รอบชิงมวยถูกคู่และ 4 ตำแหน่งที่ราฟาควรปฏิวัติ

รอบชิงมวยถูกคู่และ 4 ตำแหน่งที่ราฟาควรปฏิวัติ


คุณเคยมีความรู้สึกน้อยใจในเรื่องที่ปกติแล้วคุณแทบจะไม่รู้สึกอะไรเลยไหมครับ? คงต้องมีแน่หากคนที่ว่านั้นเป็นคนที่คุณแคร์อย่างเช่นแฟนหรือไม่ก็พ่อแม่หรือคนที่สนิทมากๆ

ผมว่าตัวผมเองก็เข้าข่ายที่ว่านั้นด้วยในยามที่ต้องเชียร์ทีมลิเวอร์พูล...

จะว่าผมใจเสาะ,ทรยศหรือแล้วแต่สรรหาคำมาด่าได้ตามสบายแต่ก่อนเกมรอบรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกกับเชลซีผมให้โอกาสเข้ารอบของลูกทีมราฟาเอล เบนิเตซไว้แค่ 30% ด้วยเหตุผลที่ว่าหงส์แดงแทบไม่ชนะเลยยามเจอบิ๊กโฟว์นอกบ้าน(แต่ก็จะเชียร์ขาดใจทุกจังหวะ)

ที่สำคัญลิเวอร์พูลมาในสภาพเสียเปรียบจากผลเสมอในแอนฟิลด์ด้วยสกอร์ 1-1 หรือติดอเวย์โกล์มาด้วยทำให้แท็คติกส์ที่ราฟาเอล เบนิเตซถนัดที่สุดคือรอสวนหรือเสมอ 0-0 อย่างในอดีตมันใช้ไม่ได้กับเกมนี้

ผมคงไม่โทษเรื่องการจัดทีมหรือเปลี่ยนตัวของเบนิเตซเพราะผมมองว่ายังไงก็ไม่เกี่ยวกับการตกรอบครั้งนี้ แค่ไรอัน บาเบิ้ลยิงตีไล่มาเป็น 3-2 ก็ไม่ได้หมายความว่าหากอยู่ในสนามช่วงเวลาปกติจะช่วยลิเวอร์พูลได้ดีไปกว่ายอสซี่ เบนายูน

อย่างไรก็ดีรูปเกมช่วงต้นกลายเป็นเชลซีที่ไม่จำเป็นต้องรีบอะไรกลับบุกพับสนามลิเวอร์พูลเกือบวันเวย์และอย่างที่ผมบอกไว้ตั้งแต่ก่อนแข่งคือเฟอร์นานโด ตอร์เรสแทบกระดิกไปไหนไม่ได้เลยเมื่อถูกริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่และจอห์น เทอร์รี่สลับกันตามประกบเป็นเงา

ในเกมที่ลิเวอร์พูลต้องการประตูและฝากความหวังไว้กับเกมรุกแต่เป็นเชลซีที่อาวุธน่ากลัวกว่าเยอะ เอาแค่ดร็อกบาคนเดียวก็ดึงมาถึง 2-3 คนในขณะที่โจ โคล,ซาโลมอน คาลู,มิชาเอล บัลลัคและแฟร็งค์ แลมพาร์ดสามารถฝากบอลเพื่อสร้างสรรค์เกมได้เรื่อยๆ

แต่ลูกทีมเบนิเตซยังไม่ทันได้ทำอะไรก็จ่ายบอลง่ายๆเสียกันเองซะแล้ว ถ้าตอร์เรสหรือเจอร์ราร์ดเป็นง่อยวันนั้นก็จบเห่ ครั้นจะหวังพึ่งปีกทั้งสองข้างส่งไปเดี๋ยวก็คืนหลังกลับมา นี่คือความแตกต่างครับ

บทสรุปในซีซั่นนี้จะเห็นได้ว่าลิเวอร์พูลยังมีขุมกำลังรายตัวสู้ทีมจากบิ๊กโฟว์ไม่ได้จริงๆครับ ดูกันดีๆทั้งอาร์เซนอล,แมนฯยูไนเต็ดและเชลซีมีตัวที่สามารถพึ่งพา+ทำอะไรได้ด้วยตัวเองเยอะกว่ามาก เอาง่ายๆแค่แบ็คสองข้างของบิ๊กทรีก็ช่วยเกมรุกและแน่นในเกมรับกว่าเห็นๆ

หรือในส่วนของมิดฟิลด์ตัวรับก็ยังมีส่วนร่วมกับเกมรุกรวมทั้งมีศักยภาพในการทำประตูในแต่ละนัดในขณะที่ตัวริมเส้นนี่ไม่ต้องพูดถึงนะครับขึ้นชื่อว่าปีกคุณสมบัติแรกคือความพลิ้วและกระชากบอลด้วยความสามารถเฉพาะตัว

แต่ตำแหน่งที่ผมพูดมาทั้งหมดหงส์แดงสู้ไม่ได้เลยนะครับ ถ้าเจอกับทีมเล็กๆยังไงก็ไม่น่ามีปัญหาแต่ถ้าในเคสที่ต้องเจอกับทีมใหญ่และทันกันรายละเอียดเล็กๆพวกนี้จะมีความสำคัญต่อรูปเกมเอามากๆ

จะว่าหาแพะก็พูดกันไปครับแต่หลักฐานเห็นๆอยู่ว่ายอห์น อาร์เน่ ริเซ่ฝีเท้าและกึ๋นน้อยเกินไปที่จะเล่นให้ลิเวอร์พูลและน่าจะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของเขาในถิ่นแอนฟิลด์ได้แล้ว

ผมย้ำอีกครั้งว่าไม่เคยปลื้มหรือชอบการเล่นของริเซ่มาแต่ไหนแต่ไรแล้วเพราะเป็นคนที่ใช้แรงงานมากกว่าสมอง ประตูที่ดร็อกบายิงยัดมุมแคบ 1-0 ตีนผีน่าจะเคลื่อนตัวเข้าหาบอลได้เร็วกว่าย่างสามขุมในเขตโทษซึ่งภาพที่ออกมาไม่ใช่สัญชาตญาณของกองหลังแม้แต่นิดเดียว

เมื่อรวมกับการเช็กล้ำหน้าพลาดจนเสียลูก 3-1 ให้ดร็อกบาคนเดิมริเซ่มีส่วนเกี่ยวข้องถึง 3 ใน 4 ลูกตลอดทั้งสองเลกเลยนะครับ เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่ายังจะคุณไม่มีวันเดินเดียวดายแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆหรือเปล่าครับ?

ฟุตบอลเล่นเป็นทีมก็จริงครับแต่ถ้ามีตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งอ่อนเกินไปมันทำให้คุณแพ้ได้ง่ายๆโดยที่ยังไม่ทันทำอะไรเลยด้วยซ้ำ

ผมว่าซัมเมอร์นี้น่าจะเป็นนิมิตรหมายอันดีที่ดูโอมะกันและริค แพร์รี่จะต้องให้การสนับสนุนราฟาซื้อนักเตะใหม่ให้ตรงตามเป้าหมายมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

ถ้ายังยึดใช้มิดฟิลด์ตัวรับคู่หน้าเซนเตอร์ในฤดูกาลหน้าต่อราฟาคิดถูกแล้วล่ะครับที่มีแผนดึงแกเรธ แบร์รี่มาเสริมทัพเพราะผมมองว่าทั้งฮาเวียร์ มาสเคราโน่และชาบี้ อลอนโซ่เล่นคล้ายกันเกินไปทำให้ลิเวอร์พูลเหมือนเสียเปรียบในเรื่องของความหลากหลายในการใช้ประโยชน์ผู้เล่น

แบร์รี่รับบทตัดเกมเล่นรับได้ตามใบสั่งแต่ mentality เป็นพวกรักในเกมรุกอยู่เป็นทุนเดิมตั้งแต่สมัยเล่นแบ็คซ้าย ตรงนี้แหละครับที่ผมมองว่าทีมจะได้ไม่ต้องพึ่งพาเจอร์ราร์ดกับตอร์เรสอยู่ตลอดไปและจะมีผู้เล่นทูอินวันที่ราฟาสามารถเลือกสั่งได้ตามที่ต้องการ

ในส่วนของประเด็นที่เดอะค็อปพูดถึงมากที่สุดในซีซั่นนี้คือรายของเดิร์ก เคาท์ซึ่งราฟาให้ยืนปักหลักเป็นปีกขวาถาวรทั้งๆที่สร้างประโยชน์สูงสุดจากตำแหน่งนั้นน้อยเอามากๆ

ผมไม่เถียงว่าเคาท์เป็นคนยิงประตูให้ทีมนำเชลซี 1-0 ในเลกแรกแต่ก็ปฏิเสธไม่ลงเช่นกันว่าอดีตหอกเฟเยนอร์ดผู้นี้ทำลายความสมดุลภายในทีมจากการขึ้นบอลทางกราบขวาอย่างสิ้นเชิง

นอกจากไม่เวิร์คเพราะไร้สปีดแล้วแกยังมีปัญหาใหญ่ที่คงไม่แปลกนักหากเกิดขึ้นกับนักเตะสมัครเล่นนั่นคือการจับบอลแรกที่กระเด้งกระดอนซึ่งมองง่ายคือเคาท์ยังเอาตัวเองไม่รอดเลยแล้วแบบนี้จะทำอะไรเพื่อทีมล่ะครับ?

ถ้าเบนิเตซติดใจตรงความขยันวิ่งไม่มีหยุดมันก็ต้องอย่าลืมด้วยว่าหน้าที่ของปีกคือสร้างสรรค์เกมถ้าจะอ่อนเกมรับไปบ้างผมว่าไม่ใช่ประเด็นใหญ่อะไรเลยแต่พูดก็พูดนะครับราฟาไม่เห็นต้องเสียเวลามาเครียดอะไรกับเรื่องนี้เพราะปกติแบ็คโฟว์ก็ยืนแน่นอยู่แล้วแถมยังมีมิดฟิลด์ตัวรับยืนขวางอีกชั้นนึง+เจอร์ราร์ดก็ช่วยไล่อยู่แล้ว

มันจะดีกว่าไหมถ้าให้ปีกสองข้างและตอร์เรสเป็นพวกรุกจ๋าเน้นๆไปเลยไม่ใช่ว่านอกบ้านทีไรเอลนินโญ่ใบ้กินทุกทีเพราะต้องรับภาระหนักอยู่คนเดียว

สังเกตกันเถอะครับแม้หงส์แดงจะแพ้ยากยามเล่นในแอนฟิลด์แต่ในขณะเดียวกันเมื่อถึงเวลาบิ๊กทรีมาเยือนที่นี่ทรงบอลจะขี่กันหรือพูดง่ายๆคือสู้กันได้

แต่ทุกครั้งที่ลิเวอร์พูลต้องเป็นฝ่ายออกไปเยือนบ้างรูปเกมเป็นรองค่อนข้างชัดเจนและตั้งรับจนสะบักสะบอม นี่ผมพูดถึงที่ผ่านๆมาไม่ใช่เฉพาะที่สแตมฟอร์ด บริดจ์เมื่อคืนวันพุธเท่านั้นนะครับ

ผมจึงเชื่อว่าเบนิเตซมีจุดอ่อนที่ต้องแก้ไขอย่างน้อยๆ 4-5 ตำแหน่ง แอเรียแรกเลยคือปีกขวาตามมาด้วยแบ็คขวา,แบ็คซ้ายและมิดฟิลด์ตัวรับ(หนึ่งคน)โดยที่สำคัญนักเตะควรใช้เซ้นส์ในสนามให้มากกว่านี้เพราะนี่เป็นสิ่งหนึ่งที่โค้ชไม่สามารถสอนกันได้

สำหรับเชลซีการเอาชนะลิเวอร์พูลในเลกสองต้องถือว่าสมศักดิ์ศรีและสมควรให้ตั๋วไปมอสโกว์โดยไร้มลฑินเพราะถ้าไม่นับฟอร์มการเล่นที่เพอร์เฟคแล้วยังมีประเด็นแรงจูงใจอีกหลายต่อหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการทำลายสถิติเข้าชิงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์,การอุทิศเพื่อแม่ของแฟร็งค์ แลมพาร์ดหรือความกระสันอยากล้างแค้นหงส์แดงที่ทำลายฝันพวกเขาในรอบนี้ถึงสองครั้งสองครา

เชื่อว่าถ้าเลือกได้เร้ดอาร์มี่คงอยากเจอลิเวอร์พูลซึ่งทางบอลขี่กันมากกว่าเชลซีที่คุณภาพและฟอร์มช่วงนี้ต้องบอกว่าเป็นมวยถูกคู่กว่าจริงๆ

แต่สำหรับหงส์แดงผมยังเชื่อว่าหากผ่าตัดในซัมเมอร์นี้ถูกจุด+ปรับทัศนคติในลีกของราฟาอีกเล็กน้อยโอกาสลุ้นแชมป์พรีเมียร์ไม่น่าจะจบเห่ตั้งแต่ไก่โห่เหมือน 3-4 ซีซั่นที่ผ่านมาแน่นอนครับ...





ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: lentee

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์