มาตามนัด!ตอร์เรสยิงดับงูลิ่ว8ทีม

มาตามนัด!ตอร์เรสยิงดับงูลิ่ว8ทีม

เฟอร์นานโด ตอร์เรสกลายเป็นตัวแสบของทุกทีมไปแล้วเมื่อซัดประตูโทนตอกย้ำความชอกช้ำให้อินเตอร์ มิ ลานที่เกมนี้เหลือ 10 ตัวเหมือนเดิมตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีกก่อนที่ลิเวอร์พูลจะไปร่วมจับฉลากกับสามทีมร่วมชาติในวันศุกร์ นี้อย่างสมใจหมาย

อินเตอร์ 0-1 ลิเวอร์พูล

ประตู :
0-1 ตอร์เรส น.64

เริ่มมาแฟน"งูใหญ่"เริ่มงานด้วยการเป่าปากโห่นักเตะลิเวอร์พูลทุกๆครั้งที่ได้บอลและพยายามกดดันใส่แต่ แข้งทีมเยือนยังนิ่งและเป็นฝ่ายเข้าทำก่อนแบบไม่มีกลัว

แต่อินเตอร์เริ่มตั้งเกมได้และนาทีที่ 4 มีเสียวก่อนเมื่อคัมปิอัสโซ่ได้จังหวะยิงในกรอบเขตโทษแต่ถูกกองหลัง" หงส์แดง"แหย่ออกหลังก่อนนิดเดียว

"งูใหญ่"ขึงเกมหนักขึ้นเรื่อยๆและนาทีที่ 8 ซลาทานแตะบอลจากลูกทุ่มฝั่งซ้ายคืนให้ครูซซัดนอกกรอบบอลพุ่ง เลียดเข้ามุมร้อนถึงเรน่าต้องพุ่งสุดปลายมือออกหลังเสียเตะมุม

เสียงแฟนบอลอินเตอร์ร้องเอาใจช่วยทีมรักอย่างกึกก้องส่วนลิเวอร์พูลยังไม่มีโอกาสบุกไปทำประตูในกรอบ เขตโทษเจ้าถิ่นเลย

"หงส์แดง"โงหัวไม่ขึ้นแล้วเพราะตั้งรับต่ำเจออินเตอร์ลุยใส่อย่างหนักจนต้องทำฟาว์ลบ่อยขึ้น

ตอนนี้ลิเวอร์พูลเล่นแท็คติกส์คล้ายๆยามมาเยือนเชลซีคือเน้นรับคุมโซนและใช้มิดฟิลด์คอยแย่งไล่บอลบีบ พื้นที่อินเตอร์โดยตั้งใจว่าลูกแรกไม่มาทุกอย่างก็เข้าทางในขณะที่เจ้าถิ่นไม่กล้าหลังลอยเพราะอาจเจอเม็ดเดียวถึงตกรอบ ได้ทันที

นาที 24 อินเตอร์บุกเพลินๆเกือบโดนหลังออเลริโอวางยาวจากแบ็คข้ามเซนเตอร์ให้บาเบิ้ลหลุดไปดวลกับเซ ซาร์แต่นายทวารจอมหนึบออกมานอกเส้นถึงก่อนแถมโชว์ลูกนิ่งไม่เคลียร์ดูดเอาบอลดึงลงแล้วส่งให้เพื่อนต่อ แจ่มจริงๆ

อีก 3 นาที"งูใหญ๋"เกือบเน่าอีกเมื่อจังหวะที่เหมือนไม่มีอะไรแต่คัมปิสโซ่ดันลื่นเสียบอลในกรอบตัวเองทำให้ ตอร์เรสฉกก่อนลากหลบริวาสไปถึงเส้นหลังก่อนเอั้ยวตัวยิงมุมแคบบอลติดบล็อกเซซาร์ที่ออกมาเร็วและช่วยชีวิตเจ้าถิ่น เอาไว้ได้

แต่พอถึงนาที 30 อิบราฮิมโมวิชโชว์คลึงบอลหน้าเขตโทษก่อนจ่ายหักข้อให้ครูซวิ่งสอดทะลุหนีล้ำหน้าก่อน ตวัดยิงซ้ายเร็วบอลผ่านเรน่าก่อนค่อยๆผ่านหน้าเสาออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ จังหวะนี้ถ้าปาดตบเข้ากลางให้ซาเน็ตติได้ยิง โล่งๆแน่นอน

อีกสองนาทีตอร์เรสฉกบอลจากลูกที่คิวูลื่นเลยเปิดบอลยาวจากปีกขวาให้บาเบิ้ลหลอกล่อก่อนตบบอลด้วยอี ซ้ายจากเส้นหลังให้เคาท์วิ่งมายิงแต่บอลโดนไม่เต็มแถมจังหวะยิงยากด้วยเลยหลุดออกเสาไกลไปเอง

ก่อนหมดเวลา 2 นาทีวิเอร่าไม่รู้ทำยังไงเลี้ยงหลบไปถึงเส้นหลังก่อนอัดยัดเข้าในบอลไปชนครูซเกือบเปลี่ยน ทางเข้าประตูยังดีที่บอลไม่แรงและเรน่าตระครุบเอาไว้ได้ทันก่อน เดอะค็อปเสียววาบ จากนั้นหมดครึ่งแรกทั้งคู่ยังทำอะไร กันไม่ได้โดยที่เจ้าถิ่นพยายามบุกเอาคืนให้ได้ซักลูกแต่แนวรับ"หงส์แดง"ยังช่วยกันได้ดีอยู่

ครึ่งหลังมาเริ่นกันใหม่ยังเป็นอินเตอร์ที่เล่นตามเสียงเชียร์แฟนบอลจนทีมเยือนต้องเริ่มตั้งรับอย่างรวดเร็ว แต่เล่นไปแค่ 5 นาที"งูใหญ่"มาเหลือ 10 ตัวเหมือนเดิมหลังจังหวะไลว่าเร็วกว่าแย่งบอลตรงกลางสนามได้แต่เบอร์ดิสโซ่ ไปอัดใส่ทั้งตัวเลยโดนใบเหลืองที่สองไล่ออกจากสนามอย่างน่าเสียดาย

เจอแบบนี้เข้าไปซาเน็ตติเลยต้องถอยมายืนแบ็คซ้ายและเท่ากับว่างานของเจ้าบ้านหนักขึ้นกว่าเดิมเพราะกำลัง ต้องการประตูแรกมากกว่าอะไรทั้งสิ้น

แต่แล้วนาที 57 สเคอร์เทลเกือบงานเข้าเมื่อยืนเป็นตัวสุดท้ายแต่จ่ายบอลพลาดไปเข้าเท้าซลาทานเฉยจนหลุด เข้าเขตโทษแต่แข้งทีมชาติสวีเดนดันยิงหลุดเสาไกลออกไปได้ไงไม่รู้ แถมตรงกลางมีครูซยืนรอยิงอีกคนต่างหาก ลิเวอร์ พูลรอดพ้นการเสียประตูอย่างสุดเหลือเชื่อ

อีกนาทีเดียวบาเบิ้ลถูก"แมวน้ำกัลโช่"ริวาสขวางทางจังหวะสวนกลับหน้าเขตโทษเลยรับใบเหลืองและเป็น เจอร์ราร์ดรับปั่นข้ามกำแพง 20 หลาแต่เซซาร์ดักทางปัดทิ้งเอาเตะมุมไว้ก่อน

บอล 10 ตัวของอินเตอร์พบจุดจบจนได้เมื่อนาที 64 จังหวะสวนทางริมเส้นของ"หงส์แดง"เป็นออเลริโอ หลุดขึ้นมาทางซ้ายโดยที่ตอร์เรสปล่อยไม่เล่นก่อนวิ่งทำทางไปหน้าเขตโทษก่อนที่แบ็คหน้าหยกจะเปิดไซด์ยัดเข้ากลางและ" เอล นินโญ่"โชว์ความมหัศจรรย์ด้วยการจับบอลย้อนหลังแล้วหมุนตัวเป็นดอกทานตะวัน 360 องศายิงยัดเสาแรกทะลุคิวู ที่ถลำไปแล้วบอลตุงตาข่ายเข้าไปอย่างสุดสอด ลิเวอร์พูลนำ 1-0 รวมสองนัดนำ 3-0 และอินเตอร์ต้องยิงถึง 4 จึงจะ พลิกกลับมาเข้ารอบ!!

กลายเป็นว่าตอนนี้ลิเวอร์พูลเล่นอย่างสบายใจค่อยเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาหน่อยและจังหวะสวนทุกครั้งมีพื้นที่ เล่นได้ลุ้นมากกว่าตอนเสมอ 0-0 อย่างชัดเจน

ตลอดทั้งเกม"งูใหญ่"ได้แค่เสียวยิงวูบวาบหน้าประตูตลอดในขณะที่ลูกตั้งเตะก็เสียของเรียบวุธ นาที 79 ซา เน็ตแทงทะลุให้ซลาทานหลุดล้ำหน้าเข้าเขตโทษแต่จังหวะยิงดันเข้าซ้ายและถูกสเคอร์เทลวิ่งไล่มาเลยอัดข้ามคานออกไป แบบไม่มีลุ้นเลย

ท้ายเกมเล่นโอเล่เผาเวลาอยู่นานเป็นนาทีส่วนอินเตอร์ก็ไม่เอาแล้วเพราะแฟนบอลก็เป่าปากโห่ด้วยความเซ็ง อารมณ์เช่นกัน

หมดเวลาลิเวอร์พูลเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยสกอร์รวม 3-0 และเป็นตัวแทนจากอังกฤษทีมที่สี่ที่เข้ารอบครบเรียบวุธก่อนมาลุ้นจับฉลากด้วยใจระทึกอีกครั้งในวันศุกร์นี้ SS รายงานสดเหมือนเดิม


รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม :

อินเตอร์ :
ชูลิโอ เซซาร์,ไมคอน,นิโคลาส เบอร์ดิสโซ่,เนลสัน ริวาส,คริสเตียน คิวู,ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ,คัมบิอัสโซ่, เดยัน สแตนโควิช(จิเมเนส น.85),ปาทริค วิเอร่า(เปเล่ น.76),ซลาทาน อิบราฮิมโมวิช(ซูอาโซ่ ย.80),ชูลิโอ ครูซ

ตัวสำรอง : ตอลโด้,ฟิโก้,เครสโป,มานิเช่

ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า,เจมี่ คาร์ราเกอร์,มาร์ติน สเคอร์เทล,ซามี่ ฮูเปีย,ฟาบิโอ ออเรลิโอ,ไรอัล บาเบิ้ล(เบนายูน น.62),ฮาเวียร์ มาสเคราโน่(เพนแนนท์ น.88),สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด,ลูคัส ไลว่า,เดิร์ก เคาท์(ริเซ่ น.81),เฟอร์นานโด ตอร์เรส

ตัวสำรอง : อีตองด์เช่,โวโรนิน,เคราช์,อาร์เบลัว

ผู้ตัดสิน : ทอม โอเวรนโบ้(นอร์เวย์)



































 

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: lentee

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์