เชลซีแชมป์!แมลสาบแฮทริคยิงไส้แตก 8-0




เชลซีโหดตั้งแต่ต้นจนจบหลังเปิดบ้านไล่ถล่มวีแกน 10 ตัวแบบไม่ต้องให้กองแช่งได้ลืมตาอ้าปาก 8-0 โดยดิดิเยร์ ดร็อกบาทำแฮทริคคว้าดาวซัลโวฉลองร่วมกับแชมป์พรีเมียร์ลีกที่ยิงรวมเกิน 100 ลูกสุขกันหลายเด้ง

พรีเมียร์ลีกนัดปิดฤดูกาล

วันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคม 2553


เชลซี 8-0 วีแกน

ประตู : 1-0 อเนลก้า น.6,2-0 แลมพาร์ด น.32(จุดโทษ),3-0 แลมพาร์ด น.32,4-0 กาลู น.54,5-0 ดร็อกบา น.63,ดร็อกบา น.68(จุดโทษ),3-0 ดร็อกบา น.80,8-0 อ.โคล


ครึ่งแรก

เชลซีนำเร็ว 1-0
เล่นมาแค่ 6 นาทีเชลซีได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากจังหวะยิงฟรีคิกไกล 25 หลาของดร็อกบาพุ่งชนกำแพงบอลโด่งล้นมาเข้าทางเป็นแลมพาร์ดโขกย้อนเข้าเขตโทษให้มาลูด้าที่ยืนไลน์เดียวกับกองหลังตัวสุดท้ายพิงแล้วพักอกให้อเนลก้าจิ้มยิงจ่อๆเข้าไป 1-0

เดอะ ลาติกส์วิ่งสู้
วีแกนเองก็ไม่ได้งอมืองอเท้าจะมาเล่นแก้บนให้เชลซีเหยียบหัวเป็นแชมป์ง่ายๆและเปิดเกมรุกสู้จนทำให้แบ็คโฟว์ของเจ้าถิ่นร้อนรนไปหลายจังหวะแต่โดยรวมแล้วยังเข้าทำได้ไม่จะแจ้งเท่าไหร่นัก

เชลซีเล่นเน้นผล
โอกาสของทั้งสองทีมอยู่ดีๆก็หายไปเลยเพราะเชลซีเล่นแบบเน้นผลไม่ผลีผลามเพราะได้ลูกขึ้นนำเร็วไปก่อนแล้ว งานนี้แฟนๆอาจต้องอดทนกันนิดเพราะนักเตะเองก็มีอาการเกร็งในบางจังหวะ

แมลงสาบเปิดเหน่งๆติดหัว
นาที 26 ดร็อกบาหลุดล้ำหน้าหลุดขึ้นมาทางปีกซ้ายก่อนกระชากหนีบอยซ์จนถึงเส้นหลังในเขตโทษแล้วตบบอลย้อยจะให้มาลูด้ากับอเนลก้าแต่คัลด์เวลล์ยืนดักทางโขกทิ้งก่อนไม่งั้นงานเข้าแน่

จบแล้ว!วีแกน 10 ตัวโดน 2-0
แต่แล้วอีก 5 นาทีต่อมาแลมพาร์ดกระชากเข้าเขตโทษหนีคัลด์เวลล์ตัวสุดท้ายที่ดึงรั้งกันจะแจ้งหัวคมำผู้ตัดสินชูใบแดงไล่ออกทันทีและเป็นมิดฟิลด์หน้าใสลุกขึ้นมายิงผ่านมือพูลิตต์ที่พุ่งถูกทางแต่ไม่ทัน 2-0 แล้ว!! แต่ดร็อกบาก็มีงอนที่ขอยิงจุดโทษลุ้นดาวซัลโวแต่แลมพ์บอกไม่ให้

ช่วงเวลาที่เหลือวีแกนเล่นประคองตัวจนหมดครึ่งแรกตามหลัง 2-0 แถมตัวผู้เล่นน้อยกว่าอีกด้วย

ครึ่งหลัง

แลมพ์+กาลูทำชิ่งหอไอเฟ่ล 3-0
วีแกนพยายามบู๊สู้แต่เล่นมา 8 นาทีเจอลูก 3 และต้องบอกว่าเป็นเซ้นส์ของนักเตะแค่ 2 คนจากจังหวะที่แลมพาร์ดฝากบอลให้กาลูจังก้ากับตัวประกบตรงหน้าเขตโทษแล้วมิดฟิลด์หน้าใสวิ่งตีโค้งอ้อมทำทางให้ไปตรงด้านริมกรอบโทษจนกาลูแตะให้และเป็นแลมพ์ที่วิ่งมาตบบอลเลียดย้อนให้กาลูแตะแล้วจิ้มเผาขนเข้าไปอย่างงดงาม เป็นทีมเวิร์คที่สุดยอดเอามากๆ

ไหลโจ๊ก 4-0
วีแกนโดนเข้าไปลูกนี้ถึงกับไหลเพราะอีก 3 นาทีต่อมาหรือในนาที 57 มาได้ลูก 4 จากจังหวะทุ่มเป็นแลมพ์วิ่งมาแล้วปล่อยหลอกให้อิวาโนวิชเล่นต่อก่อนเปิดย้อยข้ามไปเสาสองให้อเนลก้าวางเท้าวอลเลย์ตามน้ำกดลงพื้นกระเด้งผ่านมือพูลิตต์เสียบหน้าต่างไกลเข้าไปสวยแสด

เพื่อนปั้นดร็อกแต่ยิงเฉี่ยว
ผ่านมาหนึ่งชั่วโมงโจ โคลตัวสำรองได้บอลตอนสวนกลับแล้วมีดร็อกบาคนเดียววิ่งทำทางสอดเข้าเขตโทษเลยไหลให้ก่อนที่หอกแมลงสาบจะเบียดกับโกฮูรี่ก่อนพลิกยิงหักข้อบอลพุ่งผ่านเสาไกลแบบน่าเข้าเหลือหลาย ตอนนี้เพื่อนช่วยกันปั้นดร็อกให้เป็นดาวซัลโวให้ได้

ดร็อกมาแล้ว 5-0 เชลซีกดเม็ด 100
แต่แล้วดร็อกบามาทำประตูให้ตัวเองจนได้ในนาที 63 จากลูกที่แอชลีย์ โคลเปิดบอลย้อยเข้าเขตโทษให้ดร็อกบาตีลังกายิงสุดสวยแต่พูลิตต์ล้มเซฟบนเส้นเหลือเชื่อแล้วบอลยังไม่ตายแลมพ์มาเก็บตกตรงเส้นหลังก่อนงัดข้ามไปเสาสองให้ดร็อกบาเพื่อนรักโถมมาโขกเต็มๆเข้าไป 5-0 เป็นลูกที่ 100 ของเชลซีในฤดูกาลนี้อีกด้วย!!

ดร็อกยิงจุดโทษ 6-0
นาที 68 แอชลีย์ โคลถูกทำฟาว์ลในเขตโทษผู้ตัดสินชี้แบบไม่ลังเลและครวานี้แลมพ์บอกให้ดร็อกบายิงก่อนซัดหลอกพูลิตต์บอลชนเสากระเด้งเข้าไปมันตีน 6-0 และเป็นลูกที่ 28 ของหอกไอเวอรี่โคสต์อีกด้วย

แมงสาบแฮทริค 7-0 !!
นาที 80 ดร็อกบาอารมณ์ดีเฮฮาสุดๆหลังกดแฮทริคหลังซ้ำจ่อๆลูกที่โจ โคลสไลด์ยิงจังหวะแรกติดเซฟพูลิตต์ ดาวซัลโวแน่นอนแล้วเพราะเวย์น รูนีย์ถูกเปลี่ยนตัวออกอีกสนามนึง

โคลคล้ำยิงปิดท้าย 8-0
ทดเจ็บนาทีแรกเชลซียังโหดไม่เลิกหลังโจ โคลไปนัวเนียแย่งบอลในกรอบเขตโทษแถวๆเส้นหลังแบบเอาเป็นเอาตายและน่าจะฟาว์ลด้วยแต่ผู้ตัดสินให้เล่นต่อแล้วเป็นโคลหล่องัดบอลข้ามไปเสาสองให้แอชลีย์ โคลวิ่งมายิงด้วยอีซ้ายตามน้ำบอลเบียดเสาตุงตาข่ายไปสุดหยดหย้อย 8-0

หมดเวลาเชลซีต้อนมันตีน 8-0 คว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 4 สมใจอยากและคาร์โล่ อันเชล็อตติกลายเป็นผู้จัดการทีมคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่นำทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุด

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

เชลซี :
ปีเตอร์ เช็ก,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช(เบลเลตติ น.59),อเล็กซ์,จอห์น เทอร์รี่,แอชลีย์ โคล,แฟร็งค์ แลมพาร์ด,มิชาเอล บัลลัค(มาติช น.70),ฟลอร็องต์ มาลูด้า,ซาโลมง กาลู (จ.โคล น.58),ดิดิเยร์ ดร็อกบา ,นิโกลาส์ อเนลก้า

วีแกน : ไมเคิ่ล พูลิตต์,มาริโอ เมลช็อต,สตีฟ โกฮูรี่ ,แกรี่ คัลด์เวลล์ ,เมย์นอร์ ฟิกูเอรัว,เอเมอร์สัน บอยซ์,เจมส์ แม็คคาร์ธีย์,เบน วัตสัน(โธมัส น.61),โมฮาเหม็ด ดิยาเม่(ชาร์เนอร์ น.72),ชาร์ลส เอ็นซอกเบียร์ ,ฮูโก้ โรดาเญก้า











_________________
##### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์