คนมันเก่ง!ขิงโขกหายพาหงส์ลิ่วน็อกเอาท์

ลูกโขกสุดสวยในครึ่งแรกของสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดกัปตันทีมคนเก่งกลายเป็นประตูโทนพา"หงส์แดง"ลิเวอร์พูลเชือดมาร์กเซย์ 1-0 ก่อนตบเท้าเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายเหลือลุ้นซิวแชมป์กลุ่มในนัดสุดท้ายต่อไป

ลิเวอร์พูล 1-0 มาร์กเซย์

ประตู :
1-0 เจอร์ราร์ด น.23

ผู้ตัดสิน : โอเลการิโอ เบนเกเรนก้า

แม้ต้องการแค่แต้มเดียวเพื่อคว้าตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายแต่ราฟาเอล เบนิเตซยังจัดทัพใหญ่ชุดสมบูรณ์ที่สุดเพราะกว่าจะได้เล่นในพรีเมียร์ลีกก็วันจันทร์นู่นเลยโดยเฟร์นานโด ตอร์เรสยืนหอกเดี่ยวและมีสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดยืนห้อยเป็นหน้าต่อส่วนมิดฟิลด์หน้าเซนเตอร์เป็นตัวรับทั้งอลอนโซ่และมาสเคราโน่เช่นเดิม

ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายครองเกมตามเชิงแต่การผ่านบอลในจังหวะ third area ทำเสียเองในขณะที่มาร์กเซย์มารับรอสวนเห็นได้ชัดเจนเพราะต้องการชนะอย่างเดียวห้ามเสมอห้ามแพ้

นาทีที่ 7 ความขยันของเคาท์เกือบทำให้เจ้าถิ่นได้ประตูเมื่อวิ่งไปบล็อกลูกที่กองหลังโอแอ็มจะสาดยาวก่อนกระชากไปตบบอลตรงริมกรอบเขตโทษฝั่งขวามาที่จุดนัดพบ 6 หลาให้ตอร์เรสที่วิ่งทำทางไปแล้วแต่บอนนาร์ตยืนตำแหน่งดีหวดทิ้งทัน

ผ่านมา 15 นาที"หงส์แดง"ยังครองเกมเป็นฝ่ายเข้าทำอยู่เช่นเดิมแต่มาร์กเซย์มีตัวอันตรายอย่างเบน อาร์กฟาร์คอยป่วนทางปีกซ้ายทำให้อาร์เบลัวเติมเกมรุกไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่

อีก 4 นาทีต่อมาความขยันของเคาท์ไปแย่งไทโวอีกแล้วทำให้เจอร์ราร์ดวิ่งมาฉกลากเข้ากรอบโทษฝั่งขวาแล้วตบหมายจะให้ตอร์เรสแต่ไทโวซึ่งเสียแล้วไล่มาตัดก่อนเคลียร์ทิ้ง

"หงส์แดง"เริ่มโหมบุกหนักนาที 22 ตอร์เรสได้ทะลุมาทางปีกขวาก่อนสับหลอกไทโวจนหน้ามืดแล้วกระชากไปถึงเส้นหลังแต่จังหวะตบบอลให้เคาท์ทิ้งตัวโหม่งติดเซฟมองดองด้าก่อนที่กองหลังจะมาเคลียร์ทิ้งออกหลังเพราะริเอร่าวิ่งปรี่มาจะซ้ำ

จังหวะเตะมุมนี้เองที่ทำให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำเมื่อบอลถูกเคลียร์ทิ้งออกมาก่อนที่อาร์เบลัวจะเก็บตกแล้วแทงออกปีกขวาซึ่งไม่มีใครประกบเพราะไทโวขยับเข้าในมาตามอาร์เบลัวทำให้อลอนโซ่ได้เปิดจากริมเส้นบอลโค้งน่ากลัวมาเข้าหัวเจอร์ราร์ดที่แล่บมาโขกเสาสองระยะ 7-8 หลาด้านหลังริเอร่าที่กระโดดแย่งไม่ถึงหลาบอลเฉียดเสาเสียบตาข่ายเข้าไปไม่มีเหลือ

ได้เร็วก็เล่นสบายแล้วสำหรับลิเวอร์พูลเพราะสามารถดึงช้าตามถนัดและเท่ากับเป็นการล่อให้มาร์กเซย์มากินเหยื่อไปในตัวด้วย

นาที 26 มาร์กเซย์ได้ฟรีคิกไกล 35 หลาเป็นไตโววิ่งตะบันด้วยอีซ้ายหลังเพื่อนไหลมาให้บอลพุ่งเลียดถูกปลายมือเรน่านิดนึงก่อนชนโคนเสาเกือบตีเสมออย่างไม่น่าเชื่อจากนั้นจังหวะเตะมุมเรน่ากระโดดตัดไม่ถึงเลยถูกซูบาร์โขกที่เสาสองแต่โชคดีบอลมันตกเร็วเลยโขกออกหลังไปเอง

เข้าสู่ช่วงท้ายมาร์กเซย์โหมบุกหนักจนเจ้าถิ่นต้องภอยลงไปตั้งรับกันมากขึ้นแต่ช่วงทดเจ็บเป็นลิเวอ์พูลได้นวดหน้าประตูจนเกือบยิงได้หลังแอกเกอร์กระชากเลยครึ่งสนามขึ้นมาแล้วแทงให้ริเอร่าที่ยืนอยู่หน้ากรอบโทษก่อนพลิกแล้วยิงด้วยอีขวาข้างไม่ถนัดบอลเลียดพุ่งหาเสาแรกแต่มองดองด้าาล้มตัวปัดออกหลัง จากกรรมการเป่านกหวีดหมดครึ่งแรกลิเวอร์พูลนำอยู่ 1-0

ครึ่งหลังเริ่มมาไม่นานลิเวอร์พูลทำฟาว์ลตรงปีกซ้ายเป็นทีมเยือนได้เปิดเข้ามาก่อนที่ไทโวจะกระโดดโขกเน้นๆแต่บอลหลุดออกหลังห่างเสาออกไป 2 หลาแอบเสียว

นาที 56จังหวะสวนกลับของมาร์กเซย์ได้เสียวเมื่อเนียงวิ่งเอาบอลจากที่เพื่อนแทงทะลุมาให้แต่จังหวะพลิกหนีคาร์ราเกอร์ดันส่องบอลนอกกรอบแป๊กเลยเข้าซองเรน่าสบายๆ

อีก 5 นาทีริเอร่าวิ่งควบบอลที่กำลังไหลออกเส้นหลังก่อนเปิดยัดเข้าในแบบกึ่งยิงกึ่งผ่านแต่มองดองด้ายืนรอปิดมุมพุ่งประสานมือปัดออกไป

แต่อีกไม่นานดอสเซน่าตัวสำรองมาแทนออเรลิโอ่ยังไม่ได้ฉายแววแข้งมีอนาคตให้เห็นหลังถูกเบนอาร์กฟากระชากหายตรงกรอบโทษฝั่งขวาหลุดมาตบบอลจากเส้นหลังยังดีที่ไม่มีใครเข้าชาร์จ

นาที 68 ดอสเซน่าทำฟาว์ลเนียงก่อนเข้าเขตโทษเลยถูกจับฟาว์ลและลูกฟรีคิกอันตรายตรงริมกรอบโทษฝั่งขวาเป็นเบน อาร์กฟาวิ่งมาปั่นบอลพุ่งสุดแรงแต่เรน่าบินปัดปลายมือหลุดข้างเสานิดเดียว

ตอนนี้มาร์กเซย์ได้บอลขึงเกม"หงส์แดง"บ่อยมากเพราะต้องยิงคืนให้ได้เร็วสถานเดียวไม่งั้นตกรอบ

ลูกเซ็ตพีซริมเส้นของมาร์กเซย์สร้างปัญหาให้ลิเวอร์พูลได้อีกแล้วโดยในนาที วัลบูเอน่าเปิดบอลให้ เขกแย่งเหนือคนื่อนบอลเด้งลงพื้นออกหลังไปแบบได้เสียว

ก่อนหมดเวลา 7 นาทีเกมมาเดือดเกือบมีมวยหมู่หลังเจ้าถิ่นกำลังเคาะบอลตรงกลางสนามหนีการเข้าบีบเร็วของมาร์กเซย์ 2-3 ต่อได้สวยแต่มาสเคราโน่ดันลื่นทำให้เจอวัลบูเอน่าฉกไปก่อนเจอบังเลยฉุนเสียบจากด้านหลังแถมหนีบขาอีกต่างทำให้แข้งทีมเยือนไม่เข้าใจโดยเฉพาะเนียงจะเอาเรื่องส่วนอาร์เบลัวก็ไม่พอใจวิ่งมาแบบฟิวล์ขาดจนเพื่อนต้องห้ามกันพัลวัน สุดท้ายมาสเคถูกใบเหลืองรวมทั้งเนียงด้วย

จากนั้นช่วงเวลาที่เหลือ"หงส์แดง"ปิดเกมและช่วยต้านการโหมบุกเฮือกสุดท้ายของมาร์กเซย์ได้จบเกมชนะ 1-0 ตบเท้าเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายพร้อมๆกับแอต.มาดริดเหลือลุ้นนัดสุดท้ายว่าจะได้แชมป์กลุ่มหรือไม่เท่านั้น

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล :
โฆเซ่ เรน่า 6.5,อาร์บาโร่ อาร์เบลัว 6,เจมี่ คาร์ราเกอร์ 7*,ดาเนี่ยล แอกเกอร์ 6,ฟาบิโอ ออเลริโอ 6(ดอสเซนน่า น.46,5),ชาบี้ อลอนโซ่ 6.5,ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ 6.5,อัลเบิร์ต ริเอร่า 6(เบนายูน น.64,6),เดิร์ก เคาท์ 6(ไลว่า น.85),สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด 7,เฟร์นานโด ตอร์เรส 6

ใบเหลือง : มาสเคราโน่ น.84

มาร์กเซย์: สตีฟ มองดองด้า 6, โลร็องต์ บงนาร์ 6(มามาดู ซามาสซ่า น.89) , โรนัลด์ ซูบาร์, วิโตริโน ฮิลตัน 7, ตาเย่ ตาอิโว่ 6, ลอริค กานา, คาริม ซิยานี่ 7, เบอนัวต์ เชย์รู 5, บาการี่ โกเน่ 6(มาติเยอ วัลบูเอน่า น.78,6) , ฮาร์เต็ม เบน อาร์กฟา 6.5, มามาดู เนียง 6

ใบเหลือง : เนียง






































เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์