หงส์กำราบเวสต์แฮม2-1ซิสเซ่เหมาศึกพรีเมียร์ฯ

หงส์กำราบเวสต์แฮม2-1ซิสเซ่เหมาศึกพรีเมียร์ฯ

หงส์แดง ลิเวอร์พูล จัดการข่มขวัญ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ก่อนจะพบกันอีกครั้งในเกมเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ เมื่อยกพลบุกไปกำราบ ขุนค้อน ถึงถิ่นอัพตัน ปาร์ค 2-1 ฌิบริล ซิสเซ่ ซัดเบิกร่องให้หงส์แดงน.19 ก่อนที่ ไนเจล รีโอ โคเกอร์ จะตีเสมอน.46 ท้ายสุดเป็น ซิสเซ่ คนเดิมที่ซัดประตูชัยให้ เดอะ ค็อป น.54 ส่งให้ลิเวอร์พูล เก็บสามแต้มตามหลัง แมนฯยูฯ อันดับสองเหลือ 3 คะแนนแต่แข่งมากกว่า 1 นัด

ฟุตบอลพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ
(ฤดูกาล 2005-06)
วันพุธที่ 26 เมษายน 2549

เวสต์ แฮม 1 - ลิเวอร์พูล 2

สนาม: อัพตัน ปาร์ค
ผู้ทำประตู :0-1ฌิบริล ซิสเซ่ น.19, 1-1ไนเจล รีโอ โคเกอร์ น.46, 1-2 ฌิบริล ซิสเซ่ น.54
ใบเหลือง : -
ใบแดง :ซานซ์ หลุยส์ การ์เซีย(ลิเวอร์พูล) น.82, เฮย์เด้น มุลลินส์ (เวสต์ แฮม) น.82


ขุนค้อน เวสต์แฮม สามารถโค่น มิดเดิ้ลสโบรซ์ ลงได้อย่างสวยงาม จนผ่านเข้ามาชิงชนะเลิศ เอฟเอคัพ กับ ลิเวอร์พูล ได้สำเร็จ เกมนี้จึงเปรียบเสมือนการหยั่งเชิงกันเป็นยกแรก โดยเจ้าบ้านทำการพักคู่หน้าทั้ง มาร์ลอน แฮร์วู้ด กับ ดีน แอชตัน ไว้แล้วส่ง บ็อบบี้ ซาโมร่า กับ เท็ดดี้ เชอริงแฮม กองหน้าวัย 40 ปี ลงมาล่าตาข่าย

ขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูล ทำการพักผู้เล่นตัวจริงไว้ถึง 8 ราย เนื่องจากกรำศึกหลายรายการเหลือเกิน โดยไม่มีชื่อของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ส่วน ชาบี อลองโซ่,ซามี่ ฮูเปีย กับ ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ ล้วนเป็นแค่ตัวสำรองในเกมนี้ ทำให้ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ต้องยืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟร่วมกับ ฌีมี่ ตราโอเร่ แทน

ออกสตาร์ทครึ่งแรก หงส์แดง เดินหน้าบุกทันที มีโอกาสทักทายจากการยิงของ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ แต่ไม่ผ่านการป้องกันของ เจมส์ วอล์คเกอร์ นายทวารดาวรุ่งของเวสต์ แฮม ช่วง 15 นาทีแรก

กระนั้นก็ดีทีมเยือนมาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้ กองกลางเชิงรับ กระชากบอลจากกลางสนามขึ้นมาทางขวา ก่อนสไลด์บอลเข้ากลางมาให้กับ ฌิบริล ซิสเซ่ ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศส แตะบอลไว้หนึ่งจังหวะ ก่อนยิงเรียดจากระยะ 25 หลา เข้าเสียบเสาแรกช่วยให้ ลิเวอร์พูล ออกนำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 19

สองนาทีต่อมา เวสต์ แฮม เกือบจะตีเสมอได้ จากจังหวะที่ ยอสซี่ เบนนายูน ดาวเตะทีมชาติอิสราเอล วอลเลย์จากระยะ 12 หลา โดน เยอร์ซี่ย์ ดูเด็ค นายทวารทีมชาติโปแลนด์ของหงส์แดง เซฟไว้ได้

นาทีถัดมา เจ้าบ้านทำเสียวอีกครั้ง ไนเจล รีโอ โคเกอร์ เลี้ยงเข้าไปยิงด้วยขวาระยะ 25 หลา โดน เจมี่ คาร์ราเกอร์ กองหลังจอมแกร่ง ตามมาทิ้งตัวบล็อคไว้ได้อย้างหวุดหวิด

นาทีที่ 26 หงส์แดง น่าจะได้ประตูที่สอง เมื่อ ฌิบริล ซิสเซ่ ยิงไปแฉลบกองหลังมาเข้าทาง เฟร์นันโด้ มอริเอนเตส ยิงเข้าไปตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตู เนื่องจากล้ำหน้าไปก่อน

ผ่านมาครึ่งชั่วโมง ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ กดจากระยะ 18 หลา ด้วยเท้าขวาข้าสงไม่ถนัดบอลเลยหลุดออกไปทางเสาขวามือ

จากนั้น ทีมเยือนยังบุกต่ออย่างสนุกสนาน นาทีที่ 36 ฌิบริล ซิสเซ่ ยิงไกลบอลทำท่าจะเสียบเสาแรกอยู่แล้ว แต่ว่า เจมส์ วอล์คเกอร์ นายทวารเวสต์แฮม ล้มตัวเซฟไว้ได้

ท้ายครึ่งแรก นาทีที่ 40 บ็อบบี้ ซาโมร่า กองหน้าของเวสต์แฮม ได้ซัดจากระยะ 18 หลา แต่ไม่ผ่านการป้องกันของ เยอร์ซี่ย์ ดูเด็ค นายทวารหงส์แดง เซฟไว้ได้ จนกระทั่งครบ 45 นาที ลิเวอร์พูล บุกมานำก่อน 1-0

เข้าสู่ครึ่งหลังเจ้าบ้านเปลี่ยนเอา คาร์ล เฟล็ทเชอร์ ลงมาเล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟแทน เจมส์ คอลลินส์ แล้วสามารถบุกจนได้ประตูทันทีในนาทีที่ 46 จากจังหวะที่ ยอสซี่ เบนายูน ดาวเตะทีมชาติอิสราเอล ขึ้นบอลมาทางขวาแล้วผ่านให้กับ บ็อบบี้ ซาโมร่า แตะต่อให้กับ เท็ดดี้ เชอริงแฮม ไหลคืนให้ ซาโมร่า หลุดเข้าไปไม่ยอมยิงแต่ผ่านเข้ากลางให้กับ ไนเจล รีโอ-โคเกอร์ มิดฟิลด์ที่เติมขึ้นมายิงผ่าน เจอร์ซี่ ดูเด็ค เข้าประตูไปอย่างสวยงาม ช่วยให้ขุนค้อนตามมาเป็น 1-1 แล้ว

อย่างไรก็ตาม นาที 54 ลิเวอร์พูลมาได้ประตูขึ้นนำจนได้ จากจังหวะที่ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ดาวยิงตัวเก๋า จ่ายให้กับ ฌิบริล ซิสเซ่ ตะบันจากระยะ 12 หลา เข้าประตูไปช่วยให้ หงส์แดง ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 และเป็นประตูที่สองของ ฌิบ ในเกมนี้ด้วย

เกมยังบุกแลกกันสนุก แม็ทธิว เอเธอริงตัน ยิงไปโดน เจอร์ซี่ ดูเด็ค เซฟออกมา ก่อนที่ ซิสโซโก้ จะตามมาเคลียร์ออกมาได้ในนาทีที่ 67

นาทีที่ 82 ทั้งสองทีมต้องเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ หลุยส์ การ์เซีย มีเรื่องกับ เฮย์เด้น มุลลินส์ โดนใบแดงไล่ออกทั้งคู่

จากนั้นเวสต์แฮมน่าจะได้ประตูตีเสมอ เมื่อ ไนเจล รีโอ-โคเกอร์ ยิงเข้าไปแต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตู เกมช่วงที่เหลือทำอะไรกันไม่ได้ จบเกม 90 นาที ลิเวอร์พูล บุกมาชนะ 2-1 ข่มขวัญ เวสต์แฮม ก่อนเจอกันในเอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
เวสต์แฮม: เจมส์ วอลค์เกอร์ - ลีโอเนล สคาโลนี่,แอนตัน เฟอร์ดินานด์,เจมส์ คอลลินส์,เอลเลียต วอร์ด - ยอสซี่ เบนายูน,เฮย์เด้น มุลลินส์,ไนเจล รีโอ โคเกอร์,แม็ทธิว เอเธอร์ริงตัน - บ็อบบี้ ซาโมร่า,เท็ดดี้ เชอริงแฮม
สำรอง: ชาก้า ฮิสล็อป(ผู้รักษาประตู) - คาร์ล เฟล็ทเชอร์,มาร์ลอน แฮร์วู้ด,โฮแกน เอฟราอิม,ไคล์ รีด
ลิเวอร์พูล: เยอร์ซี่ย์ ดูเด็ค - สตีฟ ฟินแน่น,เจมี่ คาร์ราเกอร์,ฌีมี่ ตราโอเร่,แยน ครอมแคมป์ - ฌิบริล ซิสเซ่,ดีทมาร์ ฮามันน์,โมฮาเหม็ด ซิสโซโก้,สตีเฟ่น วอร์น็อค - ร็อบบี้ ฟาวเลอร์,เฟร์นันโด้ มอริเอนเตส
สำรอง: โฆเซ่ มานูเอล เรน่า(ผู้รักษาประตู) - ซามี่ ฮูเปีย,ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่,ซานซ์ หลุยส์ การ์เซีย,ซาบี้ อลอนโซ่
ผู้ตัดสิน: โฮเวิร์ด เว็บบ์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์