หงส์เคี้ยวแมวดำ 10 คน 1-0,ไก่เฮรวด,สาลิกาเจ๊าฝืด

หงส์เคี้ยวแมวดำ 10 คน 1-0,ไก่เฮรวด,สาลิกาเจ๊าฝืด

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 20 สิงหาคม 2548 23:15 น.

หงส์แดง ลิเวอร์พูล กำชัยได้อย่างหวุดหวิดหลังเฉือนชนะ แมวดำ ซันเดอร์แลนด์ ที่เหลือผู้เล่น 10 คน 1-0 ด้าน ไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส ฟอร์มแรงอัด มิดเดิ้ลสโบรช์ 2-0 คว้าชัย 2 นัดรวดส่วน สาลิกาดง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด สุดฝืดได้แค่เสมอ ขุนค้อน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด คารัง 0-0 ในเกม พรีเมียร์ชิพ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

ลิเวอร์พูล 1 - 0 ซันเดอร์แลนด์

ศึก พรีเมียร์ชิพ อังกฤษ วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม 2548 หงส์แดง ลิเวอร์พูล เปิดรัง แอนฟิลด์ ต้อนรับน้องใหม่ แมวดำ ซันเดอร์แลนด์ เจ้าถิ่นส่งกองหน้า 2 คนคือ เฟร์นานโด มอริเอนเตส และ ฌิบริล ซิสเซ่ ที่ฉีกมาเล่นริมเส้นด้านขวาส่วนทีมเยือนมาในระบบ 4-5-1 โดยไม่มี สตีเฟ่น ไรท์ ที่มีอาการบาดเจ็บต้องพักยา

ลิเวอร์พูล ออกสตาร์ทได้อย่างน่ากลัวเพียงแค่ 3 นาทีแรกก็มีลุ้นประตูถึงสองครั้งจากจังหวะที่ เจอร์ราร์ด เปิดบอลจากซ้ายกึ่งยิงกึ่งผ่านไปเสาสองบอลพุ่งไซด์เหลือเชื่อชนเสาก่อนเด้งมาชนตัว สตั๊บบส์ ออกหลังไปและจากลูกเตะมุม เจอร์ราร์ด เปิดจากทางด้านขวาให้ มอริเอนเตส พุ่งโหม่งคนเดียวแต่ว่าไม่เข้ากรอบอย่างน่าเสียดาย

เพียงแค่ 10 นาทีแรก บรีน ก็โดนใบเหลืองไปเป็นคนแรกของเกมเมื่อไปทำฟาวล์ มอริเอนเตส แต่จากลูกฟรีคิก เจอร์ราร์ด ก็โยนไปเข้ามือ เดวิส 4 นาทีหลังจากนั้น คาร์ราเกอร์ วางบอลยาวจากแดนตัวเองให้กับ เซนเด้น แหวกแผงกองหลัง ซันเดอร์แลนด์ เข้าไปโหม่งแต่ว่าไม่ตรงกรอบ

ลิเวอร์พูล ยังบุกหนักและนาทีที่ 18 น่าได้ประตูแบบสุดๆ เมื่อ เซนเด้น เปิดจากซ้ายเข้ากลางให้ ซิสเซ่ จิ้มจ่อๆ แค่หลาเดียวจากเส้นประตูแต่ไม่โดนอย่างเหลือเชื่อ จากนั้นในช่วง 2-3 นาทีมีใบเหลืองสองใบรวดเป็นของ เจอร์ราร์ด ที่ไปเสียบ เวลส์ และ โรบินสัน ไปเสียบ เซนเด้น

และจากลูกฟรีคิกกลางประตูระยะ 25 หลาที่ โรบินสัน ไปเสียบ เซนเด้น เป็น อลอนโซ่ ที่ปั่นด้วยเท้าขวาบอลพุ่งไปทางซ้ายมือของ เดวิส ที่ปัดไม่ออกบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ลิเวอร์พูล ทะยานขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 24

ซันเดอร์แลนด์ ต่อเกมได้น่ากลัวแต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คมพอนาทีที่ 35 ซิสโซโก้ กองกลาง ลิเวอร์พูล โดนใบเหลืองอีกหนึ่งรายเมื่อไปพุ่งเสียบ มิลเลอร์ อย่างน่าเกลียด ครบ 45 นาทีแรก ลิเวอร์พูล นำ ซันเดอร์แลนด์ อยู่ 1-0

เกมในช่วงครึ่งหลังค่อนข้างตื้อนาทีที่ 55 ลิเวอร์พูล เปลี่ยนตัวส่ง หลุยส์ การ์เซีย ลงมาแทน เจอร์ราร์ด ที่ล้าจากทีมชาติอังกฤษเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมามาถึงนาทีที่ 57 ลิเวอร์พูล น่าได้ประตูที่สองเมื่อ บรีน โหม่งสกัดบอลไม่เคลียร์ไปเข้าทาง ซิสเซ่ ที่ใจร้อนยิงเต็มข้อไม่จับบอลเลยพุ่งแรงเฉี่ยวเสาออกหลังไป

นาทีที่ 63 ลิเวอร์พูล ส่ง ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ ลงมาแทน เซนเด้น จากนั้น 4 นาที ซันเดอร์แลนด์ เปลี่ยนตัวบ้างส่ง สตีเฟ่น เอลเลียต และ คริส บราวน์ ลงมาแทน เกรย์ และ ลอว์เรนซ์ เกมทำท่าจะจบเมื่อกรรมการแจกใบแดงไล่ เวลช์ ออกจากสนามในนาทีที่ 73 หลังจากไปกระแทก การ์เซีย ที่แย่งบอลอยู่กับ อาร์ก้า จากนั้น ลิเวอร์พูล ส่ง มิลาน บารอส แทน ซิสเซ่ ทันที

รูปเกมอยู่บริเวณกลางสนามเสียเป็นส่วนใหญ่และมีการตัดฟาวล์กันบ่อยครั้งนาทีที่ 81 ซันเดอร์แลนด์ ส่ง มาร์ติน วู้ด ลงมาแทน โรบินสัน จากนั้น ไวท์เฮด มีโอกาสยิงไกลจากลูกฟรีคิกแต่ก็ไม่ตรงกรอบ

นาทีที่ 88 นอสเวิร์ทธี่ โดนใบเหลืองอีกหนึ่งรายเมื่อไปเสียบ รีเซ่ ครบ 90 นาที ลิเวอรืพูล เฉือนชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 หงส์แดง คว้าชัยเป็นนัดแรกในฤดูกาลนี้ส่วน แมวดำ แพ้สองนัดรวด

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล - โฮเซ่ เรน่า, สตีฟ ฟินแนน, เจมี่ คาร์ราเกอร์, ซามี่ ฮูเปีย, สตีเฟ่น วอร์น็อค, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้, ซาบี้ อลอนโซ่, เบาเดอไวน์ เซนเด้น, เฟร์นานโด มอริเอนเตส, ฌิบริล ซิสเซ่
ซันเดอร์แลนด์ - เคลวิน เดวิส, แกรี่ บรีน, ไนรอน นอสเวิร์ทธี่, อลัน สตั๊บบส์, ฮูลิโอ อาร์ก้า, แอนดี้ เกรย์, เลียม ลอว์เรนซ์, ทอมมี่ มิลเลอร์, คาร์ล โรบินสัน, ดีน ไวท์เฮด, แอนดรูว์ เวลช์

สรุปผลการแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ชิพ อังกฤษ วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม 2548

แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ชนะ ฟูแล่ม 2-1 (มอร์เท่น แกมส์ท พีเดอร์เซ่น 1-0 นาที 15), (ไบรอัน แม็คไบรท์ 1-1 นาที 49), (ตูกาย เคริโมกลู 2-1 นาที 71)
ชาร์ลตัน แอธเลติก ชนะ วีแกน แอธเลติก 1-0 (ดาร์เรน เบนท์ 1-0 นาที 42)
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-0
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส ชนะ มิดเดิ้ลสโบรช์ 2-0 (เจอร์เมน เดโฟ 1-0 นาที 49), (มิโด้ 2-0 นาที 75)
เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ชนะ ปอร์ทสมัธ 2-1 (เจฟฟ์ ฮอร์สฟิลด์ 1-0 นาที 2), (เจฟฟ์ ฮอร์สฟิลด์ 2-0 นาที 59), (โลร็องต์ โรแบร์ 2-1 นาที 63)
ลิเวอร์พูล ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 (ซาบี้ อลอนโซ่ 1-0 นาที 24)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ แอสตัน วิลล่า 1-0 (รุด ฟาน นิสเตลรอย นาที 66)

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์