หงส์ช้ำ! เจ๊าบาเซิ่ลร่วงตกรอบชปล.คารัง

หงส์ช้ำ! เจ๊าบาเซิ่ลร่วงตกรอบชปล.คารัง


การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. กลุ่มบี “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล จากอังกฤษ เปิดสนามแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของเอฟซี บาเซิ่ล จากสวิตเซอร์แลนด์ โดยเจ้าถิ่นต้องชนะสถานเดียวเพื่อผ่านเข้ารอบ ส่วนทีมเยือนขอแค่เสมอจะลิ่วทันที สำหรับนัดนี้เจ้าบ้านส่ง ริคกี้ แลมเบิร์ต, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ลงนำเกมรุก ส่วนทีมเยือนมี เดอร์ลิส กอนซาเลซ, มาร์โก สเตรลเลอร์, ฟาเบียน ฟราย เป็นตัวจริง

เริ่มเกมมายังไม่มีใครครองสถานการณ์ได้เหนือกว่า จนกระทั่งนาที 25 แฟนบอลเจ้าถิ่นต้องเงียบกริบ จากจังหวะที่ผู้เล่นบาเซิ่ลต่อบอลกันแบบใจเย็น กระทั่งมาถึง ฟาเบียน ฟราย จ่ายต่อไปยัง ลูก้า ซุฟฟี่ ที่บริเวณเส้นเขตโทษ ซุฟฟี่จึงแตะคืนหลังเล็กน้อยให้ฟรายเข้ามากดด้วยซ้ายพุ่งเรียดเสียบเสาอย่างเด็ดขาด บาเซิ่ลบุกมานำ 1-0

นาที 33 โอกาสของบาเซิ่ลอีกครั้ง แนวรับเจ้าถิ่นสกัดลูกเตะมุมมาเข้าทาง เทาลันต์ ชาก้า เปิดกลับเข้าไปในเขตโทษให้ มาร์โก สเตรลเลอร์ กระโดดวอลเลย์แบบไม่มีใครประกบ แต่โดนไม่เต็มเท้าหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย

จากนั้นลิเวอร์พูลครองบอลได้ค่อนข้างเหนือกว่า แต่หาจังหวะจบสกอร์ไม่ได้ จบครึ่งแรก “หงส์แดง” ตามหลัง 0-1

ครึ่งหลังนาที 60 สถานการณ์เจ้าถิ่นแย่ลงไปอีก ลาซาร์ มาร์โควิช ที่เพิ่งลงสนามมาในครึ่งหลัง ไปสะบัดมือใส่หน้า เบห์รัง ซาฟารี ในจังหวะกระชากบอลหนี ผู้ตัดสินจึงควักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที ทำให้ลิเวอร์พูลเหลือแค่ 10 คน

นาที 81 ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เลื้อยเข้าไปแล้วถูก ฟาเบียน ชาร์ ทำฟาวล์แถวหน้าเขตโทษ สตีเว่น เจอร์ราร์ด รับอาสาปั่นข้ามกำแพงชนเสาเข้าไปอย่างสุดสวย ลิเวอร์พูลตีเสมอเป็น 1-1

นาที 85 บาเซิ่ลเกือบแซงนำ ลูก้า ซุฟฟี่ ได้บอลบริเวณหัวกะโหลกแล้วดึงหลอกกองหลังก่อนตะบันเข้ากรอบ ซิมง มิโญเลต์ ยังพุ่งทุบออกไปได้

นาที 87 ลิเวอร์พูลก็หวิดได้ประตูจากโชคช่วยเหมือนกัน อัลเบร์โต้ โมเรโน่ เปิดจากฝั่งซ้ายเข้ากลางให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน แย่งโหม่งกับผู้เล่นบาเซิ่ล แล้วไปแฉลบนักเตะทีมเยือนอีกรายเข้ากรอบ โทมัส วาชลิก หลงทางไปแล้ว แต่ยังไวทายาดโผกลับมารับไว้ได้บนเส้นประตูพอดี

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาที 92 บาเซิ่ลเกือบฝัง บรีล เอ็มโบโล่ หลุดเข้ากรอบเขตโทษฝั่งซ้ายแล้วจะยิงยัดเสาแรก ซิมง มิโญเลต์ ยังเซฟไว้ได้เยี่ยม

นาที 93 ลิเวอร์พูลที่เปิดเกมบุกใส่เต็มตัวก็น่าแซงนำเช่นกัน เริ่มจาก ราฮีม สเตอร์ลิ่ง หลุดเข้ากรอบเขตโทษฝั่งซ้ายแล้วเปิดเรียดให้ มาร์ติน สเคอร์เทล สไลด์ยิงเฉียดเสานิดเดียว จากนั้นไม่กี่อึดใจ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เก็บบอลที่กระฉอกออกมาจากเขตโทษแล้วซัดไกลสวนเข้าไป โทมัส วาชลิก ยังพุ่งปัดไว้ได้เหลือเชื่อ จบเกมเสมอกัน 1-1 ทำให้บาเซิ่ลเก็บเพิ่มเป็น 7 แต้มจาก 6 นัด ผ่านเข้ารอบไปแบบใจหายใจคว่ำ ส่วนลิเวอร์พูลมี 5 แต้ม ได้แค่ตั๋วยูฟ่า ยูโรปา ลีก เป็นสิ่งปลอบใจ

อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน “ราชันชุดขาว”เรอัล มาดริด จากสเปน ชนะ ลูโดโกเรตส์ จากบัลแกเรีย 4-0 เจ้าถิ่นได้จาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นาที 20, แกเร็ธ เบล นาที 38, อัลบาโร่ อาร์เบลัว นาที 80, อัลบาโร่ เมดราน นาที 88 เกมนี้ทีมเยือนเหลือ 10 คน มาร์เซลินโญ่ โดนไล่ออกนาที 19 ทำให้มาดริดทำสถิติชนะ 6 นัดรวด เก็บได้ 18 คะแนนเต็ม

สรุปสถานการณ์กลุ่มบี

เข้ารอบ : เรอัล มาดริด (18 แต้ม), เอฟซี บาเซิ่ล (7 แต้ม)
ยูฟ่า ยูโรปา ลีก : ลิเวอร์พูล (5 แต้ม)
ตกรอบ : ลูโดโกเรตส์ (4 แต้ม)

ส่วนกลุ่มเอ “ม้าลาย”ยูเวนตุส จากอิตาลี เสมอกับ “ตราหมี”แอตเลติโก มาดริด จากสเปน 0-0 ยูเวนตุสเก็บเพิ่มเป็น 10 แต้มจาก 6 นัด คว้าตั๋วเข้ารอบต่อไป ส่วนแอตฯมาดริดมี 13 แต้ม ได้แชมป์กลุ่ม

ผลอีกคู่ โอลิมเปียกอส จากกรีซ ชนะ มัลโม่ จากสวีเดน 4-2 เจ้าถิ่นได้จาก ดาบิด ฟุสเตอร์ นาที 22, อเลฆานโดร โดมิงเกซ นาที 63, คอนสแตนตินอส มิโตรกลู นาที 87, อิบราฮิม อเฟลลาย นาที 90 ส่วนทีมเยือนได้จาก ไซมอน ครูน นาที 59, มาร์คุส โรเซนเบิร์ก นาที 81 เกมนี้ทีมเยือนเหลือ 10 คน เอน็อค โคฟี่ อาดู โดนไล่ออกนาที 90 โอลิมเปียกอสมี 9 แต้ม ได้ไปยูฟ่า ยูโรปา ลีก

สรุปสถานการณ์กลุ่มเอ

เข้ารอบ : แอตเลติโก มาดริด (13 แต้ม), ยูเวนตุส (10 แต้ม)
ยูฟ่า ยูโรปา ลีก : โอลิมเปียกอส (9 แต้ม)
ตกรอบ : มัลโม่ (3 แต้ม)

ทางด้านกลุ่มซี โมนาโก จากฝรั่งเศส ชนะ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก จากรัสเซีย 2-0 เจ้าถิ่นได้จาก อายเมน อับเดนนูร์ นาที 63, ฟาบินโญ่ นาที 89 โมนาโกเก็บเพิ่มเป็น 11 แต้มจาก 6 นัด ได้แชมป์กลุ่ม ส่วนเซนิตมี 7 แต้ม ไปยูโรปา ลีก

ผลอีกคู่ “เหยี่ยวลิสบอน”เบนฟิก้า จากโปรตุเกส เสมอ “ห้างขายยา”ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น จากเยอรมนี  0-0 โดยทีมเยือนเหลือ 10 คน โอเมอร์ โทปรัก โดนไล่ออกนาที 90 เลเวอร์คูเซ่นเก็บเพิ่มเป็น 10 แต้ม เข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่ม

สรุปสถานการณ์กลุ่มซี

เข้ารอบ : โมนาโก (11 แต้ม), ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (10 แต้ม)
ยูฟ่า ยูโรปา ลีก : เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก (7 แต้ม)
ตกรอบ : เบนฟิก้า (5 แต้ม)

กลุ่มดี กาลาตาซาราย จากตุรกี พ่ายต่อ “ปืนใหญ่”อาร์เซนอล จากอังกฤษ 1-4 ทีมเยือนได้จาก ลูคัส โพโดลสกี้ นาที 3 และ 90, อารอน แรมซีย์ นาที 11 และ 29 ส่วนเจ้าถิ่นได้จาก เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ นาที 89

ผลอีกคู่ “เสือเหลือง”โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จากเยอรมนี เสมอ อันเดอร์เลชท์ จากเบลเยียม 1-1 เจ้าถิ่นได้จาก ชิโร่ อิมโมบิเล่ นาที 58 แต่ทีมเยือนตีเสมอจาก อเล็กซานเดอร์ มิโตรวิช นาที 84 ทำให้ดอร์ทมุนด์ได้แชมป์กลุ่ม โดยมี 13 แต้มเท่าอาร์เซนอล  แต่ประตูได้เสียดีกว่า

สรุปสถานการณ์กลุ่มดี

เข้ารอบ : โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (13 แต้ม), อาร์เซนอล (13 แต้ม)
ยูฟ่า ยูโรปา ลีก : อันเดอร์เลชท์ (6 แต้ม)
ตกรอบ : กาลาตาซาราย (1 แต้ม)

สำหรับการจับสลากประกบคู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย จะมีขึ้นในวันที่ 15 ธ.ค. ที่เมืองนียง สวิตเซอร์แลนด์

หงส์ช้ำ! เจ๊าบาเซิ่ลร่วงตกรอบชปล.คารัง


หงส์ช้ำ! เจ๊าบาเซิ่ลร่วงตกรอบชปล.คารัง


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์