กล้าไหม...ราฟา


 

ชั่วโมงนี้ใครเป็นแฟน ลิเวอร์พูล คงรู้รสของการท้อและเซ็งกันบ้างละครับ ดีไม่ดีบางคนอาจจะถึงขั้นเบื่อฟุตบอลกันไปเลยก็ได้ในช่วงนี้เพราะทีมอยู่ในข่วงขาลงแบบสุดๆ จริงๆ


ใครจะรับได้เพราะผ่านไปไม่ถึง 3 เดือนดี ลิเวอร์พูล แพ้ไปแล้วถึง 6 นัด ทั้งที่ฤดูกาลก่อนเพลี่ยงพล้ำให้คู่แข่งเพียงแค่ 5 หนเท่านั้น จึงไม่ต้องพูดถึงแล้วกับตำแหน่งแชมป์ 
 
จริงอยู่ในการแพ้แต่ละนัดมีหลายปัจจัยให้ ราฟาเอล เบนิเตซ นำมาเป็นข้อแก้ตัวไม่ว่าจะเป็นการพลาดของผู้ตัดสินในนัดเปิดฤดูกาลที่ปฏิเสธการให้จุดโทษกับทีมถึง 2 ครั้งในนัดแพ้ สเปอร์ส 1-2 ที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน ต่อการเข้าเสียบสกัดอย่างไม่คิดของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด จนทำให้เสียจุดโทษนัดแพ้ แอสตัน วิลล่า 
 
เลยเถิดมาถึงการเล่นได้ไม่ตามแผนของลูกทีมวันแพ้ ฟิออเรนติน่า 0-2 ที่ อาร์เตมิโอ ฟรังคี่ ทั้งที่มีคำถามย้อนกลับไปยัง ราฟา ว่าคิดยังไงกับการจัด ฟาบิโอ ออเรลิโอ ลงยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวรับคู่กับ ลูคัส เลว่า  
ขณะที่เกมแพ้ เชลซี 0-2 ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ นั้นเป็นเรื่องที่เหล่าเดอะ ค็อป พอรับได้เพราะเป็นการเสียท่าให้ทีมใหญ่ เพียงแต่สถานการณ์ตอนนั้นมันไม่ควรจะพลาดนั่นเอง 
 
ส่วนเกมแพ้ ซันเดอร์แลนด์ 0-1 ก็มีเหตุปัจจัยมาจากบอลชายหาด ทว่า ราฟา ก็ลูกผู้ชายพอที่ออกมายืดอกว่าลูกทีมเล่นไม่ดีจริงๆ และสมควรแล้วกับการที่ได้แต้มกลับออกไปจาก สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์
 

และล่าสุดการแพ้ โอลิมปิก ลียง ในเกมที่ต้องชนะเพื่อพลิกสถานการณ์กลับมาอยู่ในเส้นทางเข้ารอบน็อคเอาท์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทั้งที่ออกนำไปก่อนจาก ยอสซี่ เบนายูน แต่มาเสียท่าให้ มักซิม โกนาลงส์ และ เซซาร์ เดลกาโด้ 2 ตัวสำรองของผู้มาเยือนจากฝรั่งเศส 
 
เล่นเอาหลายคนหมดความอดทนพร้อมกับตั้งคำถามว่า ราฟาเอล เบนิเตซ เก่งจริงหรือเปล่า และปัญหาที่แท้จริงของทีมตอนนี้คืออะไร ซึ่งก็เชื่อว่าคงมีการวิพากษ์วิจารณ์กันไปพอสมควรแล้ว 
 
ในความเห็นส่วนตัวเรื่องเก่งหรือไม่เก่งคงต้องตอบว่า ราฟาเอล เบนิเตซ เก่งเพราะอย่างน้อยก็เคยพา บาเลนเซีย คว้าแชมป์ ลา ลีกา มาแล้ว เช่นเดียวกับการนำ ลิเวอร์พูล เป็นแชมป์ทั้ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2005 ต่อด้วย เอฟเอ คัพ ในปี 2006 
 
ทว่าปัญาของทีมตอนนี้คืออะไรนี่ละครับเป็นเรื่องที่ตอบยากเพราะว่าเป็นการมองจากคนวงนอก แต่ดูเหมือนว่าความคิดเห็นของสื่อในอังกฤษรวมไปถึงแฟนบอลส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่ามาจากความดื้อรันของ ราฟาเอล เบนิเตซ นั่นเอง 
 
แม้เรื่องหนี้สินที่พะรุงพะรังอยู่ในเวลานี้จะเป็นอีกตัวแปรสำคัญแต่แทบทุกคนมองว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับผลงานในสนาม อีกทั้งที่ผ่านมา ราฟา ก็ได้สิทธิ์ในการบริหารทีมอย่างเต็มที่โดยเฉพาล่าสุดได้สิทธิ์ขาดในการเลือกซื้อนักเตะด้วย 
 
ประเด็นการซื้อนักเตะนี่แหละครับทำให้ทำ ราฟา กำลังเสียรังวัดอยู่ในขณะนี้เพราะมีไม่กี่คนเท่านั้นที่ดึงเข้ามาแล้วทำผลงานได้ดี ที่เห็นๆ ก็น่าจะเป็น เฟร์นานโด ตอร์เรส และ โฆเซ่ เรน่า ขณะที่บางคนได้แค่เสมอตัว และส่วนใหญ่ไม่ได้เรื่องเลย 
 
ขณะเดียวกันควันหลงจากเกมแพ้ โอลิมปิก ลียง อันทำให้ทีมประสบความพ่ายแพ้ติดต่อกันเป็นหนแรกนับแต่ปี 1987 หรือ 22 ปีมาแล้วนั้นก็มีบางคนตั้งข้อสังเกตุว่า ราฟาเอล เบนิเตซ ยึดมั่นในความคิดมากเกินไป เพราะเป็นไปได้ยังงัยที่เปลี่ยน ยอสซี่ เบนายูน ที่เล่นได้ดีออกแล้วส่ง อังเดร โวโรนิน ลงไปเล่นแทน ขณะที่ ดาวิด เอ็นก็อก ที่แทบจะทำประโยชน์ให้ทีมไม่ได้เลยกลับได้อยู่ในสนามจนครบ 90 นาที 
 
ที่เป็นเช่นนี้น่าจะเป็นเพราะ ราฟา คิดมาจากบ้านแล้วว่าจะเปลี่ยนใครเข้า-ใครออก นอกจากจัด 11 คนแรกลงสนาม ซึ่งต่างจากยอดกุนซือหลายคนในเวลานี้ที่จะปรับเปลี่ยนทีมตามความเหมาะสม 
 
อย่างไรก็ดีในเรื่องนี้ ราฟา ก็ออกมาโต้ว่ามีเหตุผลในการตัดสินใจแบบนั้น และด้วยข้อจำกัดกับการบาดเจ็บของตัวหลักอย่าง เฟร์นานโด ตอร์เรส และ เกลน จอห์นสัน ที่เจ็บโคนขาหนีบ และ อัลเบิร์ต ริเอร่า ที่เจ็นเอ็นหลังหัวเข่า ขณะที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ก็เล่นไปได้แค่ 25 นาทีก็ต้องถูกเปลี่ยนออกเพราะเจ็บซ้ำที่โคนขาหนีบจึงไม่เหลือทางเลือกมากนั้น ก็ยากที่จะเข้าใจ 
 
ขณะเดียวกัน ราฟา ก็ขอมองไปที่เกมนัดถัดไปมากกว่า ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเป็นโอกาสสุดท้ายหรือเปล่าแม้ล่าสุด จอร์จ จิลเล็ตต์ จะออกมาให้การหนุนหลังว่าไม่ปลดผู้จัดการทีมชาวสแปนิชแน่เพราะว่ามีค่าฉีกสัญญาสูงถึง 20 ล้านปอนด์ หรือราวๆ 1,000 ล้านบาทนั่นเอง 
 
เป็นเกมบีบหัวใจของ ราฟาเอล เบนิเตซ และสาวกหงส์แดงทั้งหลายแต่เมื่อคู่ต่อกรคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้จะเป็นการเล่นใน แอนฟิลด์ แถมฤดูกาลก่อนก็เอาชนะทีมปีศาจแดงได้ทั้งเหย้าและเยือนก็ตาม 
 
ยังดีที่สภาพของผู้มาเยือนก็ไม่ถึงกับดีนักโดย อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังต้องลุ้นว่าตัวหลักอย่าง เวย์น รูนี่ย์, ไรอัน กิ๊กส์, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ และ ปาทริช เอวร่า จะกลับมาลงสนามได้หรือเปล่า 
 
ทว่า ลิเวอร์พูล เองก็เจอปัญหาตัวหลักเจ็บไม่น้อยเหมือนกันเพียงแต่มีข่าวดีที่ เกลน จอห์นสัน และ เฟร์นานโด ตอร์เรส น่าจะพร้อมรบ จะมีก็แค่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กับ อัลเบิร์ต ริเอร่า เท่านั้นที่ยังน่าเป็นห่วง 
 
เมื่อ 22 ปีก่อนตอนที่ ลิเวอร์พูล กำลังรุ่งโรจน์ก็เคยแพ้ 4 นัดติดมาแล้วไล่ตั้งแต่เกมกับ สเปอร์ส 0-1 ที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน กับ วิมเบิลดัน 1-2 คาบ้าน ตามด้วยการแพ้ อาร์เซน่อล ใน ลีก คัพ นัดชิงชนะเลิศ 1-2 ที่ เวมบลี่ย์ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ เอียน รัช ยิงประตูได้แล้วทีมแพ้ด้วย 
 
และสุดท้ายเป็นการออกไปแพ้ นอริช ซิตี้ 1-2 ที่ แคร์โรว์ โร้ด เมื่อวันที่ 11 เมษายน 1987 จนทำให้ เคนนี่ ดัลกลิช ผู้เล่น-ผู้จัดการทีมในตอนนี้ถึงกับเครียดจัด 
 
ผู้เล่นในวันแพ้ นอริช ซิตี้ เมื่อ 22 ปีก่อนประกอบด้วย บรูซ กร็อบเบลลาร์, อลัน แฮนเซ่น, แกรี่ จิลเลสพี, แบร์รี่ เวนิสัน, รอนนี่ วีแลน, แจน โมลบี้, สตีฟ แม็คมาน, เคร็ก จอห์นสตัน, จอห์น วอร์ค, พอล วอลช์ และ เอียน รัช ซึ่งล้วนแต่เป็นสุดยอดนักเตะในแต่ละตำแหน่งทั้งนั้น 
 
ในเกมถัดไปกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่มี ไบรอัน คลัฟ เป็นผู้จัดการทีม เคนนี่ ดัลกลิช ตัดสินเปลี่ยนทีมด้วยส่งตัวเองลงเป็น 11 คนแรกแทน แจน โมลบี้ ซึ่งได้ผลเมื่อเจ้าตัวยิงประตูได้และช่วยทีมชนะขาด 3-0 โดยอีก 2 ลูกได้จาก แกรี่ แอ็บเล็ตต์ และ รอนนี่ วีแลน 
 
ทีมชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 3-0 วันนั้นประกอบไปด้วย บรูซ กร็อบเบลลาร์, แกรี่ แอ็บเล็ตต์, อลัน แฮนเซ่น, แกรี่ จิลเลสพี, แบร์รี่ เวนิสัน, รอนนี่ วีแลน, เคนนี่ ดัลกลิช, สตีฟ แม็คมาน, เคร๊ก จอห์นสตัน, พอล วอลช์ และ เอียน รัช 
 
กับชุดปัจจุบันนี้เกมแพ้ โอลิมปิก ลียง 1-2 ประกอบด้วย โฆเซ่ เรน่า, มาร์ติน เคลลี่, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ดาเนี่ยล แอ๊กเกอร์, เอมิเลียโน่ อินซัว, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ลูคัส เลวา, เดิร์ค เค้าท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ยอสซี่ เบนายูน และ ดาวิด เอ็นก็อก 
 
จริงอยู่ ราฟา ผ่าทางตันเหมือน ดัลกลิช ที่ลงเล่นเองไม่ได้แต่หากเขากล้าเปลี่ยนทีมด้วยการถอดทั้ง ลูคัส เลวา และ ดาวิด เอ็นก็อก 2 คนที่เล่นได้ขัดตาที่สุดออกรวมไปถึง เจมี่ คาร์ราเกอร์ ที่โรยราอย่างน่าใจหายแล้วปรับเป็นชุดนี้ โฆเซ่ เรน่า - เกลน จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, ดาเนี่ยล แอ๊กเกอร์,เอมิเลียโน่ อินซัว - ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด - เดิร์ค เค้าท์, ยอสซี่ เบนายูน, อัลเบิร์ต ริเอร่า - เฟร์นานโด ตอร์เรส แล้วละก็สถิติแพ้รวดอาจจะหยุดอยู่แค่ 4 นัด 
 
ดีไม่ดีจะทำได้เหมือน 22 ปีก่อนที่ต้อน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 3-0 แม้คู่ต่อสู้เกมนี้จะมีดีกรีเป็นแชมป์ลีก 18 เท่ากันอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ตาม  
  
พิราบขาว


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์