พ่ายพลิกล็อก!! ลูกโลกเปิดบ้านอัดสิงห์หลับ

ขอสามคำเบน ฟอสเตอร์นายทวารทีมชาติอังกฤษที่งัดตำรายุทธภิชัยเซฟลูกยิงของเชลซีเป็นพายุบุแคมนับสิบส่งผลทำให้ลูกยิงต้นเกมของลี โบว์เยอร์เป็นประตูชัยพลิกล็อก 1-0 ในที่สุด

พรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2553


เบอร์มิงแฮม 1-0 เชลซี

ประตู : 1-0 โบว์เยอร์ น.17


คาร์โล่ อันเชล็อตติกลับมาใช้งานอเล็กซ์ที่พ้นโทษแบนและชะลอการผ่าตัดหัวเข่าออกไปอีกส่วนนักเตะในตำแหน่งอื่นๆยังคงเดิมเนื่องจากมีเลือกจำกัด

ส่วนเบอร์มิงแฮมเจ้าถิ่นยังใช้เหล่าผึ้งงานในแดนกลางทั้งแบร์รี่ เฟอร์กูสัน,ลี โบว์เยอร์,เซบาสเตียน ลาร์สสันและมีสองคู่หน้าตัวป่วนอย่างคาเมรอน เจโรมและนิโกล่า ซิกิช

ครึ่งแรก

เชลซีเกือบนำช็อก!
เริ่มมานาทีเดียวเชลซีเกือบนำเร็วจากลูกวางยาวให้ดร็อกบาแตะอกชิ่งให้กาลูหลุดเข้าเขตโทษแต่จังหวะแหย่เท้ายิงสุดปลายแถมเบน ฟอสเตอร์ผวาออกมาจะเล่นแต่ช้ากว่าเสี้ยววินาทีเดียวยังดีบอลลอดขาไปซุกหน้าต่างเสียวทั้งสนาม

รามิเรสโขกเสียว
ทีมเยือนมาค่อนข้างดีเพราะอีก 2 นาทีต่อมารามิเรสเกือบปลดล็อกทำลูกแรกหลังสอดมาโขกลูกเปิดของแอชลีย์ โคลที่เสาสองระยะเผาขนแต่มุมเหลือน้อยทำให้บอลเข้ามือฟอสเตอร์ที่ยืนรอดักเหยื่อสบาย
arsenal
ดร็อกหลุดเดี่ยวยิงไม่เข้า!!
เชลซีมาโคตรดีและน่าจะขึ้นนำอย่างที่สุดในนาทีที่ 5 และต้องชมว่าเป็นการเล่นแบบซูเปอร์เพลย์เมื่อบอลอยู่แถวเส้นหลังแดนตัวเองเมื่ออิวาโนวิชโดนบีบจนต้องใช้วิชาบังแล้วพลิกหนีก่อนทำชิ่งกับแอชลีย์ โคลจากนั้นบอลถูกลำเลียงขึ้นมาและเป็นกาลูแทงเลียดทะลุช่องผ่าคู่เซนเตอร์น้ำหนักโคตรเทพให้ดร็อกบาวิ่งสอดหลุดเดี่ยวไปดวลกับฟอสเตอร์แต่หอกไข้มาลาเลียดันเอียงตัวรีบยิงไม่มีหลอกทำให้อดีตจอมหนึบแมนฯยูฯทิ้งตัวพุ่งรับเข้ามือไปเลย จังหวะนี้ล็อกหลอกหรือชิพยังไงก็หายแน่เพราะมุมกว้างมากมาย

เชลซียังดีกว่า
เกมของเบอร์มิงแฮมยังไม่มีอะไรให้ทีมเยือนต้องเป็นห่วงเพราะเน้นฮิตแอนด์โฮปหรือฝากฝังการพักบอลในแดนหน้าเพื่อต่อเกมรุกซึ่งจุดสำคัญจึงอยู่ที่การตามให้ถึงเนื้อถึงตัวของเหล่าตัวรับทั้งหลายซึ่งจนถึงตอนนี้อิวาโนวิชเด่นสุด

เงิบ!โอกาสแรกลูกโลกนำ 1-0
แต่นาที 17 โอกาสแรกของลูกโลกกลายเป็นประตูขึ้นนำทันทีจากลูกเปิดจากปีกขวายาวโด่งให้เจโรมกระโดดดึงสองกองหลังเชลซีให้มาประกบแล้วเขกชงให้โบว์เยอร์มาเก็บตกในเขตโทษคนเดียวโล่งๆแล้วแปด้วยอีซ้ายสวนตัวเช็กที่ปรี่จะบล็อกไม่ทัน เบอร์มิงแฮมนำ 1-0

ฟอสเตอร์โคตรพ่อเซฟ!!
ฤ ว่าวันนี้จะไม่ใช่วันของเชลซีอีกครั้งเพราะหลังเสียประตูก็พยายามจะทวงเอาประตูโดยนาที 24 อเนลก้ากระชากเลื้อยทางริมกรอบโทษฝั่งซ้ายก่อนเปิดย้อยให้ดร็อกบาขึ้นเทคโขกเต็มๆกบาลระยะ 7 หลาแต่ฟอสเตอร์สวมวิญญาณกอร์ดอน แบ็งค์พุ่งปัดมือเดียวบนเส้นสุดบรรลือโลก

โคลคล้ำอยู่ไม่ไหวขอยิง
อีก 5 นาทีต่อมายังเป็นเชลซีที่นวดเรื่อยๆและกาลูแทงทะลุช่องให้แอชลีย์ โคลวิ่งเติมสอดเข้าเขตโทษมุมแคบก่อนตะบันด้วยอีซ้ายแต่ฟอสเตอร์ยืนปิดมิดล้มตัวปัดเสียเตะมุม

ฟอสเตอร์ออกแรงอีก!
ฟอสเตอร์ถุงมือซื้อใหม่เหอะเพราะวันนี้เซฟอีกแล้วนาที 37 ได้ฟรีคิกไกลเป็นดร็อกบายิงเลียดหลบกำแพงแต่พี่จอมเซฟก็ล้มตัวปัดออกหลังไปอีก

เชลซีดวงแตก!!
เชลซีสงสัยทำบาปมาเยอะเพราะไม่ถึงนาทีพลาดโอกาสอย่างไม่น่าเชื่อจากจังหวะที่ดร็อกบาเทคโขกบอลย้อยกำลังจะเข้าอยู่แล้วแต่ไปเช็ดคานกระเด้งลงพื้นหน้าตาเฉย หมดครึ่งแรกเบอร์มิงแฮมพลิกล็อกนำ 1-0

ครึ่งหลัง

ลูกโลกขึงเกมรับ
กรรมการเป่านกหวีดเชลซีไม่รอช้าลุยเข้าใส่หมายจะเอาประตูคืนให้เร็วที่สุดแต่ตอนนี้ช่องว่างเริ่มมีน้อยเพราะเจ้าถิ่นเริ่มขึงแน่นตามถนัดและใช้วิธีชวนทะเลาะเข้าเร็วทำให้ตอนนี้เกมกลายเป็นบอลสามหน้าไปแล้ว

เชลซีชวดโทษ-กาลูยิงเหน่งข้ามคาน
เลยหนึ่งชั่วโมงมา 2 นาทีเชลซีพลาด 2 โอกาสทองอย่างน่าเสียดายเริ่มจากรามิเรสกระชากหลุดเข้าเขตโทษแต่โรเจอร์ จอห์นสันสไลด์สุดขาโดนทั้งบอลทั้งขาแต่มาร์ค ฮัลซีย์โบกมือให้เล่นต่อและแม้จอห์นสันเจ็บขาลุกไม่ไหวแต่เชลซีลุยต่อจังหวะต่อเนื่องมาลูด้าแทงทะลุช่องให้กาลูหลุดเข้าเขตโทษแล้วทำท่าจะยิงด้วยอีซ้ายแต่ล็อกจนฟอสเตอร์ทิ้งตัวล้มแต่พอยิงปั่นไซด์ดันข้ามคานไปเอง

ดร็ออัดฟรีคิกหนสอง
นาที 70 เชลซีได้ฟรีคิกระยะ 25 หลาดร็อกบารับอาสายิงหลังเพื่อนแตะเปลี่ยนจุดบอลข้ามกำแพงน่ากลัวแต่ฟอสเตอร์ยืนตำแหน่งดีรับเข้ามือสองจังหวะ

ฟอสเตอร์สุดยอด
อีก 2 นาทีฟอสเตอร์ยังทำงานหนักต่อไปและหนนี้ต้องบอกว่าฝีมือหลังกาลูกกระชากฝ่าแนวรับเข้าเขตโทษแล้วนายทวารทีมชาติอังกฤษปรี่มาใช้ขาดักสกัดแถมจังหวะบอลกระฉอกที่กาลูได้เปรียบวิ่งเข้าหาก่อนยังเป็นฟอสเตอร์วิ่งมาปัดทิ้งออกหลังเสียเตะมุมอีก

แม่เจ้า...ฟอสเตอร์คนหรือแป้งเปียก
อีก 3 นาทีต่อมาฟอสเตอร์เทียยบชั้นคาซิญาสแล้วเชลซีได้เตะมุมแล้วอิวาโนวิชโขกขวิดที่เสาแรกแล้วฟอสเตอร์ยังวิ่งมาปัดแบบควักกระปิบนเส้นทันเหลือเชื่อทั้งๆที่เพื่อนยืนบังอยู่อีกคนด้วย

เชลซีพับสนาม
ยิ่งเข้าสู่ช่วงท้ายเกมเท่าไหร่เบอร์มิงแฮมก็ถอยไปรับกันเต็มสูบเรียกว่าไม่คิดบุกแล้วทำให้เชลซีมาอยู่ข้างเดียวแต่การเข้าทำเริ่มไม่เป็นมวยเพราะทีมเยือนเองก็เริ่มหันมาบอมบ์ยาววัดดวงบ้าง

หมดเวลาเชลซีแพ้พลิกล็อกให้เบอร์มิงแฮม 1-0 และเป็นการพ่ายแพ้ 3 จาก 4 นัดหลังสุดโดยเสียถึง 6 ยิงได้ลูกเดียวรวมถึงเป็นการพ่ายแพ้ 2 นัดติดนับตั้งแต่เสียเรย์ วิลกินส์มือขวาทำให้ตอนนี้ตำแหน่งจ่าฝูงสั่นคลอนถูกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทาบเท่ากัน 28 แต้มแต่ประตูได้เสียดีกว่า

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

เบอร์มิงแฮม :
เบน ฟอสเตอร์ 10*,สตีเฟ่น คาร์,โรเจอร์ จอห์นสัน,สก็อต แดน,เลียม ริดจ์เวลล์ Image,เซบาสเตียน ลาร์สสัน,แบร์รี่ เฟอร์กูสัน,ลี โบว์เยอร์,คีธ ฟาเฮย์ Image,คาเมรอน เจโรม,นิโกลา ซิกิช(คเล็บ น.72)

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก,เปาโล แฟร์เรียร่า(โบซิงวา น.65),อเล็กซ์,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช,แอชลีย์ โคล,รามิเรส(สเตอร์ริดจ์ น.72),จอห์น โอบี มิเกล,ฟลอร็องต์ มาลูด้า,นิโกลาส์ อเนลก้า,ดิดิเยร์ ดร็อกบา,ซาโลมง กาลู


Image
Image

Image
Image
Image
Image
Image
Image
Image


ขอบคุณข่าวจาก http://www.lentee.com/ :57:


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์