นินโญ่แฮตทริก! นำหงส์เฉือนโบโร่หวิวแซงขึ้นที่ 4

"เอล นินโญ่" เฟร์นานโด ตอร์เรส โชว์ฟอร์มพระเอกอีกแล้ว เมื่อทำคนเดียว 3 ประตูให้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดรังเฉือนเอาชนะ "สิงห์อีสาน" มิดเดิลสโบรช์ ไปแบบหวุดหวิดสุดๆ แต่ก็ยังแซงขึ้นที่ 4 ได้


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก (23 ก.พ.2551)

ลิเวอร์พูล 3-2 มิดเดิลสโบรช์
สนาม : แอนฟิลด์
ประตู : 0-1 ตุนกาย ซานลี่ น.9, 1-1 เฟร์นานโด ตอร์เรส น.28, 2-1 เฟร์นานโด ตอร์เรส น.29, 3-1 เฟร์นานโด ตอร์เรส น.61, 3-2 สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง น.83


"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ลงเล่นในแอนฟิลด์ต่อเนื่องอีกเป็นนัดที่ 3 ด้วยความมั่นใจเต็มขีดหลังโชว์ฟอร์มเหนือเอาชนะ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน โคตรทีมจากอิตาลีได้ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทำให้ราฟา เบนิเตซ ยัดชุดเดิมไว้ต่อไปถึง 10 ตำแหน่งมีเพียงเจมี่ คาร์ราเกอร์ ที่ติดโทษแบนคนเดียวทำให้ต้องเข็นอัลบาโร่ อาร์เบลัว ฟูลแบ็กที่เพิ่งหายเจ็บกลับมายืนแก้ขัดแทนไปก่อน
 
เกมนี้ นักเตะหงส์แดงเล่นเหมือนอยากเอาใจแฟนบอลสุดๆ เร่งเกมบุกตั้งแต่แรกทันที แต่มาถึงนาทีที่ 9 ก็โดนหมัดเด็ดของทีมเยือนเล่นงานจากลูกฟรีคิก สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง เปิดโค้งมาแนวรับลิเวอร์พูล เช็คล้ำหน้ากันพลาดปล่อยให้ตุนกาย ซานลี่ ได้เทคตัวเดี่ยวๆโขกเข้าไปไม่มีเหลือให้โบโร่ ออกตัวนำไปก่อน 1-0
 
ลิเวอร์พูลโดนยิงก่อนแบบนี้ก็เกิดอาการร้อนตัว จะเอาคืนให้ได้ท่าเดียว แล้วก็น่าจะได้เหมือนกันในนาทีที่ 18 จากจังหวะที่ไรอัน บาเบิล เลื้อยมาทางซ้ายก่อนจะเปิดเรียดมากลางประตู เข้าทางเดิร์ค เคาท์ ปั๊มมะรุมมะตุ้มแย่งกับกองหลังโบโร่ ก่อนจะซัดด้วยอีซ้ายแต่เหินข้ามคานไปน่าเสียดาย
 
แต่อีก 10 นาทีถัดมา เจ้าบ้านก็ได้ของขวัญจากทีมเยือน เมื่ออาร์ก้า โขกคืนหลังไม่ดี ตอร์เรส ฉกบอลได้ก่อนควบไปแตะหลบชวาเซอร์ และซัดเข้าไปนิ่มๆไม่เหลือ ให้สกอร์กลับมาเจ๊ากันจนได้ที่ 1-1
 
นาทีถัดมา ตอร์เรส ก็บวกสกอร์เพิ่มให้กับทีมได้ต่อเนื่อง เมื่อได้บอลจากออเรลิโอ ก่อนจะซัดเร็วจากระยะกว่า 25 หลา ลูกพุ่งเบียดเสาเข้าไปชนิดที่ชวาเซอร์หมดสิทธิ์เซฟ เป็นประตูที่ 2 ของดาวยิงสุดหล่อชาวสเปนด้วย
 
โบโร่ มีโอกาสจะตีเสมอได้เช่นกันในนาทีที่ 35 เมื่อดาวนิ่ง หลุดไปทางปีกซ้ายก่อนจะครอสบอลเข้ากลางมา ตุนกาย ปรี่เข้าชาร์จตัดหน้าเรน่า แต่ดันใช้แขนทำประตูทำให้ไม่ได้ทั้งประตูและโดนใบเหลืองไปด้วยในเวลาเดียวกัน และจบครึ่งแรกหงส์แดงก็เลยยังนำอยู่ 2-1
 
ครึ่งหลัง โบโร่ งัดบอลชวนทะเลาะออกมาเล่นกับลิเวอร์พูล โดยเฉพาะการบอมบ์กลางอากาศหวังจะป่วนแนวรับเจ้าบ้านที่ไม่ค่อยถูกกับบอลโยนนัก
 
แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นเจ้าบ้านที่ได้ประตูหนีเป็น 3-1 จากบอลโยนสวนกลับเร็วแทน โดยเป็นเคาท์ ที่ตัดบอลได้จากในกรอบเขตโทษตัวเองก่อนจะพาบอลขึ้นมาและวางให้ตอร์เรส สปีดไปเอาบอล โชคเข้าข้างที่ชวาเซอร์ออกมาจะตัดบอลแล้วไม่เข้าใจกับเพื่อนร่วมทีม ทำให้ดาวยิงสเปน ฉวยจังหวะเอาบอลมาก่อนจะส่งไปกองก้นตาข่าย เป็นการทำแฮตทริกของตัวเองด้วยในนาทีที่  61
 
หลังจากนั้น โบโร่ ก็เป็นฝ่ายยำใหญ่ แต่ก็เกือบโดนทีเด็ดของตอร์เรส ที่วันนี้หาจังหวะป่วนแนวรับโบโร่ได้สุดยอดมาก เมื่อได้โซโล่เข้าไปในเขตอีกที แต่ลูกยิงเนียนๆไปโดนชวาเซอร์ปัดออกไปไม่ให้ได้ประตูที่ 4
 
ทีมเยือนฮึดจนไล่มาเป็น 3-2 ได้สำเร็จในนาทีที่ 83 เมื่อดาวนิ่ง ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษก่อนจะจิ้มบอลสวนตัวเรน่า ที่พยายามออกมาปิดมุมแต่ไม่มิดเข้าไป
 
แต่อีก 2 นาทีถัดมา โบโร่ ก็ต้องเหลือแค่ 10 คนเท่านั้นเมื่ออาลิอาดิแยร์ ไปโดนใบเหลืองที่สองไล่ออกจากสนามเพราะไปตบหน้ามาสเคราโน่ ทำให้หมดสิทธิ์จะบี้จนตีเสมอได้ ต้องยอมรับความปราชัยไปในเกมนี้ ส่วน "หงส์แดง" เก็บ 3 คะแนนสำคัญแซงขึ้นที่ 4 ได้สำเร็จ


รายชื่อผู้เล่น
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า, สตีฟ ฟินแนน, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, ซามี่ ฮูเปีย, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, เดิร์ค เคาท์ (ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ น.73) , ลูคัส เลวา, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ไรอัน บาเบิล (ยอสซี่ เบนายูน น.62) , สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เฟร์นานโด ตอร์เรส (ปีเตอร์ เคราช์ น.90)

มิดเดิลสโบรช์ : มาร์ค ชวาเซอร์, ลุค ยัง, เดวิด เวทเธอร์, โจนาธาน กราวด์ส, เอ็มมานูเอล โปกาเต็ตซ์, แกรี่ โอนีล (มิโด้ น.59) , ฟาบิโอ โรเชมบัค, ฮูลิโอ อาร์ก้า, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, เฌรเมี่ อาลิยาดิแยร์, ตุนกาย ซานลี่ (อฟอนโซ่ อัลเวส น.69)

ผู้ตัดสิน : ลี เมสัน


ขอบคุณข้อมูลข่าวดีๆจาก


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์