ฮิดดิงค์เปิดซิง..! เชลซีบุกเชือดวิลล่า

ฮิดดิงค์เปิดซิง!เชลซีบุกเชือดวิลล่า

ความร้อยแรงของแอสตัน วิลล่ามาหยุดเอาเกมบิ๊กแมทช์นี่เองเมื่อเสียท่าแพ้เชลซีคาบ้านจากประตูโทนของนิโกลาส์ อเนลก้าในช่วงต้นเกมและนอกจากจะเป็นการพ่ายแพ้ครั้งแรกในรอบ 12 นัดยังเสียอันดับสามให้สิงห์ไฮโซไปเรียบร้อยแล้ว

แอสตัน วิลล่า 0-1 เชลซี

ประตู : 0-1 อเนลก้า น.19

กุส ฮิดดิงค์ประเดิมเกมแรกในเกาะอังกฤษหลังเข้ารับงานแทนหลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ด้วยการจับนิโกลาส์ อเนลก้ายืนคู่ดิดิเยร์ ดร็อกบาแล้วเน้นความแกร่งในแดนกลางที่มีทั้งแลมพาร์ด,มิเกล,บัลลัค

ด้านวิลล่ามีเอมิล เฮสกีย์ที่ผ่านเช็กฟิตโดยมีตัวป่วนอย่างกาเบรียล อักบอนลาฮอร์และแอชลีย์ ยังเป็นตัวป่วนในจังหวะสวนกลับเช่นเดิม

ครึ่งแรก

วิลล่าพยายามใช้ความสูงใหญ่ของเฮสกีย์พักบอลจากลูกครอสยาวก่อนที่อดีตแข้งวีแกนจะป้ายออกปีกให้มิลเนอร์เปิดเข้าเขตโทษมาตรงเสาแรกเป็นเช็กที่ล้มตัวตัดบอลปลิ้นยังดีที่อักบอนลาฮอร์ซ้ำไม่ถนัดเลยเจอเทอร์รี่ช่วยสกัดได้

จากนั้นนาทีที่ 9 แลมพาร์ดยิงไกลบอลข้ามคานแฉลบเพดานตาข่ายจนสั่นแบบได้เสียว เกมช่วงนี้ทีมเยือนดูดีกว่าขึ้นเรื่อยๆการจ่ายบอลดูเนียนตาตรงกันข้ามกับวิลล่าที่เริ่มสเปะสปะในแนวรับ

อย่างไรก็ตามเชลซีมาขึ้นนำในนาที 19 จากลูกต่อบอลเนิ่บๆของโบซิงวาฝากแลมพาร์ดพลิกหนีสองตัวประกบที่เข้าพรวดอย่าสุดสวยก่อนไหลตัดช่องให้อเนลก้าวิ่งสอดแนวรับเข้าไปชิพๆข้ามฟรีเดลล์ที่ทิ้งตัวดักทางแต่บอลมาตรงๆเข้าประตูสุดง่ายดาย ทีมเยือนนำแล้ว 1-0

นาที 32 เชลซีหวิดได้ประตูอีกหลังลูกเตะมุมของแลมพาร์ดเป็นเทอร์รี่โผนโขกเน้นๆตรงระยะ 6 หลาแต่ฟรีเดลล์ล้มตัวปัดบนเส้นสุดเหลือเชื่อ

แต่แล้วอีก 20 กว่าวินาทีเฮสกีย์ถูกทำฟาว์ลตรงระยะ 25 หลาเป็นแอชลีย์ ยังรับหน้าที่สังหารปั่นข้ามกำแพงบอลย้อยไซด์ชนคานกระเด้งลงพื้นก่อนลูกซ้ำแบบครึ่งๆกลางๆของเจ้าถิ่นจิ้มออกหลังไปเอง

เชลซีเหมือนมีปัญหาในการรับมือกับลูกเปิดบอมบ์เข้าเขตโทษจนกองหลังต้องช่วยกันเคลียร์อุตลุดโดยช่วง 6-7 นาทีสุดท้ายเป็นเจ้าถิ่นที่กดดันขึงเกมอยู่ข้างเดียวเพียงแต่ยังไม่มีโอกาสยิงสวยๆเลย หมดครึ่งแรกเชลซีบุกมานำอยู่ 1-0

ครึ่งหลัง

ลูกเตะมุมยังเป็นอาวุธอันตรายของเชลซีไม่เลิกเพราะแค่ 4 นาทีลูกเตะมุมของแลมพ์ให้เทอร์รี่โขกไม่เต็มตรงระยะ 12 หลาแต่บอลย้อยข้ามฟรีเดลล์จนร้อนถึงตัวคุมเสาโขกทิ้งก่อนข้ามเส้น

นาที 53 วิลล่าเกือบตีเสมอจากจังหวะที่เหมือนไม่มีอะไรเพราะลุค ยังวิ่งมาเคลียร์บอลก่อนที่จะออกตรงแบ็คซ้ายแดนตัวเองบอลย้อยมาถึงกรอบโทษฝั่งซ้ายของเชลซีเป็นอักบอนลาฮอร์เบียดกับอเล็กซ์ที่เคลียร์หลักไม่ดีจนเซหลุดตำแหน่งปล่อยให้หอกทีมชาติอังกฤษลากจี้เข้าเขตโทษก่อนยิงล่อเป้าเช็กที่ปรี่ออกมาปิดมุมก่อนปัดตรงเสาแรกบอลออกหลังเสียเตะมุม

เจ้าถิ่นคึกคักทันตาเห็นและลูกเตะมุมย้อยมาเสาสองเป็นมิลเนอร์ยืนจังก้าวอลเลย์ตามน้ำจังหวะเดียวแต่ติดบล็อกออกหลังไปอีกจากนั้นลูกเตะมุมของวิลล่าเป็นเช็กที่ต้องออกมาตบทิ้งพ้นเขตอันตราย เชลซีงานเข้าไปแล้ว!!

เชลซีรู้งานดึงเกมช้าเพราะวิลล่ามีตัวจี๊ดๆเยอะมากแต่จังหวะที่ลูกทีมกุส ฮิดดิงค์พาบอลต่อกันขึ้นมาก็ทำเอาวิลล่าต้องลงไปช่วยกันเกือบหมดเช่นกัน

นาที 68 ปีเตอร์ เช็กเหนียวสมคำร่ำลือหลังลูกวางยาวเป็นเฮสกีย์โขกเช็ดบอลตกพื้นเข้าทางแบร์รี่ที่สับด้วยอีซ้ายหน้ากรอบโทษแต่จอมหนึบร่างโย่งดักทางล้มตัวประสานมือปัดสุดยอด

วิลล่าบุกดุจริงๆนาที 75 ลูกทุ่มตรงปีกซ้ายบอลเข้าเขตโทษเลยมาถึงอักบอนลาฮอร์ที่แตะคืนหลังให้แบร์รี่วิ่งมาใส่ด้วยอีขวาบอลพุ่งน่ากลัวแต่ไปตรงตัวเช็กที่ยืนรับติดหนึบ

เชลซีลงมาช่วยกันรับเต็มตัวเพราะวิลล่านอกจากบุกหนักแล้วจังหวะที่วิ่งไล่ทวงเอาบอลคืนก็ใส่กันทุกคนจนยอดทีมจากลอนดอนต้องทำฟาว์ลหยุดเกมอย่างต่อเนื่อง

ท้ายเกมเชลซีขึงสู้บ้างและได้เสียวอยู่หลายช็อตโดยเฉพาะนาที 83 โบซิงวาได้บอลหน้าเขตโทษก่อนยึกยักแล้วฝากให้ดร็อบาซึ่งยืนหันหลังพิงกับแซท ไนท์ก่อนล้มตัวปาดทำชิ่ง 1-2 ให้แบ็คโปรตุเกสวิ่งมาซัดบอลติดเซฟฟรีเดลล์ที่เอามือป้องหน้าปัดเต็มๆ

ทดเจ็บนาทีแรกเชลซีเกือบได้ลูกสองหลังเดโก้อาศัยความคล่องแงะบอลจากปีกซ้ายที่เจอแข้งวิลล่ารุมสองคนหลุดเข้าเขตโทษก่อนหลบอีกตัวจนไปตบบอลจากเส้นหลังให้แลมพ์แต่เจอกองหลังวิลล่าโหม่งเคลียร์บอลไปเข้าทางบัลลัคที่วอลเลย์ตะบันตามน้ำบนเส้นโทษบอลพุ่งเป็นผีพุ่งใต้แต่ฟรีเดลล์บินปัดข้ามคามไม่งั้นตุงตาข่ายแน่

ช่วงเวลาที่เหลือเชลซีใช้ความเขี้นวในเกมรับที่ช่วยกันวิ่งกดดันและไล่หวดก่อนปิดสกอร์ชนะ 1-0 ขยับแซงวิลล่าขึ้นมาอยู่อันดับ 3 มี 52 แต้มจาก 26 นัดส่วนลูกทีมมาร์ติน โอนีลเตะเท่ากันมีน้อยกว่าหนึ่งแต้ม

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

แอสตัน วิลล่า : แบร๊ด ฟรีเดลล์,คาร์ลอส คูเอลลาร์ ,เคอร์ติส เดวีส์(คาริว น.70),แซท ไนท์,ลุค ยัง,เจมส์ มิลเนอร์,สติลิอัน เปตรอฟ,แกเรธ แบร์รี่,แอชลีย์ ยัง,เอมิล เฮสกีย์,กาเบรียล อักบอนลาฮอร์

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก,โจเซ่ โบซิงวา ,อเล็กซ์,จอห์น เทอร์รี่ ,เปาโล แฟร์เรียร่า,จอห์น โอบี มิเกล,มิชาเอล บัลลัค ,แฟร็งค์ แลมพาร์ด,โซลามง กาลู(เดโก้ น.55),นิโกลาส์ อเนลก้า,ดิดิเยร์ ดร็อกบา(เบลเล็ตติ น.90)




























ขอบคุณข่าวจาก : www.lentee.com