คุ้มตั้งแต่เห็นชื่อ! 5 สิ่งดีๆที่ ลิเวอร์พูล จะได้รับจาก ไวจ์นัลดุม

จากที่ได้เห็น ไวจ์นัลดุม เล่นให้กับ นิวคาสเซิล มาตลอดฤดูกาลก่อน เขาคือคนที่เล่นเกมรุกสวนกลับได้อันตรายสุด ๆ โดยเฉพาะถ้าหากคู่แข่งปล่อยพื้นที่ว่างแถวริมเส้นให้เล่น

ดาวเตะแดนกังหัน จะใช้การแตะบอลเพียงไม่กี่จังหวะหลังเพื่อนตัดบอลได้ เพื่อทะลุทะลวงเข้าสู่กรอบเขตโทษของคู่แข่ง และนั่นจะเป็นฝันร้ายของผู้รักษาประตูทุกคน

โดยปกติแล้ว ไวจ์นัลดุม จะเป็นผู้เล่นที่ถนัดในการเล่นแนวกว้างมากกว่า เพราะนั่นจะทำให้เขาสามารถใช้จุดเด่นของตัวเองกว่าความเร็วที่มีได้เต็มประสิทธิภาพ

แต่นอกจากจะวิ่งเร็วแล้ว เขายังเป็นคนคิดเร็ว ทำเร็ว ขาเร็ว ส่งบอลเร็ว การวิ่งหาพื้นที่ต่าง ๆ ก็คล่องแคล่วรวดเร็ว 

ซึ่งตรงจุดนี้เองเรียกได้ว่าเข้ากับสไตล์บอลของ ลิเวอร์พูล และ คล็อปป์ แบบเต็ม ๆ และเมื่อสปีดเกมเร็วขึ้น "เกเก้นเพรสซิง" ก็จะมีความอันตรายมากขึ้นเช่นกัน

ข้อนี้ไม่ใช่เรื่องของ ไวจ์นัลดุม คนเดียวเท่านั้น แต่เขาก็มีส่วนสำคัญมากเช่นกัน เพราะทำให้ตอนนี้ ลิเวอร์พูล มีนักเตะแนวรุกที่สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะซ้าย กลาง ขวา หรือแม้แต่ดันสูงขึ้นไปเป็นกองหน้าตัวเป้า

ฉะนั้นแล้วเราจะได้เห็นการสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งกันในระหว่างเกมของ ไวจ์นัลดุม, มาเน, คูตินโญ และ เฟอร์มิโน อย่างสนุกสนามแน่

และเชื่อได้เลยว่า หากพวกเขาสามารถเล่นแทนกันได้อย่างเข้าขา, รวดเร็ว และจูนเซนส์บอลที่อยู่ในระดับสูงให้คลิ้กกันได้เมื่อไหร่ คู่แข่งหนาวจนร้องซี๊ดชัวร์

นอกจากจะเป็นตัวรุกที่มีชั้นเชิงและเทคนิคสูงมากๆแล้ว ไวจ์นัลดุม ยังมีจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งก็คือความสามารถในการพังประตู 

ในฤดูกาลที่แล้ว ไวจ์นัลดุม ลงเล่นให้ นิวคาสเซิลในลีกไป 38 เกม และยิงได้ถึง 11 ประตู แถมยังมาแบบครบเครื่องไม่ว่าจะเท้าซ้าย, เท้าขวา, ลูกโหม่ง หรือยิงไกล นั้นทำได้ทุกอย่าง

และหากนับตั้งแต่วันแรกที่เขาเพิ่งจะได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพกับ เฟเยนูร์ด ที่ ฮอลแลนด์ มาจนถึงวันที่เขาย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล นั้น มีสถิติการยิงประตูไปแล้วมากถึง 92 ลูก ทั้งที่เป็นผู้เล่นกองกลาง ถ้ายังไม่มีก็มี แอสซิสต์อีก 39 ครั้งแถมให้ด้วยเลยเอ้า

แม้ว่า ไวจ์นัลดุม จะยังเพิ่งอายุเพียงแค่ 25 ปี แต่เอาจริงๆ แล้วเขาถือเป็นนักเตะหนุ่มที่มีความเป็นผู้นำสูงมากคนหนึ่งของโลก ณ เวลานี้ เพราะเคยเป็นกัปตันให้กับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของลีก ฮอลแลนด์อย่าง พีเอสวี มาตั้งแต่อายุเพียง 23 เท่านั้น

และถ้าหากใครได้ติดตามผลงานของเขากับนิวคาสเซิล ในฤดูกาลก่อน จะเห็นได้ชัดเจนว่า ขณะที่ทัพนักเตะสาลิกาดงจะต้องผิดหวังกับผลงานของตัวเองมากแค่ไหน แต่จะยังคงมี ไวจ์นัลดุม อยู่หนึ่งคนที่แสดงออกชัดเจนผ่านภาษากายและแววตาว่า เขาจะไม่มีวันยอมแพ้หากเวลายังไม่หมด

ด้วยความที่เป็นคนใจสู้ และไม่กลัวต่อความพ่ายแพ้ แถมยังติดสกิลความเป็นผู้นำเพิ่มไว้ด้วยอีก บอกเลยว่า บรรยากาศในทีมปีนี้จะดีมาก ๆ ชัวร์

ที่มา : 90min.com