อีวาโนวิชฮีโร่!สิงห์ต่อเวลาบดนาโปลี 4-1ลิ่ว CL สุดมันส์

"สิงห์ไฮโซ" เชลซีคัมแบ็คกลับมาได้อย่างสุดยอดในเกมเลกที่สอง หลังจากดวลกับนาโปลีชนิดไฟแล่บต้องเล่นกันถึงต่อเวลา ก่อนที่จะมาได้อีวาโนวิชทำประตูชัย เอาชนะไปด้วยสกอร์ 4-1 รวม 2 นัดผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปด้วยสกอร์รวม 5-4 ซูฮกเขาเลย

แชมป์เปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลกสอง

วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม 2555

สนาม : แสตมฟอร์ด บริดจ์

เชลซี 4 : 1 นาโปลี
(รวมสองนัดเชลซีผ่านเข้ารอบไปด้วยสกอร์ 5-4)

ประตู : 1-0 ดร็อกบา น.28, 2-0 เทอร์รี่ น.47, 2-1 อินแลร์ น.55, 3-1 แลมพาร์ด(จุดโทษ) น.75, 4-1 อีวาโนวิช น.105

เชลซีคงต้องเน้นเสีย ยิ่งกว่าเน้นในเกมนี้ เพื่อจากนัดแรกพวกเขาบุกไปพ่ายนาโปลีมา 3-1 ทำให้เกมนี้ต้องยิงให้ได้ 2 ประตูขึ้นไป แถมยังต้องระวังไม่ให้เสียเพิ่มอีกต่างหาก

ครึ่งแรก

สเตอร์ริดจ์ยิงโคตรได้ลุ้น
เริ่มเกมมาไม่ถึง 5 นาที เชลซีก็เกือบจะทำประตูได้อย่างใจหวัง เมื่อดร็อกบาพักอกต่อบอลไปให้กับสเตอร์ริดจ์ที่สืบเท้าเข้าซัดเน้นๆในกรอบ เขตโทษ บอลพุ่งเฉียบเข้ากรอบด้วย แต่ก็ไปติดเซฟของผู้รักษาประตูที่ยืนตำแหน่งได้เยี่ยม

นาโปลีสวนคืนทันควัน
อีก 4 นาทีต่อมา เหมือนจะไม่ยอมกันเลยสำหรับทีมเยือน เมื่อมาสร้างโอกาสลุ้นบ้าง จากจังหวะที่ฮัมซิกตวัดยิงบริเวณเกือบๆจะอยู่แถวเส้นกรอบเขตโทษ บอลแฉลบกองหลังนิดหนึง ทำให้เช็กหวิดหลง แต่ยังดีที่ยื่นเท้าสกัดบอลเอาไว้ได้

ทีมเยือนมีโอกาสเรียงกันมา
ไปๆมาๆตอนนี้กลายเป็นนาโปลีที่สร้างโอกาสได้อย่างต่อเนื่อง จากจังหวะของทั้งลาเวซซี่และคาวานี่ แต่ทั้ง 2 ลูกก็ถือว่าไม่ได้ใกล้เคียงมากสักเท่าไหร่กับการจะได้ประตูขึ้นนำ

ชาบูแมลงสาบ!โหม่งโคตรเป๊ะสิงห์ขึ้นนำ
นาทีที่ 28 ประตูแห่งความหวังของเชลซีบังเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งต้องชมการเปิดของรามิเรสด้วย ที่โยกออกไปครอสบอลมาจากทางริมเส้นฝั่งซ้าย บอลพุ่งแรงและคม ก่อนที่ดร็อกบาจะพุ่งเข้าโฉบโหม่งส่งบอลเข้าไปกระแทกตาข่าย พร้อมกับเสียงเฮลั่นของแฟนบอลทั้งสนาม เชลซีมีลุ้นขึ้นมาด้วยการนำ 1-0

สิงห์ลุยต่อจนเกือบได้อีก
เชลซีพอได้ประตูแรง ตอนนี้คึกกันใหญ่ เปิดหน้าบุกใส่นาโปลีไม่ยั้ง จนเกือบจะทำประตูได้อีกจากจังหวะที่สเตอร์ริดจ์เปิดจากด้านข้างผ่านหน้า ประตูไปเสาสองที่มีดร็อกบายืนรอแปเน้นๆอยู่แล้ว แต่เป็นคัมแพ็กนาโร่ที่สะกิดบอลเปลี่ยนทางออกหลังไปได้แบบเฉียดฉิวก่อน

เด็กเก่าหงส์ลงสนาม
นาทีที่ 36 แฟนบอลลิเวอร์พูลที่นั่งดูเกมนี้อยู่คงจะจำกันได้ เมื่อดอสเซน่าอดีตแบ็คหัวไข่ของพวกเขาที่ปัจจุบันเล่นให้กับนาโปลีได้ลงสนาม แทนที่ของมัจโจ้ที่มีอาการบาดเจ็บ

โคตรเฉียด!แมลงสาบเกือบได้แปโล่ง
ในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เชลซีน่าจะได้ประตูขึ้นนำสุดๆ เมื่อเชลซีกดดันแบบไม่ให้นาโปลีได้พักหายใจหายคอ ก่อนที่จะแทงบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ผ่านมือผู้รักษาประตูที่ล้มตัวพยายามจะรับไปได้แล้ว แต่เป็นคันนาวาโร่ที่ล้มตัวสกัดบอลไปเข้ามือของนายด่านเพื่อนร่วมทีมที่ล้ม อยู่ เกือบจะเสร็จดร็อกบาซึ่งยืนรออยู่เสาสองเหมือนเดิมไปแล้ว

จบ 45 นาทีแรก เป็นเชลซีที่ขึ้นนำไปก่อน 1-0 มีความหวังที่จะผ่านเข้ารอบขึ้นมา ถ้าหากว่าพวกเขาสามารถทำได้อีกประตูในครึ่งหลัง

ครึ่งหลัง

สุดตีนโว้ย!เจทีทะลวงประตูเฮ
เริ่มครึ่งหลังมาได้ 2 นาที ฝันร้ายของนาโปลีก็เกิดขึ้น เมื่อเชลซีกดดันเกมต่อเนื่อง จนมาได้ลูกเตะมุม ก่อนที่เทอร์รี่จะโชว์ไม้ตายเก่ง วิ่งเข้าไปโหม่งสะบัดบอลที่เสาแรก ทะแยงไปเสาสอง แม้ว่าซานซ์ติสจะพุ่งแค่ไหนก็ไม่ทัน เชลซีนำ 2-0 ถ้าจบสกอร์นี้เจ้าบ้านเข้ารอบทันที

สิงห์พลาด!นาโปลีตีไข่ได้เปรียบอีก
นาทีที่ 55 ต้องบอกเลยว่าพลาดกันไปเองสำหรับเชลซี เพราะอุตส่าห์ได้ประตูนำห่าง 2-0 แล้ว แต่กลับบุกลุยต่อไม่ได้ ช๊อตไปดื้อๆจนทำให้นาโปลีโหมบุกใส่จนปั่นป่วน แม้ว่าตอนแรกเหมือนจะต้านได้ แต่สุดท้ายก็มาเสียให้กับอินแลร์ที่เก็บตกบอลจังหวะสองหน้าประตู ฮาล์ฟวอลเล่ย์ส่งบอลพุ่งเสียบเสาสองสวยงาม นาโปลีตามมา 2-1 โคตรได้เปรียบ เพราะเชลซียิงแค่ลูกเดียวไม่พอที่จะผ่านเข้ารอบ เพราะต้องไปต่อเวลา

เอาหน่อย!สิงห์หวังพึ่งตอร์เรส
นาทีที่ 63 สถานการณ์อาจสร้างวีรบุรุษได้ เมื่อเชลซีส่งตอร์เรสลงไปจับคู่ในแดนหน้ากับดร็อกบาเพื่อลุ้นอีก 2 ประตูในการการันตีการผ่านเข้ารอบต่อไปและถอดเอาสเตอร์ริดจ์ออก

เซฟเยี่ยม!ดร็อกบาหมุนตัวยิง
อีก 3 นาทีต่อมา ต้องชมความยอดเยี่ยมของผู้รักษาประตูนาโปลีจริงๆ เมื่อดร็อกบาอุตส่าห์ตัวหมุนพลิกวอลเล่ย์หน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งโค้งเข้ากรอบเห็นๆ แต่เดอ ซานซ์ติสก็พุ่งไปปัดทิ้งออกหลังได้เยี่ยม

เช็กเซฟชีวิตสิงห์
นาทีที่ 70 เกือบจะโดนลูกปลิดชีพเข้าไปซะแล้วสำหรับเชลซี เมื่อโคลไปลื่นในกรอบเขตโทษทำให้ซูนิก้าได้แต่งบอลจี้เข้าไปแล้วยิงเน้นๆ แต่ก็ไปติดเซฟของเช็กที่ป้องกันเอาไว้ได้ แถมยังดวงดีที่บอลไม่ไปเข้าทางผู้เล่นนาโปลี

ดอสเซน่าแจกโชค!สิงห์ได้จุดโทษก่อนเฮสนั่น
อีก 5 นาทีต่อมา เชลซีกลับมามีลุ้นกันอีกเฮือก เมื่อพวกเขามาได้ประตูที่ 3 จากจุดโทษที่ดอสเซน่าไปเจตนาทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเห็นเลยจัดการเป่าให้ทันที ก่อนที่แลมพาร์ดจะรับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่เหลือซาก เชลซีนำ 3-1 ถ้าจบสกอร์นี้ต้องมีต่อเวลา

เกมยังเสียวกันทั้งสองฝ่าย
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย งานนี้ออกได้ทุกหน้าเลยสำหรับเกมที่แสตมฟอร์ด บริดจ์ เพราะดูแล้วทั้งสองทีมต่างก็ลุ้นหวังที่จะทำประตูเพื่อที่จะไม่ต้องไปเล่นใน การต่อเวลา เพียงแต่จะออกที่ฝั่งไหนเท่านั้น

จบ 90 นาทีไม่มีการทำประตูกันในช่วงเวลาที่เหลือ ทำให้ต้องมีการต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาทีเพือหาผู้ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป

ต่อเวลาพิเศษ

เริ่มมาได้ไม่กี่นาที ทั้งเชลซีและนาโปลีต่างก็มีโอกาสลุ้นด้วยกันทั้งคู่ เริ่มจากเจ้าบ้านที่เสียวจากลูกโหม่งของอีวาโนวิชที่พุ่งหลุดกรอบไป ส่วนทีมเยือนก็ได้เกร็งกันจากจังหวะวอลเล่ย์ด้วยซ้ายของฮัมซิก แต่ยังไม่มีอะไร

ในนาทีที่ 98 เชลซีก็เปลี่ยนเอาเทอร์รี่ออก หลังจากส่งมาลูด้ามาแทนมาต้าก่อนหน้านี้แล้ว โดยให้โบซิงวาลงไปเล่นแทน เนื่องจากกัปตันจอมแกร่งเล่นต่อไม่ไหวแล้ว เพราะเพิ่งจะหายเจ็บกลับมาได้ไม่นาน

อีก 2 นาทีต่อมา ก็คงยังไม่ได้เหมือนเดิมสำหรับตอร์เรส ที่อุตส่าห์มีโอกาสทอง จากจังหวะที่ผู้รักษาประตูนาโปลีออกมาพรวด จนเหลือแต่ประตูโล่งๆ แต่ก็ต้องบอกว่ามุมค่อนข้างแคบ บวกกับมีกองหลังเข้ามากดดัน ตอร์เรสเลยซัดติดหน้าต่างไป

นาทีที่ 105 ในที่สุดเชลซีก็มาเฮกันเต็มเสียงอีกครั้งหนึง เมื่อพวกเขาได้ประตูที่ต้องการ ต้องชมความยอดเยี่ยมของรามิเรสที่ต่อบอลให้กับดร็อกบา ก่อนที่หัวหอกไอวอรี่ โคสต์ยังพลิกแล้วตวัดต่อให้อีวาโนวิชได้ซัดเหน่งๆเต็มกลางประตู เชลซีทิ้ง 4-1 สุดตีนจริงๆ

ลุ้นกันต่อในช่วงครึ่งหลังของการต่อเวลา ตอร์เรสเองก็มีโอกาสส่องนอกกรอบอีกครา แต่ความมั่นใจยังไม่มี บอลเลยเฉื่อยๆไม่ค่อยอันตรายเท่าไหร่นัก

ช่วงท้ายเกมดร็อกบาน่าจะทำประตูปิดกล่องให้กับทีมได้จากจังหวะสวนกลับ แต่ก็พลาดไป ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมไปด้วยสกอร์รวมสองนัด 5-4 เป็นตัวแทนหนึ่งเดียวจากเวทีพรีเมียร์ ลีก สุดยอดจริงๆ

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี่(โบซิงวา น.98), ดาวิด ลูอิซ, แอชลี่ย์ โคล, บรานิสลาฟ อีวาโนวิช, แฟรงค์ แลมพาร์ด, มิคาเอล เอสเซียง, รามิเรส, ดาเนียล สเตอร์ริดจ์(ตอร์เรส น.63), ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, ฆวน มาต้า(มาลูด้า น.95)

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : รอสส์ เทิร์นบูลล์, ซาโลมอง กาลู, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น โอบี มิเกล

นาโปลี : เดอ ซานซ์ติส, เปาโล คันนาวาโร่, ซัลวาตอเร่ อโรนิก้า(วาร์กาส น.110), ฮูโก้ แคมแพ็กนาโร่, โกคาน อินแลร์, วอลเตอร์ การ์กาโน่, ฮวน ซูนิก้า, คริสเตียน มัจโจ้(ดอสเซน่า น.36), เอดินสัน คาวานี่, เอเซเกียล ลาเวซซี่, มาเร็ค ฮัมซิก(ปานเดฟ น.105)

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : เบลริม เซไมลี่, อันโตนิโอ โรซาติ, มิเกล บริตอส, เฟเดริโก้ เฟิร์นอินเดซ