หงส์แดงไล่ตีเสมอเชลซี

หงส์แดงไล่ตีเสมอเชลซี-ซันเดอร์แลนด์ถล่มทอฟฟี่ 3-0 "นอริช"ขยี้วัตฟอร์ดแต่ตกชั้นพร้อมนิวคาสเซิล-วิลล่า

หงส์แดงไล่ตีเสมอเชลซี


การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก นัดตกค้างกลางสัปดาห์ ซึ่งเป็นนัดที่ 37 ของฤดูกาล เมื่อวันที่ 11 พ.ค. "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์ ต้อนรับ"สิงโตน้ำเงินนคราม" เชลซี 

ลิเวออร์พูลนัดนี้จะได้เล่นในบ้านนัดสุดท้าย เกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน ส่งนักเตะชุดใหญ่ลงสนาม นำทัพ โดยดาเนียล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ซึ่งเคยเล่นอยู่กับเชลซีมาก่อน
นอกจากนี้ยังมี โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, อดัม ลัลลาน่า ในแนวรุก พร้อมกันนี้ ลิเวอร์พูลสวมเสื้อทีมเหย้าชุดใหม่ที่จะใช้ในฤดูกาลหน้า
ส่วนเชลซีของกุส ฮิดดิงก์ ส่งนักเตะผสมผสานระหว่างตัวหลัก กับดาวรุ่ง นำโดยเชส ฟาเบรกาส, เอเดน ฮาซาร์ด, เนมันย่า มาติช, อาร์ม็อง ตราโอเร่,
เกมต้นครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ทำเกมบุกได้ดีกว่า
นาทีที่ 5 เฟอร์มิโน่มีโอกาสโหม่งแต่ไม่ตรงกรอบ
นาทีที่ 8 อดัม ลัลลาน่าซัดกึ่งวอลเลย์มุมแคบ แต่ไม่เข้า

ขณะที่เชลซีถอยตั้งรับแน่น รอสวนกลับ นาทีที่ 9 ตราโอเร่มีโอกาสยิงในกรอบเขตโทษ บอลตรงตัวซิมง มิโญเลต์ นายทวารลิเวอร์พูล

นาทีที่ 20 สเตอร์ริดจ์มีโอกาสยิงใกล้กรอบเขตโทษ แต่ข้ามคาน

นาทีที่ 28 ลัลลาน่า มีโอกาสยิงอีก แต่ติดบล็อกนักเตะเชลซี

จากนั้นนาทีที่ 32 เชลซีได้ประตูขึ้นนำ จากความสามารถเฉพาะตัวของเอเดน ฮาซาร์ด ลากหลบนักเตะลิเวอร์พูล 4-5 คนมาถึงหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะยิงเข้าเสาสองอย่างสวยงาม เชลซีนำ 1-0

เกมของเชลซีดีขึ้น ต่อบอลบดใส่เจ้าถิ่นอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 39 ตราโอเร่หลุดไปยิงหนีมือ มิโญเลต์ แต่บอลไม่ตรงกรอบ

ครึ่งแรก เชลซีนำ 1-0

ครึ่งหลังเชลซีมีโอกาสยิงเพิ่ม แต่ยังทำไม่ได้ ขณะที่ลิเวอร์พูลพยายามทวงคืน นาทีที่ 60 สเตอร์ริดจ์หลุดไปยิง แต่เบโกวิชปัดไว้ได้ จากนั้นจังหวะถัดมา โคโล่ ตูเร่เติมเกมขึ้นมาโขก แต่บอลเบา ไปเข้ามือเบโกวิช

นาทีที่ 64 ลัลลาน่ามีโอกาสยิงแต่ไม่เข้ารอบ

เกมรุกของเชลซี มีฮาซาร์ดคอยทำเกม สร้างปัญหาให้กับแนวรับของลิเวอร์พูล จากนั้น ตราโอเร่มีโอกาสยิง แต่มิโญเลต์เซฟไว้ได้

นาทีที่ 88 ฮาซาร์ดจ่ายบอลยาวให้เปโดรหลุดไปในเขตโทษ ก่อนจะล็อกหนึ่งจังหวะ แล้วยิง แต่มิโญเลต์ปัดไว้ได้

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ลิเวอร์พูลตีเสมอได้ จากจังหวะที่ เชยี่ โอโจ ปีกดาวรุ่งพาบอลมาด้านซ้าย แล้วเปิดมาหน้าประตู เบโกวิชพยายามปัดบอล แต่ไม่พ้น มาเข้าหัวคริสเตียน เบนเตเก้ โหม่งเข้าประตูโล่งๆ

จบเกมลิเวอร์พูลเสมอ เชลซี 1-1 แบ่งทีมละแต้ม ลิเวอร์พูลอยู่ที่ 8 เหมือนเดิม มี 59 แต้ม ส่วนเชลซีอยู่ที่ 9 มี 49 แต้ม

ส่วนนอริช ทีมอันดับ 19 เจอกับ วัตฟอร์ด เกมนี้ เจ้าถิ่น นอริชต้องการชัยชนะ และต้องลุ้นให้ซันเดอร์แลนด์ที่จะเจอกับ เอฟเวอร์ตั้นไม่สามารถชนได้
เกมนี้ นอริชนถล่มวัตฟอร์ด 4-2 ทีมเยือนยิงนำก่อน จากทรอย ดีนีย์ นาทีที่ 11 แต่นาธาน เรดมอนด์ ตีเสมอให้เจ้าถิ่น นาทีที่ 15 ก่อนที่ ดีเมอร์ซี่ เอ็มโบกานี่ จะยิงให้นอริชแซงนำ 2-1 นาทีที่ 18 ต่อด้วย เครก แคตคาร์ด สกัดเข้าประตูตัวเอง ให้นอริชทิ้งห่าง 3-1 จากนั้น โอดิออน อิ๊กกาโล่ ยิงไล่มา 2-3 นาทีที่ 51 แต่ เอ็มโบกานี่ ก็ยิงให้นอริชนำ 4-2 นาทีที่ 57

ส่วน"แมวดำ"ซันเดอร์แลนด์ ที่กำลังหนีตกชั้น เปิดบ้านต้อนรับ เอฟเวอร์ตั้น ผลปรากฎว่าซั้นเดอร์แลนด์ชนะ 3-0 ได้ประตู แพทริก ฟาน อานโฮลต์ นาทีที่ 38, ลามิเน่ โคเน่ คนเดียว 2 ลูก นาทีที่ 42 และ 56 เก็บ 3 แต้มล้ำค่า ทำให้รอดพ้นจากการตกชั้น เตะ 37 นัด มี 38 แต้ม เหลือการแข่งขันอีก 1 นัด

ขณะเดียวกัน จากชัยชนะของซันเดอร์แลนด์ ทำให้นอริช ซึ่งมี 34 แต้ม ตกชั้น ไปพร้อมกับนิวคาสเซิล 34 แต้ม และ แอสตัน วิลล่า 17 แต้ม จากการลงเตะ 37 นัด เหลือเพียงนัดเดียว


หงส์แดงไล่ตีเสมอเชลซี


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์