หงส์ถอนแค้นผี 1-0 ลิ่วก่อนรองฯ เอฟเอ คัพ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 18 กุมภาพันธ์ 2549 21:37 น.

หงส์แดง ลิเวอร์พูล จัดการถอนแค้น ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้สำเร็จ เมื่อเฉือนชนะไปอย่างหวุดหวิด 1-0 จากประตูชัยของ ปีเตอร์ เคร้าช์ ส่งผลให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศในศึก เอฟเอ คัพ เรียบร้อยแล้ว

ศึก เอฟเอ คัพ รอบ 5
ลิเวอร์พูล 1 - 0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

เจ้าถิ่น หงส์แดง ลิเวอร์พูล ได้ ปีเตอร์ เคร้าช์ กองหน้าก้านยาวหายเจ็บกลับมาลงสนามเช่นเดียวกับ โฮเซ่ เรเน่า นายด่านที่พ้นโทษแบน แต่ก็ต้องขาด ซาบี้ อลอนโซ่ กองกลางเชิงสูงที่มีอาการบาดเจ็บ ฝั่งทีมเยือน ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชคร้าย ริโอ เฟอร์ดินานด์ กองหลังคนสำคัญมีอาการบาดเจ็บตอนอบอุ่นร่างกาย

ช่วง 15 นาทีแรกเกมยังก้ำกึ่งสูสีแต่ว่าเป็นทางฝั่ง แมนฯยูไนเต็ด ที่มีลุ้นประตูจากการยิงไกลทางกรอบเขตโทษด้านซ้ายของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่ว่า โฮเซ่ เรน่า ดักทางรับเอาไว้ได้ ส่วน ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นจากลูกเตะมุมสองสามครั้งแต่ยังหาโอกาสซัดประตูแบบจะแจ้งไม่ได้

ลิเวอร์พูล ครองบอลกดดัน แมนฯยู ได้มากกว่าและมีโอกาสลุ้นจากลูกฟรีคิกทางกราบซ้าย สตีเว่น เจอร์ราร์ด เปิดเข้ากลาง แฮร์รี่ คีเวลล์ สะบัดโหม่งไม่มีคนประกบแต่ว่า เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ปัดออกไปได้ และจากลูกเตะมุมทางฝั่งขวาแผงหลัง ผีแดง พลาดปล่อยให้ ปีเตอร์ เคร้าช์ โหม่งโล่งๆ ฟาน เดอร์ ซาร์ ปัดชนเสาเข้าไป ลิเวอร์พูล นำ 1-0 ในนาทีที่ 19



จังหวะโหม่งประตูของ เคร้าช์ (ที่ 3 จากขวา)


เกมผ่านพ้นไปครึ่งชั่วโมงเป็น ลิเวอร์พูล ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ส่วน แมนฯยูไนเต็ด ยังไร้จินตนาการในการเจาะเข้าไปเพื่อลุ้นประตูตีเสมอ จากนั้นนาทีที่ 33 ไรอัน กิ๊กส์ โดนใบเหลืองเมื่อไปเสียบ คีเวลล์ จากทางด้านหลัง

ช่วงท้ายครึ่งแรกเกมอยู่บริเวณกลางสนามเสียเป็นส่วนใหญ่ทดเวลาบาดเจ็บออกไป 3 นาทีก่อนที่กรรมการจะเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขันในครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำ แมนฯยูไนเต็ด อยู่เบาะๆ 1-0

แมนฯยูไนเต็ด มีการเปลี่ยนตัวก่อนออกสตาร์ทครึ่งหลังโดยส่ง หลุยส์ ซาฮา กองหน้าชาว ฝรั่งเศส ลงมาแทนที่ มิคาเอล ซิสแวสต์ และจะถอย คีแรน ริชาร์ดสัน ลงไปรับบทแบ๊กฝั่งซ้าย จากนั้นนาทีที่ 48 ดีทมาร์ ฮามันน์ ไปเสียบ ซาฮา อย่างน่าเกลียดเลยโดนใบเหลืองไปตามระเบียบ

แผงหลังของ แมนฯยู ยังป้อแป้นาที 50 ก็เกือบเสียประตูที่สองเมื่อ เนมานย่า วิดิช จะบังบอลให้ ฟาน เดอร์ ซาร์ แต่ว่าถูก เคร้าช์ ที่ตามมาด้านหลังแหย่เท้ายิงบอลผ่านมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ ไปแล้วแต่โชคดีที่ไม่ตรงกรอบ เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 53 ซามี่ ฮูเปีย ก็ต้องสังเวยใบเหลืองไปอีกหนึ่งราย

นาทีที่ 62 เจมี่ คาร์ราเกอร์ โดนใบเหลืองบ้างเมื่อไปตัดฟาวล์ หลุยส์ ซาฮา ที่กลางสนาม จากนั้น ลิเวอร์พูล มีการเปลี่ยนตัวถอด เฟร์นานโด มอริเอนเตส ออกและส่ง หลุยส์ การ์เซีย ลงมาแทน เกมยังไม่มีจังหวะตื่นเต้นแต่นาทีที่ 69 เคร้าช์ เหนือคิ้วซ้ายแตกจากการขึ้นโหม่งชนกับ เวส บราวน์

นาทีที่ 74 แกรี่ เนวิลล์ โดนใบเหลืองเมื่อไปอัด คีเวลล์ จากนั้น 2 นาที หลุยส์ การ์เซีย อาศัยความพลิ้วเกือบจะหลุดเข้าเขตโทษแต่ว่า วิดิช ดึงเอาไว้ทำให้โดนใบเหลืองไปอีกหนึ่งคน แมนฯยู เปลี่ยนตัวอีกคนส่ง อลัน สมิธ มาแทน เฟลตเชอร์ ที่เล่นไม่ออกเลยในเกมนี้

ครึ่งหลังทั้งสองทีมตัดเกมกันบ่อยครั้งทำให้ใบเหลืองปลิวว่อนมาถึงนาทีที่ 79 คีเวลล์ ก็ต้องโดนใบเหลืองอีกหนึ่งรายเมื่อไปตัดเกม แกรี่ เนวิลล์ ที่แตะบอลไปแล้ว ช่วง 10 นาทีสุดท้าย แมนฯยู มีลุ้นอีกครั้งเมื่อ รุด ฟาน นิสเตลรอย ยิงบอลไปติดผู้เล่น ลิเวอร์พูล ก่อนเด้งมาเข้าเท้าขวา ไรอัน กิ๊กส์ ที่ตะบันสวนกลับไปแต่ก็ข้ามคาน

ช่วงท้ายเกม ลิเวอร์พูล เปลี่ยนตัวส่ง แยน ครอมแค้มป์ และ ฌิบริล ซิสเซ่ ลงมา จากนั้นนาทีที่ 89 อลัน สมิธ โชคร้ายพุ่งเหยียดขาขวางลูกยิงของ รีเซ่ และดูเหมือนว่าข้อเท้าซ้ายจะหักเนื่องจากน้ำหนักตัวทับลงมาอย่างน่ากลัว ทำให้ต้องส่ง ปาร์ค จี ซอง ลงมาเล่นแทน

จากจังหวะเจ็บของ สมิธ ทำให้ต้องทดเวลาบาดเจ็บออกไป 7 นาทีแต่ว่า ลิเวอร์พูล ก็เฉือนชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปได้ 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศต่อไป พร้อมกับเป็นการชนะ แมนฯยู ในศึก เอฟเอ คัพ ครั้งแรกในรอบ 85 ปี

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล - โฮเซ่ เรน่า, เจมี่ คาร์ราเกอร์, สตีฟ ฟินแนน, ซามี่ ฮูเปีย, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ดีทมาร์ ฮามันน์, แฮร์รี่ คีเวลล์, ยอห์น อาร์เน รีเซ่ โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้, ปีเตอร์ เคร้าช์, เฟร์นานโด มอริเอนเตส
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, เวส บราวน์, แกรี่ เนวิลล์, มิคาเอล ซิสแวสต์, เนมานย่า วิดิช, ดาร์เรน เฟลตเชอร์, ไรอัน กิ๊กส์, คีแรน ริชาร์ดสัน, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนี่ย์, รุด ฟาน นิสเตลรอย