เจ๊า0-0!!สิงห์ปืนฝืดยิงไม่ออก หนีผี5แต้ม




เหนียวสมชื่อ!เชลซีเจอลูกโลกต้าน 0-0 หนีผีแค่ 5


เบอร์มิงแฮม ซิตี้รัดกุมแข็งแกร่งสมชื่อเมื่อรวมพลังต้านเชลซีอย่างแข็งขันจนจบเกมแบ่งแต้มกับเชลซีไปได้ด้วยสกอร์ 0-0 ทำให้ สิงห์ไฮโซ ทำคะแนนหนีแมนฯยูไนเต็ดรองฝูงแค่ 5 แต้มและแข่งมากกว่า 1 นัด

พรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม 2552(วันบ็อกซิ่งเดย์)


เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 0-0 เชลซี

ประตู : -


ฮา..ขาวมาเลยนะเชลซี !!
ใส่ดำขลิบชมพูแล้วแพ้มันดะงานนี้สงสัย สิงห์ไฮโซ จะนับถือโชคลางเหมือนกันด้วยมาดใหม่เสื้อสีขาวล้วนขลิบดำตรงกลาง น่าสนใจว่าจะแก้อาถรรพ์เสื้อเยือนได้หรือไม่..

ดร็อกทิ้งทวน-สเตอร์ริดจ์ตัวจริง
สิงห์ไฮโซ เชลซีจำต้องฝากความหวังไว้กับแดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ดาวรุ่งผิวสีที่จะต้องแบกรับหน้าที่พังประตูคู่กับนิโกล่าส์ อเนลก้าในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ดังนั้นวันนี้คาร์โล อันเชล็อตติจึงทดลองเอากองหน้าดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษมายืนคู่ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ที่จะต้องบินไปแองโกล่าเพื่อเก็บตัวฝึกซ้อมกับทีมชาติโก้ต ดิวัวร์ ในวันพรุ่งนี้แล้ว

ครึ่งแรก

เบิร์มเริ่มดุจริงๆ
ลูกโลก เจ้าบ้านแสดงให้เห็นแล้วว่าไม่ได้มีไว้เคี้ยวง่ายๆ เพียงแค่ครึ่งนาทีเท่านั้นเฟอร์กูสันวางบอลยาวจากกลางสนามให้เจอโรมแต่งบอลแล้วได้หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษแต่ข้ามคานโดยที่มีอเล็กซ์คอยวิ่งไปขวางไว้ทัน

หลังจากนั้นเป็นเชลซีทีมเยือนที่กลับมาพับสนามบุกตามฟอร์มโดยขึงเกมเอาไว้ทั้งหมดจนถึงนาทีที่ 5 แอชลี่ย์ โคลได้บอลตรงหน้าเขตโทษก่อนถ่ายขวางสนามให้อิวาโนวิชจับแล้วยิงไกลแต่บอลออกหลังไป

อีว่าได้โขกข้ามคาน
ผ่านมา 10 นาทีเชลซียังครองเกมได้อย่างสิ้นเชิงและได้เตะมุม แฟร้งค์ แลมพาร์ดเปิดเข้ามาให้อิวาโนวิชหาจังหวะขึ้นโขกเหนือคาร์แต่บอลข้ามคานออกไปแบบเฉียดฉิว

เชลซียังคงถ่ายบอลกดดันไป-มาหวังยิงประตูนำกันให้ได้แต่จนถึงนาทีที่ 16 แข้งเบอร์มิงแฮมก็ยังมีสมาธิตั้งรับอย่างแข็งขันจนแฟร้งค์ แลมพาร์ดต้องลองจบด้วยการยิงไกลแต่บอลเหินข้ามคานออกไป

ผ่านมาอีก 2 นาทีเชลซีได้ลุ้นอย่างน่ากลัวเมื่อพวกเขาโยนบอลมาทางกราบซ้ายแล้วริดจ์เวลล์ไม่ทันระวังเลยโดนเบลเล็ตติโฉบมาข้างหลังแล้วพุ่งโขกแต่บอลก็เข้าข้างตาข่าย

หายไปจากเกมตลอด 20 นาทีแต่พอได้โอกาสทีดร็อกบาเกือบทำได้เมื่ออิวาโนวิชเปิดบอลทางด้านขวาให้ เดอะ ดร็อก วิ่งเข้ามายิงจังหวะแรกแต่บอลหลุดกรอบ

ผ่านมาอีกสองนาทีสเตอร์ริดจ์เกือบแจ้งเกิดเมื่อบอลไหลมาเข้าทางแล้วได้ยิงด้วยซ้ายเน้นๆในกรอบเขตโทษแต่โจ ฮาร์ท ปัดปลายมือออกไปได้แบบใจหายใจคว่ำ

แลมพ์ซัดจ่อๆฮาร์ทเซฟเยี่ยม
นาทีที่ 28 เชลซีได้โอกาสทองที่สุดในครึ่งหลังเมื่ออิวาโนวิชเปิดบอลทะลุช่องมาให้แลมพาร์ดแล้วเบอร์มิงแฮมเช็คล้ำหน้าพลาดทำให้ แลมพ์ ได้หลุดเข้าไปยิงเต็มหลังเท้าแต่ฮาร์ทรู้ทันพุ่งปัดได้สวย

เบิร์มยิงเข้าแต่ล้ำหน้า
นาทีที่ 31 เบอร์มิงแฮมส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้สำเร็จแต่ไม่ได้ประตู เมื่อคาร์เปิดบอลจากกลางสนามขึ้นมาให้แดนน์โหม่งตั้งเข้ามาให้ริดจ์เวลล์หลุดเข้าไปแปบอลกึ่งยิงกึ่งผ่านบอลผ่านเช็กไปแล้วแต่ ชูโช่ เบนิเตซดันหวังดีไปเมคชัวร์แตะบอลจังหวะสุดท้ายเข้าประตูซึ่งผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงทันทีเพราะเบนิเตซล้ำหน้าไปแล้ว แล้วถ้าเกิดเบนิเตซปล่อยบอลให้ค่อยๆไหลเข้าประตูไม่ไปสัมผัสบอล ลูกโลก น่าจะได้ประตูขึ้นนำไปแล้ว แถมน่าจะเป็นประเด็นถกเถียงอีกว่า เบนิเตซล้ำหน้าจริงๆหรือไม่ เพราะดูไลน์แล้วก้ำกึ่งเหลือเกิน

อเล็กซ์ซัดฟรีคิกแม่นคาน
ช่วงนี้กลับกลายเป็นเบอร์มิงแฮมได้โอกาสครองบอลบุกบ้างแต่ สิงห์ไฮโซ ก็สวนกลับอย่างน่ากลัวได้หลายครั้งจนนาทีที่ 40 เชลซีได้ฟรีคิกตรงกลางประตูแล้วเป็นอเล็กซ์ที่ยิงอัดเต็มหลังเท้าแต่บอลชนคานดังปังลั่นสนาม

เบลเล็ตติโขกเสียวท้ายครึ่ง
เชลซีมามีลุ้นในช่วงทดเจ็บครึ่งแรกอีกครั้งเมื่อมาลูด้าเปิดฟรีคิกจากริมเส้นฝั่งขวาเข้ามาให้เบลเล็ตติโฉบเข้ามาโหม่งแต่บอลเข้ามือฮาร์ท

และในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 2 เชลซีพลาดโอกาสทองอีกครั้งเมื่อดร็อกบาได้บอลหลุดมาทางด้านขวาแล้วเปิดเข้ากลางให้สเตอร์ริดจ์เข้ามาแปโล่งๆในเขตโทษแต่วางเท้าไม่ดีบอลเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว

จบครึ่งแรกยังเสมอกันไปแบบสนุก 0-0

ครึ่งหลัง

ครึ่งหลังเกมยังคงสูสีผลัดกันบุกกระทั่งนาทีที่ 58 เบอร์มิงแฮมได้โอกาสเมื่อเบนิเตซได้บอลริมเขตโทษฝั่งขวาแล้วเขยิบจี้อเล็กซ์ก่อนแตะหลบเข้าซ้ายแล้วยิงอัดแต่เทอร์รี่ใช้หัวบล็อกออกมาได้

เช็คซูเปอร์เซฟฟรีคิกแต่เจ็บศีรษะ
จังหวะที่ใกล้เคียงที่สุดของเจ้าถิ่นเมื่อได้ฟรีคิกในนาทีที่ 62 แล้วลาร์สสันปั่นด้วยขวาบอลจะมุดสามเหลี่ยมอยู่แล้วแต่เช็กซูเปอร์เซฟบินปัดออกไปแล้วศีรษะไปจนเสาบาดเจ็บต้องปฐมพยาบาลไปเกือบ 2 นาทีด้วย

นาทีที่ 67 เชลซีได้โอกาสบ้างเมื่อได้เตะมุมเข้ามาก่อนที่เบลเล็ตติจะได้เข้ายิงแต่บอลติดบล็อกเฉี่ยวเสาออกไปอย่างน่าหวาดเสียว

ถัดมาอีก 2 นาทีซาโลมง กาลูตัวสำรองวูบวาบทันทีเมื่อเก็บบอลได้ทางฝั่งขวาแล้วแตะหลบริดจ์เวลล์เข้าเขตโทษก่อนจิ้มเข้ากลางโดนเคลียร์ทิ้งไม่ขาดบอลไหลมาเข้าทางแลมพาร์ดได้ยิงเต็มๆแต่บอลข้ามคาน

มาลูด้าพลาดเหลือเชื่อ
นาทีที่ 70 เชลซีพลาดอย่างเหลือเชื่อเมื่อกาลูได้บอลจี้เข้ามาตรงสุดเส้นใกล้ๆประตูแล้วเปิดเข้ากลางมาแต่มาลูด้าดันยิงแป้กออกอย่างเหลือเชื่อ

ผ่านมาอีกแค่นาทีเดียวเชลซีไหลตามช่องขึ้นมาให้กาลูวิ่งเข้าไปยิงตามน้ำแต่ฮาร์ทเซฟออกหลังได้เยี่ยม

เบิร์มสวนเกือบหาย
เชลซีกำลังบุกเพลินๆแต่นาทีที่ 74 เบอร์มิงแฮมหาจังหวะสวนกลับได้โดยเป็นเจอโรมเลี้ยงหลุดเข้ามาทางซ้ายแล้วมีเทอร์รี่คอยตามคุมเชิงอยู่สุดท้ายเจอโรมแต่งเข้าขวาแล้วยิงแต่ติดเซฟเช็กออกไป

เชลซีงานเข้าท้ายเกมเหลือ 10 คน
นาทีที่ 89 เชลซีต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนเมื่อคาร์กำลังจะเคลียร์บอลออกไปแต่มาลูด้าที่โดนใบเหลืองไปแล้วดันมาเข้าช้าจนโดนเหลืองที่สองต้องออกจากสนามไป

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เบอร์มิงแฮม ซิตี้ : โจ ฮาร์ท , สตีเฟ่น คาร์ , เลียม ริดจ์เวลล์ , สก็อตต์ แดนน์ , โรเจอร์ จอห์นสัน , เซบาสเตียน ลาร์สสัน(เดเมี่ยน จอห์นสัน น.88) , เจมส์ แม็กฟาดเด้น(คีธ ฟาฮีห์ น.78) , แบร์รี่ เฟอร์กูสัน , ลี โบว์เยอร์ , คริสเตียน ชูโช่ เบนิเตซ , คาเมอร่อน เจอโรม

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , แอชลี่ย์ โคล , จอห์น เทอร์รี่ , อเล็กซ์ , จอห์น โอบี มิเกล(มิชาเอล บัลลัค น.85) , ชูเลียโน่ เบลเล็ตติ , ฟลอร็องต์ มาลูด้า , แฟร้งค์ แลมพาร์ด(โจ โคล น.79) , ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา , แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์(ซาโลมง กาลู น.67)













_________________
##### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์