ผีที่สแตมฟอร์ด บริดจ์

ในทริปที่เดินทางไปกับเบียร์สิงห์ ย่อมไม่พลาดที่จะไปเยี่ยมชมสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ สโมสรเชลซี ที่อยู่แถบเคนซิงตัน ย่านคนมีสตังค์กลางกรุงลอนดอน เพราะ เบียร์สิงห์ เป็นโกลเบิล พาร์ตเนอร์กับสโมสรเชลซีด้วยอีกสโมสรหนึ่ง
         

อันหมายความว่า แฟนบอลไม่ว่าใครที่ดื่มเบียร์ ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ กว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ดื่มเบียร์สิงห์ เบียร์ไทย (อีก 20 เปอร์เซ็นต์ เป็นส่วนแบ่งของยี่ห้ออื่นที่น้อยกว่าสิงห์)
         

ที่นั่น ผมพบ เอลวิสครับ
          

ที่จริงเขาน่าจะชื่อ พอล, แกรี่, จอห์น ฯลฯ ชื่ออะไรก็ได้ที่เป็นชื่อคนอังกฤษ แต่เพราะเขาผมดำ หวีผมมีลอน เลี้ยงจอนข้างหู จึงไม่เคอะเขินอะไรที่จะเรียกตัวเองว่า เอลวิส
          

เอลวิส ไม่ใช่นักร้องเพลงร็อก หากเป็น เอลวิส เชิญยิ้ม ไกด์ทัวร์เปี่ยมด้วยอารมณ์ขันของสนาม ที่มีลูกเล่นแพรวพราวในการเล่าเรื่อง ทำให้คณะได้ฮา เขาพาเราเดินชมและอธิบายเรื่องราวของเชลซี และในจุดต่างๆ ของสนาม
          

เขาเล่าถึงประวัติของสโมสรว่า แต่เดิมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ นี้มีสโมสรฟุตบอลท้องถิ่นอยู่สโมสรเดียว แถมยังใช้เป็นสนามแข่งหมาด้วย จึงทำให้ส่วนของฟุตบอลขยับย้ายออกไป กลายเป็นสโมสรฟูแล่ม มีสนามชื่อ คราเวน ค็อทเทจ (แปลว่ากระท่อมนกกา) แต่สโมสรเดิมก็ไม่ได้เลิกทำทีมบอลมีการตกลงกันจะใช้ชื่อสโมสรใหม่อะไรดี ระหว่าง เคนซิงตัน กับ เชลซี (พื้นที่ของสนามคร่อมอยู่สองเขต โดยมีสะพานเล็กคือ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เชื่อมอยู่)
         

เดชะบุญที่มติใช้สโมสรฟุตบอลเชลซี มาจนจวบปัจจุบันนี้ ถ้าหากใช้ชื่อสโมสรฟุตบอลเคนซิงตัน ก็คงสร้างความกระอักกระอ่วนใจให้กับแฟนบอลยุคนี้พิลึก เพราะชื่อย่อจะกลายเป็น KFC (Kensington Football Club) ไม่ใช่ CFC ดังในปัจจุบัน
          

แล้วสโมสรก็ต้องเป็นญาติกันผู้พันแซนเดอร์ คนขายไก่ทอดอเมริกัน นักบอลของทีมต้องอ้วนตุ้ยนุ้ย จากการเป็นพรีเซนเตอร์กินไก่ทอด โดนแฟนบอลถิ่นอื่นอำไม่รู้จบเป็นแน่
         

ผมบอก เอลวิส ว่าผมเคยเป็นแฟนบอลเชลซี เมื่อสมัยผมยังเยาว์วัย นักเตะยอดขวัญใจของผมคือ ปีเตอร์ ออสกู้ด หัวหอกยอดดาวยิงของทีม และ ปีเตอร์ โบเน็ตติ ยอดนายทวารยุคทศวรรษที่ 1970
          

เอลวิส ร้องว้าว! พร้อมกับเสียงหัวเราะครืนของคณะ เพราะ...เกิดไม่ทัน
         

แต่ ปีเตอร์ ออสกู้ด ก็เป็นนักฟุตบอลระดับตำนานที่แฟนบอลเชลซี แสนรักตลอดกาลนะครับ มีรูปปั้นบรอนซ์ขนาดใหญ่ของเขา ตระหง่านหน้าสแตมฟอร์ด บริดจ์
        

ความยิ่งใหญ่มักอยู่ในความทรงจำเสมอ
         

เอลวิส เล่าว่า ปีเตอร์ ออสกู้ด จากไปเมื่อปีกลายที่ผ่านมา แฟนบอลเชลซี รักเขามากเช่นเดียวกับที่เขารักสแตมฟอร์ด บริดจ์ ถึงกับมีการนำเถ้าอัฐิบางส่วนของ ปีเตอร์ อ้อสกู้ด (พิธีศพใช้เผาไม่ได้ฝัง) มาฝังไว้ที่นี่
        

อยู่ใต้ผืนหญ้าตรงจุดลูกโทษ หน้าประตูฝั่งอัฒจันทร์ทีมเยือน ที่ครั้งหนึ่ง ปีเตอร์ ออสกู้ด เป็นตัวสังหารลูกโทษให้กับทีมมานักต่อนัก
         

เอลวิส บอกว่า หลายคนเชื่อว่าวิญญาณ ปีเตอร์ ออสกู้ด ยังสถิตอยู่แถวนั้น
         

เวลา เชลซี ได้ลูกโทษที่จุด เขาจะช่วยยิงด้วยอย่างเฉียบขาด
         

เวลา เชลซี เสียจุดโทษ ก็จะช่วยสะกิดเตะตัดขาคู่ต่อสู้ให้ยิงลูกปลิ้นหลุดกรอบประตู
        

ในวันนั้น ผมเดินไปถ่ายรูปกับรูปบรอนซ์ของ ปีเตอร์ ออสกู้ด และขนาดที่หมดยุคของเขาไปนับสี่ทศวรรษแล้ว ก็ยังมีภาพโปสเตอร์ขนาดใหญ่ของเขา ติดตามราวกำแพงรั้วสนามให้คนที่คิดถึงเขาถ่ายรูปคู่เป็นที่ระลึก ผมก็ถ่ายภาพนั้นด้วย
         

ยามนี้ ผมหยิบภาพถ่ายนั้นมาพินิจดูทั้งภาพรูปปั้นและภาพโปสเตอร์ พลางรำพึงกับตัวเองว่า
          

ปีเตอร์ คุณไปเกิดใหม่แล้วใช่ไหม?...หรือ
         

ไอ้เอลวิส เอ็งอำเรื่องเอาเถ้าอัฐิ ปีเตอร์ ออสกู้ด มาฝังที่จุดลูกโทษ เพื่อแสดงอิทธิฤทธิ์ช่วยทีมแน่ๆ
          

ไม่งั้น เชลซีคงไม่แพ้เอฟเวอร์ตัน คาสแตมฟอร์ด บริดจ์ จากการยิงลูกโทษตัดสิน ตกรอบเอฟเอ คัพ หรอก
        

แหม! จะด่า ไอ้ตัวต้องด่า อเนลก้า กับ แอชลี่ย์ โคล มันก็ซิมเปิลๆ เกินไป
        

เล่นมุกผีออสกู้ด กับ เอลวิส นี่แหละ ค่อยเข้าสไตล์หน่อย
        


-ยอดทอง-

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์