อัดหงส์ ซะลืมบ้านเลขที่...ลิเวอร์พูล 1-3 เชลซี

หงส์แดงลิเวอร์พูลท่าดีทีเหลวซะแล้วหลังอุตสาห์ขึ้นนำตั้งแต่นาที 6 จากตอร์เรสแต่เจอจุดเปลี่ยนสองลูกโขกของอิวาโนวิชก่อนดิดิเยร์ ดร็อกบาบวกเม็ดสามให้เชลซีบุกถล่มถึงแอนฟิลด์ 3-1 จ่อเข้าตัดเชือกกับบาร์เซโลน่าเพราะแพ้ 2-0 ก็ยังเข้ารอบสบายๆ

แชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรก

วันพุธที่ 8 เมษายน 2552


ลิเวอร์พูล 1-3 เชลซี

ประตู : 1-0 ตอร์เรส น.6,1-1 อิวาโนวิช น.39,1-2 อิวาโนวิช น.63,1-3 ดร็อกบา น.67


ราฟาเอล เบนิเตซจัดทัพเกือบชุดเดิมๆโดยเปลี่ยนเฉพาะอัลเบิร์ต ริเอร่ามายืนประจำการฝั่งซ้ายแทนอันเดรีย ดอสเซน่าหลังติดโทษแบนในเกมชนะฟูแล่มในขณะที่กุส ฮิดดิงค์ได้ดิดิเยร์ ดร็อกบากลับมายืนหอกเดี่ยวโดยมีกาลูกับมาลูด้าขนาบขวาซ้าย

ครึ่งแรก
นาทีที่ 2 เศษๆจังหวะเตะมุมอเล็กซ์โขกทิ้งมาเข้าทางเคาท์ที่หันหลัวพลิกยิงตามน้ำนอกกรอบบอลพุ่งแฉลบหัวอิวาโนวิชเฉี่ยวสามเหลี่ยมออกไปนิดเดียวแต่จังหวะนี้ไม่ได้เตะมุมเพราะมีผู้เล่นลิเวอร์พูลล้ำหน้าจนไปรบกวนการเล่นของทีมเยือน

และแล้วนาทีที่ 6 หงส์แดงมาได้ประตูสุดคลาสิกโดยเริ่มจากสเคอร์เทลสาดโด่งจากกลางสนามให้ตอร์เรสโขกตั้งเข้าเขตโทษเป็นเจอร์ราร์ดวิ่งมาเอาบอลแต่อเล็กซ์วิ่งมากระโดดหวดทิ้งบอลโด่งไปหน้ากรอบโทษก่อนที่เคาท์โชว์การดูดบอลลงแล้วตอกสั้นออกข้างกรอบโทษและอาร์เบลัวตบบอลเลียดให้ตอร์เรสวิ่งมาแปแบบไร้ตัวประกบบริเวณจุดโทษบอลผ่านมือปีเตอร์ เช็กเสียบเสาเข้าไปสุดงาม

แต่นาทีเดียวลิเวอร์พูลเกือบช็อกเสียอเวย์โกล์จากจังหวะที่ออเรลิโอมัวแต่ชักช้าจะคืนหลังก็ไม่คืนเลยถูกมาลูด้าฉกแล้วแทงให้ดร็อกบาหลุดไปล่อเป้าซัดใส่เรน่าที่ปรี่ออกมาบล็อกแล้วเหมือนบอลจะโดนเรน่าน้อยจนมีจุดโบกไม้โบกมือหน้าเขียว

นาทีที่ 11 ไม่มีอะไรตื่นเต้นแต่ที่ที่น่าตกใจคือลูคัสทำมือขอบอลจากเพื่อนตรงกลางแล้วทำเกมถ่ายบอลออกปีก...ไม่น่าเชื่อ!!!!

ตอนนี้เกมแดนกลางของเจ้าถิ่นเก็บบอลได้หมดเพราะเล่นช้าไม่รีบส่วนเชลซีเป็นฝ่ายวิ่งไล่อย่างเดียวแถมคุมคนหลวมเวลาลิเวอร์พูลต่อบอลถ่ายออกริมเส้นอีกด้วย ผ่านมา 15 นาทีหงส์แดงครองบอลไปแล้ว 65 % เลยทีเดียว

เลย 20 นาทีมาเกมเริ่มลดความว่องไวลงเพราะเกมรุกของลิเวอร์พูลก็เนือยๆโดยที่เชลซียังไม่มีโอกาสได้ส่องเลยนอกจากฟรีคิกไกล 2 ครั้งที่ทำอะไรเจ้าถิ่นไม่ได้

อีก 3 นาทีต่อมาจังหวะที่ลิเวอร์พูลทำชิ่งตรงกลางเสียเป็นเชลซีตัดได้ก่อนที่จะมาถึงกาลูที่ฝากบอลให้ดร็อกบาตรงครึ่งวงกลมหน้ากรอบโทษแล้วปาดเข้าเขตโทษให้มาลูด้าวิ่งมายิงเลียดด้วยอีซ้ายข้างถนัดบอลพุ่งผ่านหน้าเสาออกไปแบบสุดเสียว

นาที 26 แลมพ์เกือบทำฮาหลังไปยึกยักหลอกตอร์เรสตรงะระยะ 35 หลาเลยเจอฉกก่อนม้วนตัวตรงหน้าเขตโทษเพราะเจอกองหลังอีก 2 ตัวแต่ก็โชว์ปั่นไซด์ข้ามหัวปีเตอร์ เช็กบนเฉี่ยวคานออกไปแบบสุดสยอง

อีก 2 นาทีไม่รู้ว่าเชลซีตีเสมอไม่ได้ได้ยังไงหลังบัลลัคจ่ายบอลด้วยอีซ้ายตัดเข้าเขตโทษแบบขวางๆให้ดร็อกบาสลัดคาร์ราเกอร์ก่อนกดแช่เกินครึ่งหลอดระยะ 8 หลาบอลแหกหน้าเรน่าและคานข้ามออกไปแบบไม่น่าเชื่อ

ก่อนหมดครึ่งแรก 10 นาที ลิเวอร์ทำชิ่งกันสวยอีกแล้วก่อนสุดท้ายอาร์เบลัวได้บอลหน้ากรอบโทษไม่รู้ทำไงเลยปั่นไซด์ด้วยอีซ้ายบอลเลี้ยวผ่านเสาออกไปแบบได้เสียว

อย่างไรก็ตามเกมของเชลซีที่เหมือนไม่มีอะไรมาได้ประตูตีเสมอในนาที 39 จากลูกเตะมุมที่นักเตะเชลซียืนเป็นกลุ่มอีกฝั่งนึงโดยมีอิวาโนวิชสวมวิญญาณอสุจิวิ่งฝ่ามาแถวๆเสาแรกคนเดียวโดยอลอนโซ่ที่ต้องรับผิดชอบประกบตัวดันรั้งไม่อยู่จนแบ็คจำเป็นได้โขกเน้นๆทะลุตัวเรน่าตุงตาข่ายไม่มีเหลือ

ภาพตัดกลับมาลิเวอร์พูลลุยทันทีและจังหวะที่เพื่อนจ่ายบอลให้ตอร์เรสตรงหน้ากรอบโทษแต่เจอเข้าหนักบอลเลยไปถึงเคาท์ที่แตะอ้อมตัวโคลแล้วยิงยัดใส่เช็กเน้นๆบอลแฉลบตัวข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

ครึ่งหลัง
เริ่มเกมมาลิเวอร์พูลเปิดเกมรุกใส่ตามคาดและได้เสียวจากการเปิดบอลเข้าเขตโทษหลายครั้งจนนาที 50 เจอร์ราร์ดลากตัดจากปีกซ้ายเข้ากลางโดยมีบัลลัคตามขวางมาเรื่อยก่อนหัวขิงยิงไกล 25 หลาบอลหักออกเสาแรกนิดเดียว

แต่อีกนาทีเดียวออเรลิโอเกือบทำพังหลังเบิ้ลบอลจังหวะเดียวจากแบ็คซ้ายกลายเป็นเข้าทางเชลซีจนดร็อกบาได้กระชากเข้าเขตโทษแถมเบียดเอาชนะสเคอร์เทลแล้วยิงหักนิ่มๆสวนเรน่าบอลค่อยๆกลิ้งจะข้ามเส้นอยู่แล้วแต่คาร์ราเกอร์สไลด์ทิ้งตัวหวดทิ้งหวุดหวิด

เกมแลกกันมันส์หยดนาที 53 ริเอร่าเบิ้ลบอลโด่งให้เจอร์ราร์ดย่อตัวโขกเช็ดทำชิ่งให้ตอร์เรสหลุดเข้าไปยิงด้วยอีซ้ายบอลข้ามคานโด่งออกไปเยอะ

เกมของหงส์แดงเป๋ไปซะแล้วเพราะจังหวะนิดๆหน่อยๆดูเหมือนกดดันลนลานจนได้เห็นภาพมาร์ติน สเคอร์เทลเคลียร์แป๊กเสียลูกเตะมุมให้เชลซีง่ายๆแต่จังหวะต่อเนื่องลูกเตะมุมกลายเป็นเทอร์รี่ที่ไปชาร์จเรน่าด้วยลูกหัวทั้งๆที่นายทวารทีมชาติสเปนกระโดดคว้าถึงก่อนแล้วจนถูกใบเหลืองและจะถูกแบนนัดหน้าอีกด้วยสำหรับเจที

และแล้วปัญหาเดิมๆของลิเวอร์พูลกลับมาอีกแล้วเมื่อเสียประตูจากลูกเตะมุมโดยคราวนี้เป็นอิวาโนวิชคนเดิมที่เทคตัวโขกเน้นๆไร้ตัวประกบโดยบอลเลยข้ามหัวเจอร์ราร์ดตุงตาข่ายไม่มีเหลือ เชลซีแซงนำ 2-1แล้ว

งานเข้าซะแล้วสำหรับหงส์แดงเพราะเสียอเวย์โกล์ถึงสองลูกและเหมือนจะต้องเจอเจาะด้วยลูกเตะมุมอีกหลายดอกอย่างแน่นอน

ไปกันใหญ่แล้วสำหรับลิเวอร์พูลเพราะมาโดนง่ายๆอีก 5 นาทีต่อมาจากลูกที่แลมพาร์ดจ่ายทะลุช่องให้มาลูด้าหลุดขึ้นมาทางกรอบโทษฝั่งซ้ายก่อนตบบอลเลียดแรงมาที่จุดนัดพบก่อนดร็อกบาสไลด์ยิงจ่อๆเข้าไปไม่มีเหลือ เชลซี 3-1!!

ปีเตอร์ เช็กว่างงานซะแล้วเพราะเกมรุกเจ้าถิ่นบุกมาไม่ถึงและไม่ได้สับไกเลยทำให้เกมของเชลซีขึ้นมาแต่ละทีมีพื้นที่เยอะน่ากลัวเอามากๆ

แต่เล่นไปเล่นมาตอนนี้ความคะนองตั้งใจจริงของลิเวอร์พูลเริ่มหนักข้อมากขึ้นเรื่อยๆจนเชลซีต้องถอยทัพไปช่วยกันรับมือแต่ปัญหาคือตอนสวนกลับเชลซีได้จบเกือบทุกครั้งทำให้นึกถึงสมัยโจเซ่ มูรินโญ่คุมทีมปีแรกๆบุกมาชนะ 4-1 ถึงที่นี่

นาที 78 จังหวะสวนกลับดร็อกบาลากขึ้นมาจากปีกซ้ายก่อนตบบอลย้อยข้ามหัวกองหลังกะให้บัลลัคที่เสาสองแต่ดอสเซน่าตัวสำรองไม่รู้มาไงหวังดีช่วยโขกสกัดแต่ดันไปตรงกรอบตัวเองยังดีที่เรน่ามือไวคว้าแบบปัดๆก่อนรับไว้ได้ทัน

โอกาสตีคืนซักลูกนึงของลิเวอร์พูลริบหรี่มากเพราะเกมรุกไม่สามารถขึ้นมาช้าๆอย่างที่ถนัดได้อีกแล้วโดยตอร์เรสหายไปจากเกมเลยส่วนเจอร์ราร์ดก็เล่นลำบากเพราะพื้นที่เหลือน้อยแถมต้องวิ่งมาช่วยเกมรับสไลด์ตัดอเนลก้าเสียเตะมุมอีก

ช่วงเวลาที่เหลือต้องบอกว่าเชลซีเล่นปิดเกมเข้าถึงเนื้อถึงตัวตลอดจนแนวรุกเจ้าถิ่นหมดปัญญาพ่ายไป 3-1 และเกมหน้าน่าจะสนุกกว่านี้เพราะลิเวอร์พูลไม่มีทางเลือกนอกจากบุกแหลกเพราะชนะแค่ 2-0 ก็ยังตกรอบ

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล :
โฆเซ่ เรน่า,อัลบาโร่ อาร์เบลัว,เจมี่ คาร์ราเกอร์,มาร์ติน สเคอร์เทล,ฟาบิโอ ออเรลิโอ (ดอสเซน่า น.75)ชาบี้ อลอนโซ่,ลูคัส เลว่า(บาเบิ้ล น.79),อัลเบิร์ต ริเอร่า(เบนายูน น.67),เดิร์ก เคาท์,สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด,เฟร์นานโด ตอร์เรส

ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม : คาวาเรียรี่,ฮูเปีย,แอกเกอร์,เอ็นก็อก

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช,จอห์น เทอร์รี่ ,อเล็กซ์,แอชลีย์ โคล,มิกาเอล เอสเซียง,มิชาเอล บัลลัค,แฟร็งค์ แลมพาร์ด,ฟลอร็องต์ มาลูด้า,โซโลมง กาลู ,ดิดิเยร์ ดร็อกบา(อเนลก้า น.80)

ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม : ฮิลาริโอ,คาร์วัลโญ่,เบเลตติ,มานเซียน,มิเกล,เดโก้


















http://d.yimg.com/i/ng/sp/empics/20090408/19/297944305-soccer-uefa-champions-league-quarter-final-first-leg-liverpool-v.jpg














 


ขอขอบคุณ : lentee

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์