หัวขิงรับชีวิตเปลี่ยนหลังขึ้นศาล

หัวขิงรับชีวิตเปลี่ยนหลังขึ้นศาล

สตีเฟ่น เจอร์ราร์ดกัปตันทีมลิเวอร์พูลยอมรับว่าเขาต้องระมัดระวังตัวเองให้มากขึ้นรวมทั้งพยายามใส่ใจเด็กๆเยาวชนที่เอาเขาเป็นตัวอย่างหภายหลังเกิดเหตุการณ์อื้อฉาวต้องขึ้นโรงขึ้นศาล

หัวขิงเคยเกือบทำให้เดอะค็อปต้องผวากับการติดคุกหลังก่อเหตุวิวาทในวันที่ฉลองชัยชนะเหนือนิวคาสเซิ่ล 5-1 เมื่อธันวาคมปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตามแม้ดาวเตะวัย 29 ปีจะพ้นข้อกล่าวหาแต่เขายอมรับว่าสุดแหยงกับบรรยากาศและประสบการณ์ในศาลแถมประกาศว่าต่อไปนี้หากต้องฉลองชัยชนะสวยหรูเหมือนที่เซนต์ เจมส์ พาร์คอีกเขาจะนั่งกินข้าวอยู่ที่บ้านอย่างเดียวแล้ว

ผมเป็นนักเตะซึ่งชอบทำให้ตัวเองปราสศจากเรื่องอ่างพร้อย

ผมมักถูกตัดสินถึงแนวทางความประพฤติที่นักฟุตบอลควรพึงกระทำ ผมไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ มันไม่ใช่เรื่องของภาพลักษณ์หรือแสดงแต่ผมรู้ว่าเด็กๆหลายคนจับตามองผมอยู่ ผมได้รับจดหมายจากพวกเขาและในตอนนั้นผมคดว่าผมจะทำให้พวกเขาและผู้คนผิดหวังไม่ได้

ผมเคยเป็นกังวลว่าผู้คนจะไม่มากเช่นนั้นเท่าผมและเป็นเหตุผลว่าทำไมผลการตัดสินถึงเลวร้ายเหลือเกิน ระหว่างขึ้นศาลแล้วผมมีอยู่ 2 วันที่ผมอ่านเจอรายงานต่างๆแล้วก็คิดว่า'ผมหวังว่าผู้คนคงไม่คิดว่านี่คือตัวตนที่แท้จริงของผมนะ'

การขึ้นศาลเปลี่ยนแปลงผม

ผมต้องเรียนรู้จากสิ่งนี้ เรียนรู้จากการที่เราต้องอยู่ผิดที่ผิดเวลา ข่วงเวลาที่ผมออกไปเที่ยว,ที่ๆผมไป,ผมจะต้องระวังให้มากขึ้นในอนาคตข้างหน้า

จาก ณ ตอนนี้ถ้าเราชนะ 5-1 ถ้าผมยิงได้สองประตูและเราเป็นจ่าฝูงผมจะไม่พยายามออกไปหาความสำราญในบาร์กับเพื่อนๆอีกแล้ว ผมจะทานอาหารซักมื้อในบ้านซักสี่ทุ่มครึ่ง พวกเรานักฟุตบอลได้รับค่าจ้างสุดงามและมันต้องมีการเสียสละอะไรบางอย่างกันบ้าง

ตลอดการขึ้นศาลผมบอกตัวเองตลอดเวลาว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมจะไม่กลับมาอยู่ในห้องแบบนี้อีก มันไม่ใช่เรื่องน่าปลื้มเลยที่มาอยู่ในที่แบบนี้,ประสบการณ์ทั้งฟมดมันน่ากลัวและน่าแหยงมาก

ผมไม่เคยต้องเจอกับอะไรเช่นนี้มาก่อน ผมคิดถึงแต่เรื่องเพื่อนๆไปเยือนประเทศไทยและถึงตัวเองที่อยู่ห่างไกลจากที่ๆผมควรจะไปอยู่

แม้ผลการตัดสินออกมาแล้วแต่ก็ไม่มีแม้แต่นาทีเดียวที่เต็มไปด้วยความสนุก,ไม่มีช่วงเวลาใดที่ทำให้ผมภูมิใจเลย

ผมเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมเสียใจที่ไม่ได้อยู่บ้านเมื่อผมควรต้องทำเช่นนั้นและผมยอมรับว่าผู้คนมักจะมองสิ่งนี้เป็นตำหนิของตัวผมแม้กระทั่งผมได้รับผลการตัดสินที่สมควรแล้วก็ตาม

สิ่งที่ผมอยากบอกคือผมให้ความร่วมมือแล้ว,ผมจัดการกับมันได้แล้วและตอนนี้ผมอยากเอาเรื่องนี้เก็บไว้เป็นอดีต มีความสมดุลระหว่างการพยายามเป็นตัวอย่างที่ดีของนักเตะอาชีพและการใช้ชีวิตอยู่ราวกับนักบวช

คุณต้องทำตัวให้มีอิสระสนุกกับมันเหมือนคนอื่นๆแต่ผมพยายามปฏิบัติกับผู้คนเหมือนที่พวกเขาทำกับผมนะ ผมคิดว่าผมให้ความเคารพสิ่งนั้นเพราะผมได้รับความเคารพกลับมา

มีหลากหลายกรณีเมื่อผมต้องเจอกับปัญหานะแต่ผมจะคิดถึงเวลาว่างของผม แม้กระทั่งวันหยุดพักผ่อน,ตอนนี้ต้องระวังให้มากขึ้น ผมคิดว่าผมมีเวลาในอาชีพนักฟุตบอลอีก 6 ปี มันไม่นานนักกับการเลือกตัวเลือที่ว่าเหล่านั้น