ราฟาต้องลาออก โดย เอกราช เก่งทุกทาง

หรือราฟาเอล เบนิเตช จะเป็นอดีตสำหรับหงษ์แดง

ว่าจะไม่แล้วเชียว สุดท้ายก็ต้องขียนถึง ลิเวอร์พูล อีกจนได้

ไม่ว่ามองมุมไหน ในเรื่องผลงานหรือความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับสโมสร ซึ่งนับวันยิ่งเลอะเทอะขึ้นไปทุกที ผมว่ามันถึงเวลาที่ ราฟา เบนิเตซ ต้องแสดงสปิริตลาออกได้แล้ว

หงส์แดงโดนแมนฯยูกับอาร์เซน่อลทิ้งขาด 17 แต้ม หมดสิทธิลุ้นแชมป์แน่นอน ขณะเดียวกันความเครียดในแอนฟิลด์ก็ส่งผลให้แฟนบอลกับเจ้าของทีม แตกแยกเป็น 2 ขั้วจนไม่น่าจะต่อกันติดอีก

ล่าสุดถึงขนาดมีข่าวว่า แฟนบอลลิเวอร์พูลจะระดมทุนลงขันกันซื้อหุ้นคืน เอาทีมกลับมาบริหารกันเอง ซึ่งมัน ไปกันใหญ่ และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

จอร์จ ยิลเล็ตต์ กับ ทอม ฮิคส์ เพิ่งเทกโอเวอร์มาแหม็บๆ ถ้ายอมขายหุ้นตอนนี้ก็บ้าแล้ว

อะไรๆ ที่เกี่ยวกับหงส์แดงจึงเหมือนภาพลวงตา เผลอๆ เหมือนไม่อิงกับความเป็นจริงยังไงไม่รู้

ถ้าปล่อยให้เดินดุ่ยกันต่อไปแบบนี้ ลิเวอร์พูลก็ต้องตั้งความหวังว่าจะได้แชมป์บอลถ้วย ไม่แชมเปี้ยนส์ลีก ก็เอฟเอคัพ เอามาชดเชยความผิดหวังจากบอลลีก จากนั้นก็ปลอบใจตัวเองเหมือนเดิมว่า มันก็ยังดี (วะ) เราไม่ได้ล้มเหลวซักกะหน่อย

ทั้งที่ความเป็นจริง คือทั้งล้มทั้งเหลวแหละ ห่าง แมนฯยู-อาร์เซน่อล สิบกว่าแต้มอย่างนี้ ถือว่าเลวร้ายแล้ว เพราะทุกอย่างไม่ได้ดีขึ้นเลยแม้จะลงทุนซื้อนักเตะใหม่ไปมากมาย

ราฟา เบนิเตซ สมควรรับผิดชอบ ไม่ใช่โยนขี้ให้ทอม ฮิคส์ กับจอร์จ ยิลเล็ต

ผมเคยตั้งข้อสังเกตมานานแล้วว่า ลิเวอร์พูลเรื่อยๆ เปื่อยๆ อยู่อย่างนี้ อาจเป็นเพราะมีคนดีมากเกินไป

บอร์ดบริหารขี้เกรงใจ มีมารยาท แฟนบอลรักพวกพ้อง ผูกพันกับนักเตะ-สตาฟฟ์โค้ชเหมือนเป็นญาติ เป็นเพื่อน ใครผิดพลาดขึ้นมาก็ให้อภัยโดยนึกถึงผลงานในอดีตเป็นที่ตั้ง

เรื่องพวกนี้อาจจะทําให้ลืมความจริงในปัจจุบัน ความจริงที่ว่าลิเวอร์พูลถูกพวกมหาอํานาจอื่นๆ เขาทิ้งห่างกันมากขึ้นทุกวัน และถ้าไม่รู้จักเปลี่ยนแปลงตัวเองซะบ้าง ก็จะกลายเป็นอดีตทีมที่ยิ่งใหญ่ไปในที่สุด

ไม่ว่าหงส์แดงจะได้แชมป์บอลถ้วยสักกี่ถ้วยก็เอามาถมช่องว่างที่ห่างจากทีม 3 อันดับแรกในลีกไม่ได้หรอก

แต่ดูเหมือนว่า แต่ละฝ่ายยังดันทุรังกันต่อ เสาร์นี้ที่จะเจอกับ ซันเดอร์แลนด์ ในลีก ถ้าเอาชนะได้ แฟนบอลก็ยังให้เครดิตราฟาอีก รวมทั้งจะมีข่าวทำนองว่าเป็น 3 แต้มที่ช่วยลดความกดดันออกมาให้อ่านกันตามฟอร์ม

นี่คือความเป็นลิเวอร์พูลซึ่งอธิบายความรู้สึกยาก มันก็ดีในแง่ของความกลมเกลียวไม่มีใครถูกทิ้งให้เดียวดาย แต่อีกมุมก็คือ ความวังเวงและหดหู่ชอบกล

ยิ่งเทียบคาแรคเตอร์กับแมนฯยูและอาร์เซน่อลก็ยิ่งไปกันคนละทิศคนละทาง

ปีศาจแดงกับปืนใหญ่ดูเป็นมืออาชีพที่จริงจังมากๆ ไม่ค่อยมีด้านโรแมนติคให้เห็น เน้นแต่ชัยชนะกับความสำเร็จลูกเดียว

เสาร์นี้ถ้าแมนฯยู, อาร์เซน่อล สามารถเก็บ 3 แต้ม ตีคู่บี้กันต่อไปได้ก็ต้องมาจากความเป็นมืออาชีพที่หนักแน่นของตัวเองนี่แหละ

ปีศาจแดงจะเจอสเปอร์ส ส่วนปืนใหญ่บุกเยือนแมนฯซิตี้เห็นชื่อคู่ต่อสู้แล้วไม่น่าง่าย แต่บังเอิญว่าสองบิ๊กเขากำลังเครื่องร้อนพอดีน่ะสิ...

พวกนี้มักจะชนะได้ในเกมที่ต้องชนะ...นี่คือความแตกต่างที่สำคัญ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์