ไทเบก!นิโก้-แลมพ์เบิ้ลเชลซีต้อนตือแมวโหด 7-2

ไทเบก!นิโก้-แลมพ์เบิ้ลเชลซีต้อนตือแมวโหด 7-2

สาบานได้ว่าขาดนักเตะตัวหลักยกแผงหลังเชลซีเปิดบ้านไล่ถล่มซันเดอร์แลนด์หมดสภาพแมวถึง 7-2 โดยนิโกลาส์ อเนลก้าควงแลมพ์เหมาสองกลับมาคืนฟอร์มรั้งจ่าฝูงอย่างเหนียวแน่น

พรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 16 มกราคม 2553


เชลซี 7-2 ซันเดอร์แลนด์

ประตู : 1-0 อเนลก้า น.8,2-0 มาลูด้า น.17,3-0 อ.โคล น.22,4-0 แลมพาร์ด น.34,5-0 บัลลัค น.52,5-1 เซนเด้น น.56,6-1 อเนลก้า น.85,7-1 แลมพาร์ด น.90,7-2 เบนท์ น.90+2


ครึ่งแรก

แค่นาทีเศษเชลซีเกือบได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากลูกสวนกลับที่กองหลังซันดอร์แลนด์โขกลูกโด่งไม่ดีไปเข้าทางโจ โคลที่วิ่งเติมเกมขึ้นมาโขกกลับให้มาลูด้าตรงระยะ 30 หลาก่อนที่ปีกเลส เบลอส์จะเขกให้โจ โคลหลุดเข้าเขตเดี่ยวๆแต่ดันแตะยาวและ

นิโก้ลากหนีประตู 1-0
อย่างไรก็ตามนาทีที่ 8 เชลซีขึ้นนำ 1-0 จากลูกทำชิ่ง 3 ครั้งเริ่มจากโจ โคลลากผ่านกลางสนามขึ้นมาแล้วฝากบอลให้บัลลัคที่แทงทะลุช่องจังหวะเดียวแบบไม่ต้องคิดไม่ต้องมองจนอเนลก้าวิ่งสอดทะลุตัดหลังลอริค ซาน่าที่เอาแต่ยกมือยืนเฉยๆไม่ตามก่อนหอกพเนจรจะลากหนีฟูล็อปเข้าไปยิงง่ายๆ

มาลูด้าโซโล่เดี่ยว 2-0
พอได้ลูกแรกทีนี้เชลซีเล่นกันสบายๆครองบอลเยอะต่อบอลกันเนียนและนาที 18 มาได้ลูกสองจากจังหวะที่รับบอลตรงกลางสนามแล้วเจอตัวประกบเข้าเร็วจนเสียหลักเหมือนจะไปไม่รอดแต่ยังเกี่ยวบอลพลิกหนีกระชากไปตรงๆหลบ 2 คนแล้วจี้เข้าหาเขตโทษ+สับขาหลอกชั้นนึงแล้วตัดสินใจยิงด้วยอีขวาทะลุสองตัวบล็อกที่เอาแต่ถอยหลังบอลพุ่งเลียดเสียบหน้าต่างไกลเข้าไปสวยงาม ง่ายดายอะไรเช่นนี้

แมวโต้ได้ลุ้น
นาที 21 จอร์จ แม็คคาร์ธีย์ส่องไกลนอกเขตโทษด้วยอีซ้ายบอลพุ่งวาบเฉี่ยวคานแบบเสียวพอสมควรแต่ปีเตอร์ เช็กได้ลูกเก๋ายืนยกมือดูบอลข้ามออกหลังไป

ต่อบอลเทพเชลซี 3-0
แต่ภาพตัดกลับมาสิงห์ไฮโซหนีห่างอย่างรวดเร็ว 3-0 และต้องบอกว่าเป็นการเล่นแบบใช้เซนส์บอลและทีมเวิร์คเมื่อมาลูด้าแปะบอลคืนให้เจทีตรงกลางสนามเยื้องๆฝั่งซ้ายก่อนที่กัปตันทีมจะแปสวนตูมเดียวติดไซด์โด่งตัดหลังแบ็คให้แอชลีย์ โคลวิ่งพรวดเข้าเขตโทษแล้วดูดบอลราวกับเมสซี่ก่อนเงยหน้ามองกรอบประตูพร้อมง้างอีกซ้ายแล้วล็อกจนตาน่าสไลด์บล็อกลมทะลุออกสี่แยกหายไปเลยและเป็นดาวเตะทีมชาติอังกฤษที่ยิงงัดข้ามตัวฟูล็อปเข้าไป สุดคลาสสิคทีมเวิร์คน่าอิจฉาจริงๆ

โคลคล้ำเปิดแลมพ์ซัด 4-0
บอลสู้กันไม่ได้เลยนาที 34 เชลซีปิดกล่องนำ 4-0 จากการเปิดบอลของแอชลีย์ โคลย้อยให้โคลหล่อวิ่งมาจะโขกที่เสาแรกแต่บอลโด่งไปแล้วแลมพาร์ดวิ่งมาสไลด์ยิงแปเข้าไปเลย แต่ละลูกไม่มั่วไม่ขลุกขลิก ฝีมือล้วนๆ อีกข้อได้เปรียบของการยิงเยอะตุนแบบนี้คือดาวรุ่งจะได้ลงสนามเป็นเนื้อเป็นหนังไม่ใช่นั่งยิ้มทั้งเกมหรือลง 2-3 นาที

ครึ่งหลัง

นิโก้ยิงช็อตวิงนิ่ง
เล่นมา 4 นาทีอเนลก้าทำช็อกทั้งสนามหลังเพื่อนวิ่งข้ามหลอกให้ก่อนจับแล้วยิงไกลระยะ 25 หลาบอลพุ่งเป็นกระสุนฟูล็อปบินปัดเฉี่ยวนิ้วบอลชนคานแล้วชนเสาก่อนกองหลังเคลียร์ทิ้ง ถ้าเข้านี่งามหยดจริงๆ

แมวโคตรเน่าโดนเม็ดห้า
แต่นาที 52 กองหลังซันเดอร์แลนด์โชว์ความเป็นอนุบาลสุดๆหลังปล่อยให้โจ โคลเลี้ยงช้าๆขึ้นมาตรงริมกรอบโทษฝั่งขวาก่อนเปิดเข้าในเขตโทษให้บัลลัควิ่งมาโขกดื้อๆตรงระยะ 6 หลาทั้งๆที่มีกองหลังยืนอยู่ในเขตโทษ 3-4 คน 5-0 แล้ว

เซนเด้นตีไข่แตก
เกมมีประตูอีกแล้วหลังอีก 4 นาทีต่อมาโจนส์โขกชงให้เซนเด้นเด็กเก่าเชลซีวางเท้าซัดด้วยอีซ้ายกระเด้งพื้นทะลุตัวอเล็กซ์เสียบมุม หมดสิทธิ์เช็กจะทำอะไรได้ ตามมาห่างๆ 5-1

นิโก้เบิ้ล เชลซีครึ่งโหล
ไปสะกิดรังแตนเข้าทีนี้แมวดำโดนลูก 6 ในนาที 65 จากลูกที่เชอร์คอฟฟ์เปิดย้อยจากปีกซ้ายเป็นฟูล็อปที่ทำดีมาตลอดตัดบอลลั่นทำให้อเนลก้าเก็บตกยิงสบายเกือบ

อเนลก้าชวดแฮทริค
นาที 76 นิโก้น่าจะทำแฮทริคได้หลังมาลูด้าเปิดบอลจากริมกรอบโทษมาที่จุดนัดพบ 6 หลาเป็นอเนลก้าวิ่งมาแปโล่งๆเน้นๆแต่เบาและตรงตัวฟูล็อปที่ล้มตัวเซฟทั้งมือทั้งขาบนเส้นเหลือเชื่อ

โคลหล่อโขกชนเสา
ก่อนหมดเวลา 5 นาทีเชลซีน่าจะได้ลูกที่ 7 ปิดท้ายหลังอเนลก้าซัดฟรีคิกแฉลบบอลย้อยเข้าเขตโทษแล้วเพื่อนโขกชงตั้งย้อยจากเสาแรกไปให้โจจ โคลวิ่งมาเขกเผาขนเหน่งๆบอลชนเสาซะงั้น

เอ้ายิงกันเข้าไปท้ายเกมมีสองลูกจบเกม 7-2
ท้ายเกมกลับมีสองประตูให้ได้ชมกันโดยนาที 90 อเนลก้าเปิดบอลจากริมกรอบโทษยัดเลยไปให้แลมพาร์ดโขกจากระยะ 10 หลาบอลพุ่งผ่านมือฟูล็อปเข้าไปจากนั้นทดเจ็บนาทีที่ 2 ลูกขลุกขลิกทำให้เบนท์ยิงเผาขนจบเกมชนะกันเยอะมโหฬาร 7-2 ทำให้เชลซียังนำฝูงต่อไปมี 48 แต้มจาก 21 นัดยิงได้ทั้งหมด 52 ลูกน้อยกว่าอาร์เซนอลแค่ประตูเดียวแล้ว

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

เชลซี :
ปีเตอร์ เช็ก,บราสิลาฟ อิวาโนวิช,ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่,จอห์น เทอร์รี่,แอชลีย์ โคล,มิชาเอล บัลลัค,ชูเลียโน่ เบลเล็ตติ,แฟร็งค์ แลมพาร์ด,โจ โคล,นิโกลลาส์ อเนลก้า,ฟลอร็องต์ มาลูด้า

ซันเดอร์แลนด์ : มาร์ตอน ฟูล็อป,ฟิลิป บาร์ดสลีย์,โลริค คาน่า,เปาโล ดา ซิลวา,จอร์จ แม็คคาร์ทนีย์,สตีด มัลบร็องก์,จอร์แดน เฮนเดอร์สัน,เดวิด เมย์เลอร์,ดาริล เมอร์ฟีย์,ดาร์เรน เบนท์,เคนวิน โจนส์


















_________________


ขอบคุณ :SoccerSuck :



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์