สัมภาษณ์พิเศษ รอน เกอร์เล่ย์ - ซีอีโอ เชลซี ลุ้นแชมป์คงเป็นเรื่องยาก แต่เราจะทำให้ดีที่สุด

     ผลงานของ ''สิงโตน้ำเงินคราม'' เชลซี ดับเบิลแชมป์พรีเมียร์ลีก อาจไม่จัดจ้านเหมือนฤดูกาลที่แล้ว โดยหลังจากบุกเสมอฟูแล่ม คู่ปรับร่วมลอนดอนตะวันตกเมื่อคืนวันจันทร์ ส่งผลให้ช่องว่างกับแมนฯ ยูไนเต็ด ยังห่างถึง 12 แต้มทีเดียว


หนึ่งแต้มล่าสุดอาจทำให้โอกาสลุ้นรักษาบัลลังก์แชมป์ลีกของ คาร์โล อันเชลอตติ กับลูกทีมเหลือน้อยลง แต่สำหรับ รอน เกอร์เล่ย์ ประธานกรรมการบริหารของสโมสรเชลซี ที่อยู่ระหว่างเดินทางมาประสานคิวงาน ''เชลซี เอเชีย ทัวร์ 2011'' ในเดือน ก.ค. นี้ที่กรุงเทพฯ เชื่อว่ามันไม่ได้ทำให้ความมุ่งมั่นของทีมลดน้อยถอยลงแต่ประการใด
 

''นัดเจอฟูแล่มเมื่อคืนก่อนถือเป็นเรื่องน่าผิดหวังเหมือนกัน นับเป็นเกมที่ลำบากสำหรับเราเหมือนในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ฟูแล่ม เป็นคู่แข่งที่เล่นรัดกุมและไม่เปิดช่องว่างให้เลย เราครองบอลได้มากกว่าแต่ก็หาโอกาสได้ไม่มาก แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เราต้องพยายามและหาทางแก้ไขต่อไปในการฝึกซ้อม'' ซีอีโอของเชลซี ให้ความเห็นผ่านสยามกีฬา รายวัน
 

เกมที่คราเวน ค็อทเทจ ทำให้สถานการณ์ตอนนี้ของเชลซี อยู่ห่างจากจ่าฝูงแมนฯ ยูไนเต็ด ถึง 12 แต้ม ซึ่งมันก็ไม่ใช่งานง่ายเลยเมื่อเทียบกับเกมที่เหลือน้อยลงเรื่อยๆ
 

''มองภาพรวมตอนนี้แล้วก็ต้องยอมรับว่าลำบาก ที่เราจะไล่กวดแมนฯ ยูไนเต็ด อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญกว่านั้นคือการเน้นที่ตัวเรามากกว่าการมองไปที่แมนฯ ยูไนเต็ด เรายังเหลือเกมเจอพวกเขาอีกสองนัดทั้งเหย้าและเยือนที่เราต้องชนะให้ได้ และหน้าที่ของเราคือทำดีที่สุดในช่วงที่เหลือ ภาวนาให้ทีมอื่นแบ่งแต้มจากยูไนเต็ด''
 

''ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากอยู่ในตำแหน่งของพวกเขามากกว่า ถ้าเป็นไปได้นะ ยอมรับตามตรงว่าคงยากที่เราจะไล่กวดพวกเขาให้ทัน สิ่งสำคัญก็คือผลงานของเราเอง และโฟกัสไปที่สองเกมกับยูไนเต็ดนั่นแหละ''
 

แล้วจริงๆ เกิดอะไรขึ้นกับทีมที่ออกสตาร์ตฤดูกาลใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยมกันแน่?
 

''จะให้ชี้ชัดลงไปก็ลำบากเหมือนกัน ระบบก็เหมือนเดิม เช่นเดียวกับตัวผู้เล่น เราเจอปัญหาเรื่องฟอร์มตกและบาดเจ็บ ไมเคิ่ล เอสเซียง เพิ่งกลับมาเล่นได้ไม่นาน แฟร้งค์ แลมพาร์ด บาดเจ็บยาว จนทำให้บางอย่างในทีมไม่ลงล็อกเมื่อขาดแกนหลักไป พรีเมียร์ลีกเป็นลีกที่เข้มข้น หากคุณไม่ท็อปฟอร์มก็มีโอกาสเสียแต้มได้ ผมว่ามันมาจากหลายอย่างประกอบกันเลยล่ะ''
 

อย่างไรก็ดี คาร์โล อันเชลอตติ ยังคงมองโลกในแง่บวก โดยเฉพาะเมื่อทีมยังคงอยู่บนเส้นทางของแชมเปี้ยนส์ ลีก รวมทั้ง เอฟเอ คัพ อีกสองรายการ แถมยังได้ไฟเขียวจาก โรมัน อบราโมวิช ให้ทุ่มเงินซื้อนักเตะเสริมทีมตอนกลางฤดูกาล นั่นคือ เฟร์นานโด ตอร์เรส และ ดาวิด ลุยซ์ ที่ค่าตัวรวมกันถึง 75 ล้านปอนด์ด้วย
 

''แผนการทำทีมของเรายังคงไม่เปลี่ยนแปลง เจ้าของสโมสรอยากให้ทีมเล่นบอลสวยงามน่าติดตาม มันคงยากที่จะคว้าทุกแชมป์ แต่เราจะพยายามต่อไป หวังว่าเมื่อถึงเดือน พ.ค. เราจะยังมีเกมตัดเชือกและอยู่บนเส้นทางลุ้นแชมป์อยู่ ตอนนี้เราขอใช้สมาธิแบบเกมต่อเกมไปก่อน แล้วค่อยดูว่าถึงตอนนั้นจะเป็นยังไง''
 

''ส่วนเรื่องตลาดนักเตะ ไม่บ่อยนักที่เชลซีจะซื้อใครตอนกลางฤดูกาล คนสุดท้ายที่เราทำคือ นิโกล่าส์ อเนลก้า เมื่อหลายปีก่อน''
 

''เราต้องมองไปที่หลายตัวแปร โดยเฉพาะโอกาสในแชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างรายของเฟร์นานโด เราทราบคร่าวๆ ล่วงหน้าก่อนประมาณหนึ่งสัปดาห์ว่าเขาอยากย้าย นั่นคือโอกาสที่น่าสนใจ เพราะเขาเป็นกองหน้าระดับชั้นนำ และมีสิทธิ์เล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบน็อกเอาต์ แต่เราก็ต้องรอให้ทางลิเวอร์พูลหาตัวแทนแบบเร่งด่วนเช่นกัน ก่อนที่ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปก่อนเส้นตายย้ายทีมวันสุดท้ายพอดี''
 

''รายของดาวิด ก็เช่นกัน เขาเป็นข่าวกับเรามานานพอสมควร สุดท้ายเชลซีก็ได้เขามาเสริมทีมเช่นกัน ดาวิดเป็นกองหลังดาวรุ่งฝีเท้าเยี่ยม มีประสบการณ์ระดับอินเตอร์พอสมควร เล่นได้เกือบทุกตำแหน่งในแผงแบ็กโฟร์ ขยับขึ้นมาเป็นมิดฟิลด์ตัวรับก็ได้ มีสายตาอ่านเกมที่ยอดเยี่ยม นับเป็นการลงทุนที่ดีเช่นกัน''
 

เชลซีตัดสินใจลงทุนเสริมทีมด้วยงบก้อนใหญ่ขนาดนี้ แล้วจะส่งผลกระทบต่อดาวรุ่งจากอะคาเดมี่แค่ไหน?
 

''เป็นคำถามที่ดีครับ เราดึงเด็ก 4 คนขึ้นมาจากอะคาเดมี่ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, กาแอล กากูต้า, พาทริค ฟาน อานโฮลท์ และ เจฟฟรี่ บรูม่า สิ่งที่ดีคือตอนทีมกำลังเล่นดี พวกเขาย่อมมีโอกาสลงเล่นตอนทีมนำอยู่เยอะๆ แต่พอทีมมีปัญหาตอนเดือน พ.ย. คาร์โล ต้องเน้นที่พวกมีประสบการณ์ก่อนเพื่อแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า''
 

''เราจึงเลือกให้โอกาสพวกเขาด้วยการปล่อยตัวให้ทีมอื่นยืมไป มันย่อมดีสำหรับตัวเด็กเองที่จะได้เล่นมากขึ้น อย่างแดเนี่ยลเองก็ยิงให้โบลตันแล้ว 3 ประตูด้วยซ้ำไป แน่นอนว่าทั้งหมดยังอยู่ในแผนทำทีมของเราเหมือนเดิม''
 

นโยบายเสริมทีมช่วงเปิดตลาดตอนปีใหม่ ยังนำไปสู่คำถามต่อเนื่องที่แฟนบอลเชลซีสงสัยอยู่เหมือนกันว่า สโมสรจะลงมือช็อปปิ้งอีกหรือไม่ในช่วงปิดฤดูกาล
 

เรื่องนี้ซีอีโอของทีม ''สิงโตน้ำเงินคราม'' ส่งซิกเบื้องต้นแล้วว่า ''ยังไม่แน่ แต่คาดว่าจะมีเหมือนกัน''
 

''การซื้อนักเตะใหม่เข้าทีม เราต้องดูตัวแปรอื่นด้วย หลายคนพูดถึงอายุเฉลี่ยของทีม เรามีหลายคนที่อายุเกิน 30 อย่าง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ที่จะครบ 33 ในเร็วๆ นี้ นิโก้ อเนลก้า ก็ใกล้เคียงกัน ซาโลมง กาลู 26 แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ 22 เฟร์นานโด ตอร์เรส 27 สิ่งสำคัญคือการทำให้ทีมมีความสมดุลในเรื่องนี้ ถ้าเห็นว่าจำเป็นเราก็อาจซื้อเพิ่มได้ในช่วงหน้าร้อน เราต้องดูที่ความเหมาะสมอีกที''
 

''ไม่แน่เหมือนกันว่าตอนเรามาทัวร์เอเชีย รวมทั้งที่ประเทศไทย เชลซี อาจมีนักเตะใหม่มาร่วมทีมอีกสัก 2-3 คนแล้วก็ได้'' บอสใหญ่ของเชลซีหยอดถึงโปรแกรมทัวร์ของสโมสร ซึ่งจะมีขึ้นที่มาเลเซีย, กรุงเทพฯ ต่อด้วยศึกบาร์เคลย์ส เอเชีย โทรฟี่ ที่ฮ่องกง
 

''นอกจากคิวเตะในสนาม เชลซียังเตรียมโปรแกรมอีกมากมายมาเพื่อวงการฟุตบอลเอเชียโดยเฉพาะ ในเร็วๆ นี้ผมจะคุยกับโมฮัมเหม็ด บิน ฮัมมาน ประธานเอเอฟซี ถึงเรื่องนี้ รวมทั้งโครงการบลูพิตช์ ที่ให้โอกาสเด็กๆ มาซ้อมทักษะฟุตบอลกับโค้ชและนักเตะของเรา เช่นเดียวกับกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย'' เกอร์เล่ย์ กล่าวถึงการทัวร์เอเชียของสโมสร ซึ่งมีคิวพักที่เมืองไทย 3 วันเพื่อทำศึกนัดอุ่นเครื่องในวันที่ 24 ก.ค.
 

'ในฐานะตัวแทนของสโมสรเชลซี ผมอยากฝากขอบคุณแรงใจของแฟนบอลชาวไทยที่ส่งไปถึงทีมที่อังกฤษ หลายคนอาจไม่มีโอกาสไปเยี่ยมสแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่เร็วๆ นี้เราจะนำทีมชุดใหญ่มาเตะที่กรุงเทพฯ อย่างแน่นอน''


 
ชู้ตเอ๊าต์   เรื่อง
ณพวัฒน์ ถนอมวงษ์   ภาพ



src=http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O110216F1P3Q.jpg

รอน เกอร์เล่ย์ ซีอีโอของสโมสรเชลซี ยอมรับโอกาสรักษาแชมป์คงเป็นเรื่องลำบากในฤดูกาลนี้ แต่ก็ต้องพยายามจนถึงที่สุด


src=http://www.siamsport.co.th/_PicOther/O110216E7U3S.jpg

ขุนพล ''สิงโตน้ำเงินคราม'' ทำได้แค่เสมอกับฟูแล่มในเกมล่าสุด ห่างจากจ่าฝูง แมนฯ ยูฯ ถึง 12 แต้มแล้ว


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์