หงส์เจ๊าเข้าที่ 1,มิลานควงพีเอสวีลิ่ว,เรนเจอร์สฉลุย 16 ทีมชปล.

หงส์เจ๊าเข้าที่ 1,มิลานควงพีเอสวีลิ่ว,เรนเจอร์สฉลุย 16 ทีมชปล.

ซิสโซโก้ พุ่งอัด กุ๊ดยอห์นเซ่น ทางด้านหลัง

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 ธันวาคม 2548 04:47 น.

หงส์แดง ลิเวอร์พูล เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฐานะจ่าฝูงของกลุ่มหลังบุกไปเจ๊า เชลซี 0-0 ส่วนอีกกลุ่ม ปีศาจแดงดำ เอซี มิลาน เฉือน ชาลเก้ 3-2 จึงควง พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ลิ่วรอบต่อไป ด้าน กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ตีเจ๊า งูใหญ่ อินเตอร์ มิลาน กอดคอฉลุยเช่นเดียวกัน

เชลซี 0 - 0 ลิเวอร์พูล

ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย กลุ่ม จี เมื่อวันอังคารที่ 6 ธ.ค. สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี เปิดรัง สแตมฟอร์ดบริดจ์ ทำศึกสายเลือดกับ หงส์แดง ลิเวอร์พูล โดยทั้งสองทีมเข้ารอบน็อกเอาท์แน่นอนแล้ว แต่เกมนี้ทีมใดชนะจะเข้ารอบในฐานะจ่าฝูงของกลุ่มทันที

โอกาสแรกในเกมนี้เป็นของเจ้าถิ่น เชลซี ในนาทีที่ 7 เมื่อ โฮเซ่ เรน่า เตะเปิดบอลไม่ดีไปเข้าทาง เดเมี่ยน ดัฟฟ์ ที่จ่ายให้ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา แตะคืนหลังให้กับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ตะบันด้วยเท้าขวาบอลพุ่งตรงกรอบแต่ว่า เรน่า ยังแก้ตัวทุบออกไปได้

ผ่านไป 20 กว่านาทีจังหวะได้เสียวของทั้งสองทีมยังน้อยมากโดยครองบอลเท่ากันที่ 50-50 เปอร์เซนต์ แต่ว่าเกมต้องหยุดชะงักเนื่องจาก มิคาเอล เอสเซียง ไปจงใจยันใส่ ดีทมาร์ ฮามันน์ ที่หน้าแข้งอย่างน่าเกลียดแต่ว่ากรรมการกลับมองไม่เห็นกองกลางของ เชลซี จึงรอดตัวไปอย่างหวุดหวิด

เกมส่วนใหญ่ชิงจังหวะกันอยู่บริเวณกลางสนามโดยเป็น ลิเวอร์พูล ทีมเยือนที่เริ่มทำได้ดีกว่า เชลซี อย่างเห็นได้ชัดและมีลุ้นประตูขึ้นนำอีกครั้งเมื่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด จ่ายให้กับ ยอห์น อาร์เน รีเซ่ ซัดด้วยซ้ายอย่างรู้ใจแต่ว่าบอลไปตรงตัว ปีเตอร์ เช็ก ที่เซฟเอาไว้ได้

ในช่วงท้ายครึ่งแรกเป็นฝั่ง เชลซี ที่ครองบอลได้มากกว่าแต่ว่ายังเจาะแนวรับของ ลิเวอร์พูล ไม่เข้าเห็นจะมีลุ้นก็แต่การยิงไกลของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด แต่ก็ไม่ผ่านมือ เรน่า ครบ 45 นาทีแรก เชลซี จึงเสมอกับ ลิเวอร์พูล อย่างน่าอึดอัด 0-0

ก่อนเปิดฉากครึ่งหลัง เชลซี มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นโดยส่งแบ๊กซ้ายตัวจริง อาซิเอร์ เดล ออร์โน่ ลงมาเล่นแทน เปาโล แฟร์ไรร่า และโยก กัลล่าส์ ไปเล่นแบ๊กขวา

เชลซี ดูจะแก้เกมได้ดีกว่าเมื่อลงมาครองบอลกดดัน ลิเวอร์พูล ได้มากกว่าและก็มีลุ้นในนาทีที่ 49 จากการเปิดบอลทางกราบขวามาถึงฝั่งซ้าย ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา พักอกให้กับ อาร์เยน ร็อบเบน วิ่งมาเอี้ยวตัวยิงด้วยซ้ายแต่ว่าบอลไซด์ก้อยเลี้ยวหนีปากประตูออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 60 ลิเวอร์พูล มีการเปลี่ยนตัวหลังจากเกมริมเส้นขึ้นไม่ได้โดยส่ง แฮร์รี่ คีเวลล์ ลงมาแทน รีเซ่ ทางฝั่งซ้าย อีก 8 นาทีถัดมา ลิเวอร์พูล เปลี่ยนตัวอีกส่ง เฟร์นานโด มอริเอนเตส ลงมาแทน ปีเตอร์ เคร้าช์ เกมยังก้ำกึ่งสูสีนาทีที่ 73 เชลซี เปลี่ยนตัวถอด ร็อบเบน และ เดเมี่ยน ดัฟฟ์ ออกโดยส่ง คาร์ลตัน โคล และ ฌอน-ไรท์ ฟิลิปป์ส ลงมา

และอีก 2 นาทีถัดมา ตราโอเร่ ก็รับใบเหลืองไปเป็นคนแรกของเกมเมื่อไปอัด ไรท์ ฟิลิปป์ส ลอยทั้งตัว จากนั้น แลมพาร์ด ของ เชลซี ก็โดนใบเหลืองเมื่อไม่ยอมรับคำตัดสินของกรรมการ นาทีที่ 80 ลิเวอร์พูล เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายส่ง ฟลอร็องต์ ซินาม่า ปงโกลล์ ลงมาแทน การ์เซีย

หมดเวลาการแข่งขัน เชลซี เจ๊า ลิเวอร์พูล แบบจืดชืด 0-0 เข้ารอบต่อไปด้วยกันทั้งคู่โดย ลิเวอร์พูล เป็นจ่าฝูงของกลุ่ม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เชลซี - ปีเตอร์ เช็ก, วิลเลี่ยม กัลล่าส์, เปาโล แฟร์ไรร่า, ริคาร์โด้ คาวัลโญ่, จอห์น เทอร์รี่, เดเมี่ยน ดัฟฟ์, มิคาเอล เอสเซียง, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ไอเดอร์ กุ๊ดยอห์นเซ่น, อาร์เยน ร็อบเบน, เดเมี่ยน ดัฟฟ์, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา
ลิเวอร์พูล - โฮเซ่ เรน่า, เจมี่ คาร์ราเกอร์, สตีฟ ฟินแนน, ซามี่ ฮูเปีย, ฌิมี่ ตราโอเร่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ดีทมาร์ ฮามันน์, โมฮัมเหม็ด ซิสโซโก้, หลุยส์ การ์เซีย, ยอห์น อาร์เน รีเซ่, ปีเตอร์ เคร้าช์

สรุปผลการแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย คืนวันอังคารที่ 6 ธ.ค.2548


กลุ่ม อี
เอซี มิลาน (อิตาลี) ชนะ ชาลเก้ 04 (เยอรมัน) 3-2 (อันเดรีย ปิร์โล่ 1-0 นาที 42), (คริสเตียน โพลเซ่น 1-1 นาที 44), (กาก้า 2-1 นาที 52), (กาก้า 3-1 นาที 60), (ลินคอล์น 3-2 นาที 66)
พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น (ฮอลแลนด์) ชนะ เฟเนร์บาห์เช่ (ตุรกี) 2-0 (ฟิลิปป์ โคคู 1-0 นาที 14), (เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน 2-0 นาที 85)
(มิลาน เข้ารอบในฐานะที่ 1 ไอนด์โฮเฟ่น ที่ 2)

กลุ่ม เอฟ
โอลิมปิก ลียง (ฝรั่งเศส) ชนะ โรเซนบอร์ก (นอร์เวย์) 2-1 (คาริม เบนเซม่า 1-0 นาที 33), (ดาเนี่ยล บราเธ่น 1-1 นาที 68), (เฟรด 2-1 นาที 90)
โอลิมเปียกอส (กรีซ) ชนะ รีล มาดริด (สเปน) 2-1 (เซร์คิโอ รามอส 0-1 นาที 7), (อีรอล บุลุท 1-1 นาที 50), (ริวัลโด้ 2-1 นาที 87)
(ลียง เข้ารอบในฐานะที่ 1 รีล มาดริด ที่ 2)

กลุ่ม จี
เชลซี (อังกฤษ) เสมอ ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 0-0
รีล เบติส (สเปน) แพ้ อันเดอร์เลชท์ (เบลเยี่ยม) 0-1 (แว็งซอง กอมปานี 0-1 นาที 44)
(ลิเวอร์พูล เข้ารอบในฐานะที่ 1 เชลซี ที่ 2)

กลุ่ม เอช
อาร์ตมีเดีย บราติสลาว่า (สโลวาเกีย) เสมอ เอฟซี ปอร์โต้ (โปรตุเกส) 0-0
กลาสโกว์ เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์) เสมอ อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) 1-1 (อาเดรียโน่ 0-1 นาที 30), (ปีเตอร์ โลเวนคาร์นด์ส 1-1 นาที 38)
(อินเตอร์ มิลาน เข้ารอบในฐานะที่ 1 เรนเจอร์ส ที่ 2)

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์