เกหมดหน้าตัก!หงส์ลุ้นบุกยำสิงห์คืนนี้


ปรีวิวยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2008/09
                                                                รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง
                                                                วันอังคารที่ 14 เมษายน 2552
                                                          เชลซี (อังกฤษ) - ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)
                                                                  (ผลนัดแรก เชลซี ชนะ 3-1)
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์, ลอนดอน
 

เชลซี ของ กุส ฮิดดิ้งค์ กุนซือชาวดัตช์ จะลงเตะกับ ลิเวอร์พูล ทีมร่วมลีก ในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดสอง ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ โดยที่นัดแรกบุกไปชนะมาถึงแอนฟิลด์ 3-1 โดยได้สองประตูจาก บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กองหลังชาวเซิร์บ ทำให้นัดนี้ สิงห์บลูส์ สามารถเล่นให้แพ้ยังได้ แต่ต้องไม่เกิน 3 ประตู ก็จะเข้ารอบอย่างสะดวกโยธิน
 
  สภาพทีม เชลซี ที่เพิ่งโชว์ฟอร์มเก็บชัยแบบหืดจับเหนือ โบลตัน วันเดอเรอร์ส 4-3 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีปัญหาเล็กน้อยตรงที่ ฮิดดิ้งค์ ไม่สามารถใช้งาน จอห์น เทอร์รี่ ปราการหลังกัปตันทีม ที่ติดโทษแบน หลังจากสะสมใบเหลืองครบโควต้าในเกมเมื่อวันพุธที่แล้ว 


เทอร์รี่ โดนใบเหลืองจากผู้ตัดสินชาวเดนิช เคล้าส์ โบ ลาร์เซ่น จากจังหวะเข้าปะทะกับ โฆเซ่ เรน่า นายทวารทีมหงส์แดง ซึ่งทำให้เจ้าตัวสะสมใบเหลืองครบกำหนด ต้องติดโทษแบนโดยปริยายในเกมวันอังคารนี้ ซึ่งจะถูกแทนตำแหน่งโดย ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ปราการหลังโปรตุกีส
 
บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ที่ทำผลงานได้ดีมาตลอดในช่วงที่ผ่านมา น่าจะยึดตัวจริงทางแบ๊กขวาต่อไปหลังจาก โชเซ่ โบซิงวา แบ็กโปรตุกีส ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ
 
ซึ่งก็รวมไปถึง โจ โคล กองกลางทีมชาติอังกฤษ กับ เปาโล แฟร์เรยร่า กองหลังทีมชาติโปรตุเกส ที่ยังต้องพักยาว หมดสิทธิ์เล่นในเกมนี้
 
  สิงห์บลูส์ ยังยึดระบบ 4-3-3 เหมือนเดิม ปีเตอร์ เช็ก เฝ้าเสา แนวรับมี บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, อเล็กซ์,  ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ และ แอชลี่ย์ โคล กองกลางนำโดย มิชาเอล เอสเซียง ร่วมด้วย แฟร้งค์ แลมพาร์ด และ มิชาเอล บัลลัค ขณะที่สามหัวหอกเป็น ฟลอร็องต์ มาลูด้า, ซาโลมง กาลู และ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ที่ทำให้ นิโกล่าส์ อเนลก้า ต้องนั่งรอโอกาสบนม้านั่งสำรองตามเดิม
 
  ฝั่ง ลิเวอร์พูล ของ ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีมชาวสแปนิช มีสภาพทีมที่ดีขึ้นกว่านัดแรกที่พ่ายคารังแอนฟิลด์ ให้ เชลซี 1-3 เนื่องจากจะได้ตัว ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ กองกลางกัปตันทีมชาติอาร์เจนติน่า พ้นโทษแบนกลับคืนสู่ทัพ 11 ตัวจริง 
 

การกลับมาของ มาสเคราโน่ จะทำให้ ลูคัส เลว่า กองกลางดาวรุ่งบราซิเลี่ยน หลุดออกไปนั่งเป็นตัวสำรอง หลังจากที่ได้เล่นตัวจริงในเกมที่แอนฟิลด์เมื่อวันพุธก่อน 
 

ในกรณีของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กองกลางกัปตันทีมคนสำคัญ ที่มีปัญหาบาดเจ็บโคนขาหนีบมาจากเกมนัดแรก และไม่ได้ลงเล่นในเกมชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 4-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เบนิเตซ ยืนยันแล้วว่า จะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อเข็น สตีวี่จี ลงสนาม ซึ่งอาจจะเป็นการฉีดยาลงบู๊
 

พร้อมกันนี้ ซามี่ ฮูเปีย กองหลังจอมเก๋า ก็ฟิตกลับมาเป็นตัวเลือกในแดนหลังได้อีกครั้ง แต่น่าจะเป็นแค่สำรอง โดย มาร์ติน สเคอร์เทล เซนเตอร์แบ็กสโลวัก ที่ได้พักในเกมอัดแบล็คเบิร์น 4-0 เมื่อสุดสัปดาห์ จะได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง ทำให้ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ จะต้องกลับไปเป็นตัวสำรองอีก โดยจะยืนคู่ตัวจริงกับ เจมี่ คาร์ราเกอร์ รองกัปตันทีม
 
  หงส์แดงจะยึดระบบ 4-2-3-1 ลงสนาม ใช้ โฆเซ่ มานูเอล เรน่า เฝ้าเสา แนวรับประกอบด้วย อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล และ ฟาบิโอ ออเรลิโอ คู่กลางเป็น ชาบี อลอนโซ่ กับ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ส่วน สตีเว่น เจอร์ราร์ด จะเดินเกมรุกร่วมกับ เดิร์ค เค้าท์ และ อัลเบิร์ต ริเอร่า ขณะที่ เฟร์นานโด ตอร์เรส ยืนหน้าเป้าตัวเดียว

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
 

เชลซี (4-3-3) : ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, อเล็กซ์,  ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, แอชลี่ย์ โคล - มิชาเอล เอสเซียง, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, มิชาเอล บัลลัค - ฟลอร็องต์ มาลูด้า, ซาโลมง กาลู, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา
 

ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : โฆเซ่ เรน่า - อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เจมี่ คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, ฟาบิโอ ออเรลิโอ - ชาบี อลอนโซ่, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ - เดิร์ค เคาท์, สตีเว่น เจอร์ราร์ด , อัลเบิร์ต ริเอร่า - เฟร์นานโด ตอร์เรส
 
  ผู้ตัดสิน : หลุยส์ เมดิน่า กันตาเลโฆ่ สเปน

                                                           เชื่อเชลซีทุบหงส์อีกเปิด1-0จ่ายต่ำสุด
 

บรรดาบ่อนรับพนันอย่างถูกฏหมายของเมืองผู้ดีค่อนข้างเชื่อมั่นว่าการแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบกอ่นรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ระหว่าง เชลซี พบ ลิเวอร์พูล ชัยชนะนั้นจะตกเป็นของทางเจ้าถิ่นอีกครั้ง โดยที่ แล๊ดโบร๊กส์ เปิดราคาสกอร์เจ้าถิ่นชนะ 1-0 หรือ 1-1 จ่ายต่ำสุดที่ 11/2 (แทง 2 จ่าย 11 ไม่รวมทุน)

 

ส่วนสกอร์ที่ทีมของ ราฟาเอล เบนิเตซ จะบุกชนะ 1-0 จ่ายเท่ากับผล 0-0 ที่ 7/1 ตามมาด้วย สิงห์บลูส์ ชนะ 2-1 หรือ 2-0 จ่ายที่ 8/1 เท่ากัน ส่วนโอกาสที่ลิเวอร์พูลชนะ 2-1 หรือ 2-0 จ่ายที่ 10/1 และ 12/1 ตามลำดับ

                                                                 ดร็อกเต็งซัดเม็ดแรกร่วมตอร์
 

สำหรับเต็ง 1 ที่จะทำประตูแรกในเกมที่ เชลซี จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดที่ 2 วันอังคารนี้ ตกเป็นของ ดิดีเย่ร์ ดร็อกบา กองหน้าตัวเก่งทีมชาติไอวอรี่โคสต์ของเชลซี โดยแล๊ดโบร๊กส์เปิดราคาไว้ที่ 11/2 (แทง 2 จ่าย 11 ไม่รวมทุน) 


  อย่างไรก็ตามอัตราดังกล่าวยังเท่ากับความเป็นไปได้ที่ เฟร์นานโด ตอร์เรส จะซัดลูกแรกได้ในเกมดังกล่าวหลังอัตรารับแทงขยับจาก 6/1 เป็น 11/2 เท่ากันเรียบร้อยแล้วหลังฟอร์มร้อนแรงของ เอล นินโญ่ ในเกมลีกวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามมาด้วย นิโกล่าส์ อเนลก้า อยู่ที่ 6/1 และ 7/1 สำหรับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด กับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด

                                                            เปิด14/1ยั่วหงส์พลิกผ่านเข้ารอบ
 

ขณะเดียวกัน บรรดาร้านรับพนันอย่างถูกฏหมายของเมืองผู้ดีตั้งอัตราที่ ลิเวอร์พูล จะผ่านเข้ารอบสูงสุดไว้ถึง 14/1 (แทง 1 จ่าย 14 ไม่รวมทุน) ซึ่งเป็นราคาที่สูงทีเดียว เพราว่าโอกาสผ่านเข้ารอบต่อไปของลูกทีมของ ราฟาเอล เบนิเตซ ต้องบุกไปยิง เชลซี ให้ได้ถึง 3 ประตู เพื่อพลิกสถานการณ์กลับมาเข้ารอบรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้


  แม้ว่าลิเวอร์พูลอาจได้ตัว สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมคนเก่งฟิตกลับมา แต่บ่อนดังกล่าวไม่เชื่อน้ำยาลูกทีมของเบนิเตซ
 
  ทั้งนี้ ชัยชนะอย่างถล่มทลายที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ครั้งล่าสุดของ หงส์แดง เกิดขึ้นในปี 1989 ซึ่งพวกเขาชนะด้วยสกอร์ 5-2 โดยสกอร์ที่เป็นไปได้ว่า หงส์แดง จะเข้ารอบต่อไปเริ่มที่ยัน ยันต่อเวลา 3-1 จ่ายที่ 28/1 นอกจากนี้ล้วนจ่ายเกินกว่า 100 เท่าสำหรับสกอร์ที่ลิเวอร์พูลจะสร้างปาฏิหาริย์ชนะแบบถล่มทลาย

                                                             สถิติบอกชัดหงส์ห่วยบ้านสิงห์
 

ในส่วนของสถิติการพบกันที่ผ่านมาตลอดครั้งที่ 10 ในรอบ 5 ฤดูกาลของศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ วันอังคารนี้ ซึ่งจะเป็นคู่ที่พบกันมากที่สุดรองจาก บาเยิร์น-เรอัล มาดริด ที่พบกัน 10 ครั้ง ระบุชัดว่า หงส์แดง มักจะยิงประตูไม่ได้ในสนามแห่งนี้
 
ทีมของราฟาเอล เบนิเตซ ยิงไม่ได้ถึง 3 จาก 4 นัดในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ลงเล่นในลอนดอนกับคู่ปรับรายนี้ ยกเว้นเพียงเกมล่าสุดในฤดูกาลที่แล้วที่พวกเขายิงแพ้ 2-3 ในช่วงต่อเวลาพิเศษจาก เฟร์นานโด ตอร์เรส และไรอัน บาเบิล
 
ทั้งนี้หาก สิงห์บลูส์ ผ่านเข้ารอบต่อไปได้ จะเป็นการทำสถิติเทียบเท่ากับ ลิเวอร์พูล ในการเขี่ยพวกเขาตกรอบน็อกเอาท์ 2 ครั้งจากการประกบพบกัน 4 ฤดูกาล

http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/090414_015.html


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์