ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก เกมดาร์บี้แมตช์ เจ้าถิ่น เชลซี เปิดบ้านยัดเยียดความปราชัยให้กับ ไก่เดือยทองท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ 3:0 พร้อมกับรั้งตำแหน่งจ่าฝูงต่อไป
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ต เว็บ
ครึ่งแรก
เริ่มเกมแรกได้เพียงแค่ 3 นาที เจ้าถิ่นมาได้ลูกเตะมุมเป็นครั้งแรกของเกม แลมพาร์ด ปั่นบอลมาที่หน้าประตู แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
นาทีที่ 7 ทีมเจ้าถิ่นได้ทักทายเป็นครั้งแรกจากลูกส่องไกลของ โบซิงวา บอลพุ่งชนสามเหลี่ยมบนอย่างไม่น่าเชื่อ
นาทีที่ 10 ทีมเยือนสวนเกมกลับบอย่างรวดเร็ว ปาลาซิออส จ่ายบอลอย่างแม่นยำให้ เดโฟ หลุดการล้ำหน้าเข้าไปซัดเต็มข้อ แต่ยังโชคดีที่ ปีเตอร์ เช็ก สกัดบอลด้วยเท้าไว้ได้ทัน สเปอร์ส ได้ลูกเตะมุม
นาทีที่ 14 เต้าถิ่นมีโอกาสจากลูกเตะมุมเช่นกัน แลมพาร์ด ปั่นบอลมาที่หน้าประตู แต่ คูลูชินี่ ก็ชกบอลออกมาได้
ทีมเยือนน่าจะได้ประตูขึ้นนำ ในนาทีที่ 16 จากจังหวะที่ เลนน่อน จิ้มบอลให้ จีนาส ซึ่งไม่มีผู้เล่นของ เชลซี ประกบเลย ก่อนจะซัดเต็มข้อหน้ากรอบเขตโทษ บอลเฉียดเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
ผ่านไปแล้ว 20 นาที ทีมเยือนเป็นฝ่ายครองบอลได้เหนือกว่าเล็กน้อย แต่ก็ยังหาจังหวะเข้าทำประตูไม่ได้ ถัดมาอีก 2 นาที เจ้าถิ่นเกือบมาได้ประตู จากจังหวะที่ มาลูด้า โยนบอลจากทางกราบซ้ายผ่านมาที่หน้าประตู อเนลก้า พักบอลด้วยอก ก่อนที่จะซัดเข้าข้างประตูไป
เกมผ่านไปแล้วครึ่งชั่วโมง ทั้งสองทีมยังคงผลัดกันรุกและรับ และในนาทีที่ 32 กองเชียร์เจ้าถิ่นได้เฮกันลั่นสนามเมื่อมาได้ประตูแรก จากจังหวะที่ ดร็อกบา เปิดบอลจากทางกราบขวาเข้ามาทีทีหน้าประตู แอชลี่ย์ โคล ชิงโหม่งก่อนบอลพุ่งเข้าสู่ก้นตาข่ายอย่างสวยงาม เชลซี ออกนำไปก่อน 1:0
เข้าสู่ช่วงท้ายเกม ทีมเยือนเร่งเครื่องบุกหวังตีไข่แตกก่อนจบครึ่งแรก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ และในนาทีสุดท้ายก่อนทดเวลาบาดเจ็บเจ้าถิ่นมีลุ้นประตูที่สองจากลูกฟรีคิก แต่ ดร็อกบา ก็ยิงไปติดกำแพงเสียเอง หมดเวลา 45 นาทีแรก เชลซี 1 สเปอร์ส 0
ครึ่งหลัง
ลงมาลุยกันต่อในครึ่งหลัง เจ้าถิ่นเกือบมาได้ประตูที่สองในนาทีที่ 46 จากจังหวะที่ ดร็อกบา ผ่านบอลมาให้กับ แลมพาร์ด แปด้วยขวาบอลหลุดเสาแรกออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 48 สเปอร์ส เปลี่ยนเอา อลัน ฮัตตัน ลงมาเล่นแทน เล็ดลี่ย์ คิง ที่ได้รับบาดเจ็บจนต้องออกไปนั่งชมเกมที่ข้างสนามแทน
นาทีที่ 55 ทีมเยือนมีลุ้นประตูตีเสมอจากลูกเตะมุม แต่ก็ไม่พ้นมือของ ปีเตอร์ เช็ก จอมหนึบทีมเจ้าถิ่นไปได้
ถัดมาอีก 3 นาที เชลซี หนีห่างไปเป็น 2:0 ในนาทีที่ 58 จากจังหวะที่ อเนลก้า โยนบอลจากทางกราบขวาให้กับ ดร็อกบา ซัดเต็มข้อบอลแฉลบมือของ คูลูชินี่ เกือบหลุดหลังไปแล้ว แต่ แลมพาร์ด ตามเก็บได้ก่อนที่จะโยนเข้ามาที่หน้าประตูอีกครั้ง บัลลัค ซ้ำอีกทีไม่มีพลาด
สเปอร์ส เครื่องรวนอย่างแรง เมื่อมาเสียประตูที่สามในนาทีที่ 63 เมื่อ แอลลี่ย์ โคล วางบอลอย่างแม่นยำให้กับ ดร็อกบา ได้หลุดเข้าไปยิงอย่างง่ายดาย เชลซี 3 สเปอร์ส 0
เชลซี พลาดการได้ประตูที่สี่ไปอย่างน่าเสียดาย ในนาทีที่ 66 จากลูกฟรีคิกของ แลมพาร์ด บอลไปแฉลบแขนของ เอก็อตโต้ ลอยข้ามคานออกไป แลมพาร์ด พยายามจะฟ้องเอาลูกจุดโทษ แต่ เฮาเวิร์ต เว็บ ให้ได้แค่เพียงลูกเตะมุมเท่านั้น
เจ้าถิ่นเป็นฝ่ายครองบอลได้เหนือกว่า และคอยสร้างความกดดันให้กับกองหลังของ สเปอร์ส อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ทีมเยือนยังจบสกอร์ไม่ได้
เกมต้องหยุดไปพักใหญ่ เมื่อ บาสซง ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณศรีษะอย่างรุนแรง จากจังหวะที่เข้าแย่งบอลกับ อเนลก้า ก่อนที่จะล้มลงและศรีษะก็กระทบกับพื้นสนาม จนแพทย์ต้องหามออกไปปฐมพยาบาลที่ข้างสนาม และส่ง นิโก้ ครันช่าร์ ลงมาแทน
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกมการแข่งขัน เจ้าถิ่นยังคงเดินหน้าบุกต่อไป แม้ว่าจะเป็นฝ่ายนำอยู่ก็ตาม แต่ไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ หมดเวลา 90 นาที เชลซี เปิดบ้านไล่อัด สเปอร์ส ไปด้วยสกอร์ 3:0 พร้อมกับรั้งตำแหน่งจ่าฝูงต่อไป
รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
เชลซี
ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี่, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, แอชลี่ย์ โคล, โชเซ่ โบซิงวา, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ฟลอร็องต์มาลูด้า, มิเกล เอสเซียน, มิชาเอล บัลลัค, นิโกล่าส์ อเนลก้า, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา
ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์
คาร์โล่ คูดิชินี่, เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้, เวดราน ชอร์ลูก้า, เซบาสเตียน บาสซง, เล็ดลี่ย์ คิง, อาร์รอน เลนน่อน, วิลซัน ปาลาซิออส, เจอร์เมน จีนาส, ทอม ฮัดเดลสโตน, เจอร์เมน เดโฟ, ร็อบบี้ คีน
เนื้อหาข่าวจาก Rakball.net
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
