ส่งท้ายปีเก่า...ต้อนรับปีใหม่... กับเอฟเอ คัพ !!!!!!

ส่งท้ายปีเก่า...ต้อนรับปีใหม่... กับเอฟเอ คัพ !!!!!!

คงยังไม่สายไปที่จะ สวัสดีปีใหม่ อย่างเป็นทางการกับเพื่อนๆชาว SS นะครับ...

เหลือบไปเห็นเพื่อนฝูงจับกุญแจสตาร์ทรถกอดคอปิกนิกต่างจังหวัด เหนือบ้าง ใต้บ้าง แต่ผมเองขอส่งใจไปช่วย เที่ยว แต่ตัวจริงขอนั่งกอดตังอยู่ที่บ้านดีกว่า ฮา..

ปี 2009 ผ่านไป... 2010 โน้มตัวน้อมรับ... สถานการณ์ในพรีเมียร์ลีกยังคงเป็นเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง...

เชลซีจ่าฝูง สปีดตัวเองหนีผู้ล่าอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้อย่างฉิวเฉียดส่งท้ายปีเก่า... หรือจะพูดอีกนัยว่าคริส สมอลลิ่ง ประการหลังดาวรุ่งของฟูแล่ม ใช้กระดาษสีห่อสามแต้มผูกโบอย่างดีให้กับชาวเดอะ บลูส์ ก็ไม่ผิดนัก

70 กว่าน่าที ที่สมอลลิ่งยืนหยัดต้านทาน สมควรแก่คำชื่นชม แต่การจะยืนถือโล่ป้องกันการโจมตีของเชลซี โดยเฉพาะที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ คุณจำเป็นต้องมีสมาธิอย่างคงเส้นคงวา ตลอด 90 นาที...

มีสมาธิพอ ที่จะป้องกันเกมส์จากแบ็กทั้งสองฝั่ง...

มีสมาธิพอ ที่จะอ่านการจ่ายบอลของแฟร้งค์ แลมพาร์ด , จังหวะโจมตีทำชิ่งขึ้นมาของเดโก้ , โจ โคล หรือ บัลลัค... หรือการเติมขึ้นมาส่องยิงไกลของยอน โอบี มิเกล

และที่สำคัญที่สุด อย่าคลาดสายตาไปจากสองกองหน้าอย่างดิดิเย่ร์ ดร็อกบา และนิโกล่าส์ อเนลก้า(หรือในเกมนั้นเป็นตัวแทนอย่างแดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์)...

ท้ายสุด ผลลัพธ์คือการกะจังหวะลูกครอสของบรานิสลาฟ อิวาโนวิชพลาด... และจบด้วย ประตู...

กองแช่งแยกย้าย.. ซดเบียร์อีกอึกใหญ่ย้อมใจ.. ก่อนก้มหน้าก้มตายอมรับสภาพ... ทำใจแล้ว กระทั่งเห็นสมอลลิ่ง ใช้ปืนจ่อกระโหลกก่อนลั่นกระสุนปลิดชีพตัวเองและทีม ในอีก 2 นาทีถัดมา

ข้ออ้างที่พอนึกออก คือการขาดเบรเด้ ฮังเกลันด์ แน่นอนคือความโชคร้าย แต่ที่สำคัญในเชิงแท็กติก คือการเดินหมากผิดของรอย ฮ็อดจ์สัน ในการถอดจอห์น เพนท์ซิลออก

ซึ่งไม่ต่างอะไรกับจังหวะชี้นิ้วของมาร์ติน โอนีล ที่เปลี่ยนเอาปีกขวาที่แฟนบอลยังสงสัยในผลงาน อย่างมาร์ก อัลไบรท์ตัน สวมเสื้อสืบเท้าก้าวลงสนามแทนที่ไนเจล รีโอ โคเกอร์

โคเกอร์ อดีตแข้งผิวสีจากเวสต์แฮม... เก็บบอลสร้างเกมในแดนกลางได้ ขณะที่มิลเนอร์ ภาพที่เห็นยังดูสละสวยกว่าอัลไบรท์ตัน.. โดยเฉพาะในช่วงเวลาบีบคั้น และโดยเฉพาะ การลงสนามเจอทีมอย่างลิเวอร์พูล..

ท้ายสุด... ไร้เวทมนตร์คาถาจากปีกผมสลวยดาวรุ่ง... กระทั่งกองหน้าผู้ได้รับการติดยศว่า คมที่สุดในสามโลก อย่างเฟร์นานโด ตอร์เรส ลั่นไกตัดสินเกม

ฟูแล่ม และ วิลล่า สองทีมที่ได้รับการอัพเกรดขึ้นมาเป็น ผู้ท้าชิงบิ๊กโฟร์ หัวจิตหัวใจพร้อมลงสู้ขาดใจในศึกสงคราม กระนั้นสิ่งที่ขาดหายคือ สมาธิ...

เสมือนนักมวยที่ปล่อยการ์ดตกในจังหวะสำคัญ ก่อนถูกคู่ต่อสู้ที่ประสบการณ์โชกโชน ปล่อยหมัดฮุกจนหน้าหัน น็อกกลางอากาศ...

สามแต้มของเชลซี และลิเวอร์พูล ช่วยต่อลมหายใจแห่งความหวัง... สิงห์ลอนดอน ที่จะขาดนักเตะตัวหลักในศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ปลีกตัวนำ 2 แต้ม ส่วน หงส์แดง ทำคะแนนไล่จี้ขึ้นมาพอเป็นกระสัย

ส่วนเกมสั่งลาแห่งปี 2009 ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด... กรุณาอย่ามองแต่เพียงผิวเผิน

วีแกน แอธเลติก เป็นลูกไล่ยูไนเต็ดมาตลอดตั้งแต่เลื่อนชั้น... ฉะนั้นหากชัยชนะจะตกเป็นของขุนพลอสูร แน่นอนไม่แปลก..

แต่สำหรับผู้เป็นเร้ด อาร์มี่ ทั้งตัวและหัวใจ... น่าใครเป็นห่วงสำหรับโอกาสในการจบสกอร์

ยูไนเต็ด เคยมีเกมรุกที่เฉียบคมกว่านี้ หมุนเข็มนาฬิกาย้อนกลับไปในเกมกับฮัลล์... ถ้าไม่มีกองหลังอย่างแอนดี้ ดอว์สัน มาสมนาคุณประตู 2-1.. เจ้าประคุณเอ๋ย ไม่แน่ชาวปีศาจอาจน้ำตาตกในได้แค่แต้มเดียวคาเคซี สเตเดี้ยม

เกมสิ้นปีที่โรงละคร หากมองข้ามกองหลังเปื่อยยุ่ยของ เดอะ ลาติกส์ เรายังคงเห็นโอกาสที่ยังโยนทิ้งขว้างของแนวรุกปีศาจอยู่

เวย์น รูนี่ย์ ยังวิ่งพล่านไปทั่วสนาม และทำประตูได้อย่างน่าชื่นชม กระนั้นสิ่งที่น่าเป็นห่วงเคาะประตูถามหา หากอีก 5 เดือนข้างหน้า ยูไนเต็ดเจอคู่แข่งที่เกมรับเหนียวแน่น

การใช้โอกาสเปลือง ย่อมไม่อนุญาตให้เกิดขึ้นอีกเป็นอันขาด...

แต่โยนความกังวลข้องใจทิ้งไป ข้ามปีใหม่ โปรแกรมบอลถ้วยเก่าแก่เปี่ยมมนต์ขลังอย่างเอฟเอ คัพ เปิดประตูต้อนรับแฟนบอลทั่วโลก...

เร้ดดิ้ง คงเป็นขนมหวานไทยๆต้อนรับปีใหม่ของสตีเฟ่น เจอร์ราร์ด และเฟร์นานโด ตอร์เรส รวมทั้งเหล่ากองทัพเร้ด แมชีน ของราฟาเอล เบนิเตซ...

เวสต์แฮม ของจานฟรังโก้ โซล่า กับงานที่ท้าทายกว่า กับการพิสูจน์ตัวเองต่ออาร์เซน่อล ว่าเกมลีกที่ฮึดสู้ตีเสมอ 2-2 ในรังอัพตัน ปาร์คของตัวเอง ไม่ใช่เรื่องโชคช่วย !!

เหลือบกลับมามองที่เชลซี การขัดสีฉวีวรรณก่อนเปิดบ้านรับนักศึกษาเฟรชชี่สวมเสื้อฟิตเปรี๊ยะอย่างวัตฟอร์ต เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่ง

ทีมกำลังอ่อนลง... ไม่มีตัวหลักร่างทะมึนจากกาฬทวีปอีกแล้ว แต่นี่คือโอกาสอันดีที่คาร์โล อันเชล็อตติจะได้ ทดลองทีม เสมือนกับการเปลี่ยนจากการใช้น้ำมันเบนซินที่แพงจนหน้าซีด มาใช้แก๊ส LPG ตามกระแสเศรษฐกิจตกต่ำนั่นแล

คงไร้ปัญหา รอบ 4 คงปูพรมแดงต้อนรับเชลซีไว้พร้อมแล้ว... แต่สิ่งที่น่าติดตามคือ การปรับลุกส์ใหม่ที่ขาด ดร็อกและเพื่อน จะเป็นอย่างไร..

น่าติดตามมิใช่น้อย...

ท้ายสุดแล้วปีใหม่ทั้งที... ผมยังมีความยินดีเป็นที่สุด ในการได้ยลโฉมของ อริเก่า ที่คิดถึงเหลือเกิน

สงครามดอกกุหลาบ ที่หายไปนานเกือบสิบปี... แม้ว่าทุกวันนี้ ยูงทองอันสง่างามสีขาว จะต่างไปจากเดิมแล้วก็ตาม...

แต่บรรยากาศเก่าๆ ก็ชวนให้คิดถึง...

คิดซะว่าเป็นการรื้อฟื้นความทรงจำ... เพราะนานทีปีหน ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับลีดส์ ยูไนเต็ด จะถูกบุพเพสันนิวาส พัดพามาเจอกัน...

เรายังคิดถึงนาย... และรอนายกลับมา... ภาพของเอลแลนด์ โร้ด ที่เคยต้อนรับเหล่ายอดทีมของโลก จะค่อยๆถูกปัดฝุ่น กลับมาสว่างไสวอีกครั้ง

อีกไม่นานหรอกลีดส์ อีกไม่นาน นายจะต้องกลับมายืนที่เดิมอีกครั้ง บนลีกสูงสุด ที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับนาย..


เจี๊ยบ เคเอฟซี

ปล.ขอบคุณภาพสวยๆจากพี่เบน ฟรีคิกครับ

_________________
##### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์