่นแบบนั้นออกมาโชว์ได้มากนัก หรือหากทำได้ก็ไม่หวือหวาเท่าที่ควร


แต่วันดีคืนดี ลูคัส เลวา ก็โผล่ออกมาจากหลืบเงาและมีส่วนในเกมสำคัญๆ เช่นชัยชนะเหนือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อเร็วๆ นี้ในรังแอนฟิลด์ ในจังหวะที่เขาพุ่งอัด พอล สโคลส์ และแย่งบอลมาเปิดให้ เดิร์ค เค้าท์ เข้าไปยิงถากเสาในช่วงต้นเกม รวมทั้งจังหวะเปิดให้ ดาวิด เอ็นก๊อก หลุดเข้าไปยิงประตูที่สองของเกมต่อหน้าอัฒจันทร์ เดอะ ค็อป



เขามุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนเสียงโห่นั้นให้กลายเป็นเสียงชื่นชม เช่นเดียวกับการเอาชนะใจโค้ชอย่าง ราฟา เบนิเตซ ที่ให้โอกาสเขายืนเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกและบอลยุโรปทุกนัดในฤดูกาลนี้


เส้นทางนักเตะของลูคัส เริ่มต้นตั้งแต่การออกจากบ้านเกิดที่ดูราโดส ทางตอนกลางของบราซิล เมื่ออายุเพียง 14 ปี ก่อนย้ายจากเกรมิโอ สโมสรสุดท้ายในบ้านเกิดมายังอังกฤษ เมื่อปี 2007 ด้วยราคา 6 ล้านปอนด์
 

เขาเซ็นสัญญากับลิเวอร์พูล ก่อนกลับไปบ้านเพื่อลงเล่นครั้งสุดท้ายให้เกรมิโอ ในศึกโคปา ลิเบอร์ตาดอเรส เจอกับโบคา จูเนียร์ส น่าเสียดายที่ทีมของเขาไม่ประสบความสำเร็จ ทว่ากัปตันทีมชาติบราซิลรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ชุดแชมป์อเมริกาใต้ ก็เชื่อว่าตัวเองพร้อมสำหรับลีกอังกฤษ แทนที่จะเป็นสเปนอย่างที่หลายสโมสรยื่นข้อเสนอมาให้ในช่วงเดียวกัน
 

ความเชื่อมั่นในตัวลูคัสของราฟา กลายเป็นหนามย้อนกลับมาทิ่มแทงกุนซือชาวสเปนเสียเอง เพราะหลายครั้งที่ดาวเตะแซมบ้าพลาด เสียงวิจารณ์เหล่านั้นก็กระทบไปถึงเบนิเตซ ที่ให้โอกาส แม้เบื้องหลังนั้น ''เอล ราฟา'' จะเน้นเสมอว่าให้เขาพยายามทุ่มเทต่อไป โดยไม่ยกย่องให้หลงระเริงยามเล่นได้ดีเท่าไหร่นัก
 

ความทุ่มเทเหล่านั้นนอกจากทำให้ เบนิเตซ เชื่อมั่นในตัวเขาแล้ว ลูคัส ยังมีชื่อติดทีมชาติชุดใหญ่ของ คาร์ลอส ดุงก้า ในเกมอุ่นเครื่องกับอังกฤษที่โดฮาตอนกลางเดือน พ.ย. ซึ่งอาจเป็นโอกาสเผชิญหน้ากับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด และนักเตะในพรีเมียร์ลีกอีกหลายราย แม้ขณะนี้เส้นทางระดับอินเตอร์ของเขาเพิ่งเริ่มต้น โดยอยู่ข้างหลัง จิลแบร์โต้ ซิลวา และ เฟลิเป้ เมโล่ ก็ตาม
 

 อย่างไรก็ดี การเป็นนักเตะอาชีพในประเทศที่คลั่งไคล้เกมลูกหนังเป็นอันดับหนึ่งของโลก ย่อมไม่ใช่ของง่าย เพราะนอกจากฝีเท้าแล้ว แต่ละคนยังต้องพึ่งพาโชคประกอบกันเพื่อก้าวไปสู่ระดับแนวหน้า แถมแต่ละปี ดาวเตะแซมบ้ายังเดินทางออกไปเผชิญโชคนอกบ้านเกิดถึงปีละ 600-700 คน ทำให้พวกเขาไปอยู่ในลีกทั่วทุกมุมโลกเลยก็ว่าได้
 

เลวินญ่า ลุงของลูคัส มีชื่อติดทีมชาติบราซิล 21 นัดในยุค 70 และลงเล่นในตำแหน่งกองหน้าตอนบอลโลก 1974 อีกทั้งเป็นฮีโร่ของสโมสรพัลเมรัส แห่งรัฐเซา เปาโล นอกจากนั้นยังเคยไปค้าแข้งกับแอตเลติโก มาดริด คว้าแชมป์ ลา ลีกา ในปี 1977 ก่อนจำต้องแขวนสตั๊ดเมื่ออายุเพียง 28 ปีจากอาการบาดเจ็บ


มันทำให้ลูคัส รู้ดีว่าชีวิตการเป็นนักฟุตบอลนั้นมีอายุสั้นนักและยิ่งทำให้มิดฟิลด์วัย 22 ตั้งใจเอาชนะเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากภายนอกสโมสรให้ได้... ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
                                                                โดย..สตาร์ซอคเก้อร์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์