++ เดอะค๊อปจะกลัวไปใยกับสิ่งที่ยังไม่เกิด? ++






ช่วงนี้ข่าวลือเรื่องการย้ายทีมของสองนักเตะกองกลางคนสำคัญลิเวอร์พูลอย่างฆาเบียร์ มาสเคราโน และซาบี อลองโซไปยังสเปนมาแรงเหลือเกิน สื่อเล่นข่าวกันทุกวัน แต่หากจะดูกันจริงๆ แล้ว ต้นทางของข่าวล้วนแล้วมาจากทางสื่อสเปนทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นสื่ออย่าง Marca และ AS ที่มีฐานบรรณาธิการอยู่ในกรุงมาดริด หรือสื่ออย่าง Mundo Deportivo และ Sport ที่เอนเอียงไปทางบาร์เซโลน่าชัดเจน มันก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้ซับซ้อนใดๆ หากทีมไหนอยากได้ใคร ก็เล่นกันง่ายๆ แบบใช้สื่อชักใยกันนี่แหละ ลงข่าวมันทุกวัน บวกกับปั่นหัวเอเยนต์หน่อยให้ไปกล่อมนักเตะ หากไม่ใช่คนที่หนักแน่นจริงอย่าง เฟอร์นานโด ตอเรส มันก็ต้องมีเขวกันบ้างล่ะ ไม่เว้นแม้ในกรณีของกัปตันไดนาโม สตีเวน เจอร์ราดในปี 2004 ที่ทุกคนน่าจะจำกันได้ดี ดังนั้น การที่มีข่าวเยอะมันอาจจะมาจากประเทศต้นทางเป็นหลัก แล้วสื่ออังกฤษก็เอามาเล่นต่อ บวกรวมกับประไมค์และเหยี่ยวข่าวในเวบนี้แปลข่าวกันเยอะมันก็เหมือนข่าวมันเยอะทำให้เดอะค๊อปออกแนวหวั่นใจ

ดังนั้น ผมคิดว่าคนที่เป็นเดอะค๊อปควรจะหนักแน่น แม้ด้วยความเชื่อส่วนตัวแบบลึกๆ โดยมีข้อเท็จจริงในเรื่องข้อมูลสนับสนุนนิดหน่อยคิดว่าลิเวอร์พูลมีแววต้องเสียมิดฟิลด์คนสำคัญอย่างอลองโซ่ไปค่อนข้างแน่ เพราะเหมือนกับว่าตัวนักเตะเองอยากย้าย แม้นักเตะเองไม่เคยออกมาบอกแบบตรงๆ ว่าอยากย้ายทีม แต่มันก็อาจเป็นไปได้ว่าเขาไม่อาจพูดอย่างนั้นออกมาได้แบบตรงๆ ก็เป็นได้ และเหตุที่เรื่องการย้ายทีมของอลองโซ่มันล่าช้าอาจเป็นเพราะเงื่อนไขที่ลิเวอร์พูลทำไว้กับสังกัดเก่าของคุณชายอย่าง รีล โซซีดัด ที่ต้องแบ่งส่วนแบ่งการย้ายทีมจำนวน 20% ให้ และข้อตกลงอันนี้จะสิ้นสุดในวันที่ 18 ก.ค. นี้ ตรงนี้ลิเวอร์พูลคงหวังที่จะรับเงินเต็ม ส่วนในรายของมาสเคราโนนั้นในความคิดผมเห็นว่าน่าจะมีโอกาสอยู่กับทีมต่อไปมากกว่า เพราะบางทีมันอาจจะเป็นเกมส์ของภรรยาน้องมาสค์และเอเยนต์ที่ต้องการให้มาสค์ได้ค่าเหนื่อยเพิ่มก็เป็นไปได้ เนื่องจากตอนนี้กัปตันทีมชาติอาร์เจนตินารับค่าเหนื่อยกับหงส์อยู่ที่ประมาณ 30,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์เท่านั้น น้อยที่สุดคนหนึ่งในบรรดานักเตะหงส์แดง และการเพิ่มค่าเหนื่อยน่าจะเป็นทางออกของทั้งลิเวอร์พูลและมาสเคราโน บวกกับทำให้ภรรเมียน้องมาสค์พอใจ คนอะไรเพิ่งจะปรับตัวในอังกฤษไม่ได้หลังจากอยู่เมอร์ซี่ไซด์มาสองปีกว่า



แต่เราต้องอย่าลืมว่าเรื่องการย้ายทีมของทั้งสองมิดฟิลด์มันยังไม่เกิดขึ้น ดังนั้น อย่าเพิ่งกลัว และหากว่ามันเกิดขึ้นจริง ผมมองว่ามันก็ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก ไม่มีนักเตะคนใดในทีมลิเวอร์พูลที่หาคนมาทดแทนไม่ได้ และคนที่สำคัญกับลิเวอร์พูลจริงๆ คือคนที่ชื่อ “ราฟา เบนิเตซ” ต่างหาก ผมมองว่าการที่ทีมเล่นเป็นระบบ เล่นเข้ากันได้ดีเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่มันเกิดจากการที่ราฟาวางระบบเอาไว้ ดังนั้น หากระบบมันอยู่ตัว เขาก็แค่หานักเตะในแบบฉบับที่เขาต้องการมาสวมในตำแหน่งที่ขาดหายไปก็เท่านั้น คนอย่างราฟาล้ำลึกกว่าคนอื่นมากนัก เขาคงมองไว้แล้วว่าหากต้องเสียทั้งอลองโซ่และมาสเคราโน่ไปจริงๆ สามารถหานักเตะมาทดแทนได้อยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่น หากต้องเสียน้องมาสค์ให้กับบาร์เซโลน่าไป ในทีมบาร์เซโลน่าเองก็ยังคงมีนักเตะตัวรับเอาไว้ให้เจรจาต่อรองดึงมาทดแทนได้ถึงสองคนอย่าง ยาย่า ตูเร่หรือมิดฟิลด์ดาวรุ่งทีมชาติสเปนนาย เซอร์จิโอ บาสเกซ ซึ่งครั้งหนึ่งก็เคยมีข่าวว่าราฟาสนใจเช่นกัน แต่ในรายของอลองโซอาจคาดเดาคนที่จะมาทดแทนได้ลำบากหน่อย แต่ผมคิดว่าจะเป็นนักเตะที่ทุกคนคาดไม่ถึงและกำลังพุ่งขึ้นมา ยกตัวอย่างเช่น มิดฟิลด์บราซิลเลียนดาวรุ่งวัย 21 ปีของทีมปอร์โตที่ชื่อเฟอร์นานโด หรืออาจเป็นคนอื่นก็เป็นไปได้ แต่ที่แน่นอนเลยก็คือราฟาได้มองหาคนที่จะมาทดแทนไว้แล้ว เพราะมันคือสิ่งที่กุนซือผู้ยิ่งใหญ่เขาทำกัน



สำหรับผมเมื่อมองไปยังทีมคู่แข่งฤดูกาลใหม่ยิ่งทำให้อุ่นใจขึ้นไปอีก เพราะทีมอย่างแมนฯ ยู ไม่มี คริสเตียนโน โรนัลโด ที่ลงสนาม 196 นัด ยิง 84 ประตู รวมถึงนักเตะตัวทีเด็ดอย่าง คาร์ลอส เตเบซ อยู่ในทีมแล้ว แม้ใครจะบอกว่าทีมผีแดงเป็นบอลระบบแต่คงไม่มีใครปฏิเสธได้หรอกครับว่าผีแดงได้ขาดตัวทีเด็ดในการทำประตูไปแล้ว และนั่นจะส่งผลไม่มากก็น้อย เชลซีเปลี่ยนกุนซือใหม่เป็นคาร์โล อัลเซล็อตติ ซึ่งมาสู่ลีกใหม่ต้องใช้การปรับตัวทั้งสไตล์การทำทีมและการสื่อสารกับลูกทีม อาร์เซนอลไม่ได้เสริมทีมมากนักได้กองหลังเบลเยี่ยมเข้ามาเสริมทีมคนเดียว ทีมเศรษฐีใหม่อย่างแมนฯ ซิตี้ก็เอาแต่เสริมเกมส์รุกแต่แผงกองหลังก็ยังเป็นตัวเดิมอยู่จนถึง ณ ตอนนี้ รวมถึงกุนซืออย่างมาร์ค ฮิวส์ก็ยังไม่ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นกุนซือจอมขมังเวทย์แต่อย่างใด หากผลการแข่งขันไม่เป็นใจโอกาสที่จะมีการเปลี่ยนกุนซือกลางคันในฤดูกาลหน้ามีสูง แต่ลิเวอร์พูลยังคงมีโคตรกุนซือที่ได้รับการการันตีฝีมือเรียบร้อยแล้วอย่าง “ราฟา เบนิเตซ” คุมทีมเช่นเดิม และสิ่งที่อยู่ในสมองของเขานั่นแหละคืออาวุธเด็ด ดังนั้น อย่าไปกลัวในสิ่งที่ยังไม่เกิด ตราบใดที่เรายังมีเอลบอสคนนี้อยู่ข้างสนาม

Keeping the faith...................................

ขอบคุณบทความดีๆจาก hongmarnz ++

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์