ปิดตลาดยุโรป เงินหาย-แข้งหด



ซิลบา ย้ายแพงสุดในอังกฤษ



โรบิญโญ่ ลาแล้วลาลับ แมนฯซิตี้



กียาน ฮือฮาส่งท้านตลาด



โจ โคล หนึ่งในของฟรีที่หลายทีมนิยม




โอซิล ไปชุดขาวราคาย่อมเยา





บียา แพงสุดในซัมเมอร์นี้

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

ปิดตลาดยุโรป เงินหาย-แข้งหด

รูดม่านปิดฉากอย่างซบเซาสำหรับตลาดซื้อ-ขายนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้ หลังจาก 6 โมงเย็นวันที่ 31 สิงหาคมทุกทีมไม่สามารถโยกย้ายผู้เล่นได้อีกแล้ว พรีเมียร์ชิป อังกฤษ เวทีที่เคยสะพัดทั้งเงินและผู้เล่นต่างชาติถึงคราวรัดเข็มขัด จากตัวเลขช็อปปิงรวมกัน 350 ล้านปอนด์ (ประมาณ 16,800 ล้านบาท) ตกลงจากปีที่แล้ว 22 เปอร์เซนต์ จากเหตุผลในเรื่องหนี้สินและกฎใหม่ของลีกที่ต้องลงทะเบียนนักเตะ 25 คน
       
       เมื่อช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 20 สโมสรพรีเมียร์ชิป หว่านเม็ดเงินรวมกัน 450 ล้านปอนด์ (ประมาณ 21,600 ล้านบาท) ส่วนปีนี้ตัวเลขอยู่ที่ 350 ล้านปอนด์ ลดต่ำลงที่สุดในรอบ 3 ปี แม้ว่าจะมี แมนเชสเตอร์ ซิตี ครองตำแหน่งแชมป์นักช็อปใช้เงินไป 125 ล้านปอนด์ (ประมาณ 6 พันล้านบาท) คิดเป็น 36 เปอร์เซนต์ของการใช้จ่ายเงินของทุกทีมประจำลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ซิวนักตะ 6 คนแพงที่สุด ดาบิด ซิลบา กองกลางทีมชาติสเปน จาก บาเลนเซีย 26 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,280 ล้านบาท) ที่เหลือก็มี เฌโรม บัวเต็ง, ยายา ตูเร, มาริโอ บาโลเตลลี, อเล็กซานเดอร์ โคโลรอฟ และ เจมส์ มิลเนอร์
       
       ส่วน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อาร์เซนอล เก็บตัวเงียบ มีเพียง เชลซี ที่สอย รามิเรส กองกลางทีมชาติบราซิล มาจาก เบนฟิกา 18.2 ล้านปอนด์ (ประมาณ 873 ล้านบาท) แต่วันสุดท้ายของตลาดซื้อ-ขายนักเตะทีมเบี้ยน้อยหอยน้อยอย่าง ซันเดอร์แลนด์ ทุบกระปุก 13 ล้านปอนด์ (ประมาณ 624 ล้านบาท) ซื้อ อซาโมอาห์ กียาน ดาวยิงทีมชาติกานา เจ้าของผลงาน 3 ประตูในศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่ แอฟริกาใต้ มาจาก แรนส์ ด้าน ลิเวอร์พูล ได้นักเตะ 6 คนแต่ล้วนราคาย่อมเหยาทั้งสิ้น
       
       แดน โจนส์ หนึ่งในที่ปรึกษากลุ่มธุรกิจฟุตบอลของ เดลอยต์ (Deloitte) บริษัทดูแลบัญชีชื่อดัง เผยว่า ถือว่าเป็นตัวเลขที่ลดลงในรอบ 3 ปีทั้งที่ก่อนหน้านี้ พรีเมียร์ชิป ใช้เงินราว 450-500 ปอนด์เป็นประจำทุกปี แน่นอนว่ามาจากเหตุผลหลากหลายปัจจัย แม้ว่าจะมีการเติบโตในเรื่องของเศรษฐกิจอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงมูลค่าสัญญาก้อนโตจากสื่อในช่วงก่อนออกสตาร์ทฤดูกาล แต่การที่ไม่มีเจ้าของทีมรายใหม่เข้ามาลงทุนก็มีผลกระทบพอสมควรจึงไม่สามารถสร้างความสมดุลในตัวเลขโดยรวม
       
       สำหรับตัวเลขใช้จ่ายเงินที่ลดลงในช่วงซัมเมอร์นี้น่าจะสร้างความพอใจให้กับสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป ที่ต้องการให้แต่ละสโมสรควบคุมบัญชีของแต่ละทีม เนื่องจากล้วนมีหนี้สินจึงไม่อยากให้ใช้เงินมากกว่ารายรับของทีมและการลดปริมาณนักเตะใหม่ ก็หมายถึงการที่แต่ละทีมจะสามารถจัดการกับค่าเหนื่อยได้ดียิ่งขึ้น
       
       นอกจากเรื่องหนี้สินที่ทำให้หลายทีมใช้เงินอย่างระมัดระวัง กฎใหม่ของ พรีเมียร์ชิป ทุกสโมสรต้องส่งชื่อนักเตะ 25 คน เพื่อสู้ศึกฤดูกาลหน้า 2010-11 หลังตลาดปิดทำการ 1 วัน ที่สำคัญจะต้องมีผู้เล่น 8 คน (โควตานักเตะท้องถิ่น) ที่ค้าแข้งกับทีมใน อังกฤษ หรือ เวลส์ เป็นเวลาอย่างน้อย 3 ปี ก่อนอายุครบ 21 ปี อยู่ในทัพด้วย เช่นกรณีของ เชส ฟาเบรกาส กองกลางทีมชาติสเปน ที่มาอยู่กับ อาร์เซนอล ตั้งแต่ปี 2003 อย่างไรก็ตามแข้งที่อายุต่ำกว่า 21 ปี ก่อนวันที่ 1 มกราคมที่จะถึงนี้สามารถใช้งานได้ตามปกติไม่ต้องลงทะเบียน
       
       ที่สำคัญจะสังเกตได้ว่าในช่วงปิดตลาดนี้มีนักเตะหลายคนที่เซ็นสัญญาย้ายแบบไม่มีค่าตัวไม่ว่าจะเป็น โจ โคล กองกลางทีมชาติอังกฤษ โยกจาก เชลซี ไปอยู่ ลิเวอร์พูล, วิลเลียม กัลลาส กองหลัง ฝรั่งเศส ถูก อาร์เซนอล ตัดหางปล่อยวัดเลือกไปอยู่กับ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ และ มิชาเอล บัลลัค แข้ง เยอรมนี ลา เชลซี กลับบ้านซบตัก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน
       
       ขณะที่การใช้จ่ายเงินของลีกชั้นนำทั่วทั้งยุโรป รีล มาดริด และ บาร์เซโลนา แห่ง ลา ลีกา สเปน ครองตำแหน่งเจ้าบุญทุ่ม แต่ทว่ายอดรวมเพียงแค่ 240 ล้านปอนด์ (ประมาณ 12,000 ล้านบาท) เป็นรอง กัลโช เซเรีย อา อิตาลี ด้วยจำนวนเม็ดเงิน 260 ล้านปอนด์ (ประมาณ 13,000 ล้านบาท) โดยเฉพาะ เอซี มิลาน ที่ซิว โรบินโญ สตาร์ทีมชาติบราซิล มาจาก แมนฯซิตี ส่งท้ายปิดตลาดด้วยค่าตัว 22 ล้านยูโร (ประมาณ 880 ล้านบาท)
       
       ทั้ง ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี และ สเปน รวมแล้วช่วงซัมเมอร์นี้การใช้เงินลดลงระหว่าง 25-40 เปอร์เซนต์ เมื่อเทียบกับปี 2009 แต่ยังคงเป็นส่วนต่างที่มากกว่าเมื่อเทียบกับ พรีเมียร์ชิป อังกฤษ
       
       
20 อันดับนักเตะย้ายทีมแพงที่สุดในเวทียุโรปช่วงซัมเมอร์นี้
       ดาบิด บีญา (กองหน้า) บาเลนเซีย ไป บาร์เซโลนา 40 ล้านยูโร (ประมาณ 1,600 ล้านบาท)
       ดาบิด ซิลบา (กองกลาง) บาเลนเซีย ไป แมนเชสเตอร์ ซิตี 32 ล้านยูโร (ประมาณ 1,280 ล้านบาท)
       เจมส์ มิลเนอร์ (กองกลาง) แอสตัน วิลลา ไป แมนเชสเตอร์ ซิตี 30 ล้านยูโร (ประมาณ 1,200 ล้านบาท) *แถม สตีเฟน ไอร์แลนด์*
       มาริโอ บาโลเตลลี (กองหน้า) อินเตอร์ มิลาน ไป แมนเชสเตอร์ ซิตี 28 ล้านยูโร (ประมาณ 1,120 ล้านบาท)
       อังเคล ดิ มาเรีย (กองกลาง) เบนฟิกา ไป รีล มาดริด 25 ล้านยูโร (ประมาณ 1 พันล้านบาท)
       ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (กองหน้า) บาร์เซโลนา ไป เอซี มิลาน 24 ล้านยูโร (ประมาณ 960 ล้านบาท) *ย้ายถาวรหลังหมดสัญญายืมตัวปี 2011*
       โยฮัน กูร์คุฟฟ์ (กองกลาง) บอร์กโดซ์ ไป โอลิมปิก ลียง 22 ล้านยูโร (ประมาณ 880 ล้านบาท)
       บรูโน อัลเวส (กองหลัง) ปอร์โต ไป เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก 22 ล้านยูโร (ประมาณ 880 ล้านบาท)
       ฮาเวียร์ มาสเชราโน (กองกลาง) ลิเวอร์พูล ไป บาร์เซโลนา 22 ล้านยูโร (ประมาณ 880 ล้านบาท)
       รามิเรส (กองกลาง) เบนฟิกา ไป เชลซี 22 ล้านยูโร (ประมาณ 880 ล้านบาท)
       โรบินโญ (กองหน้า) แมนเชสเตอร์ ซิตี ไป เอซี มิลาน 22 ล้านยูโร (ประมาณ 880 ล้านบาท)
       คาร์ลอส เอดูอาร์โด (กองกลาง) ฮอฟเฟนไฮม์ ไป รูบิน คาซาน 20 ล้านยูโร (ประมาณ 800 ล้านบาท)
       อเล็กซานเดอร์ โคโลรอฟ (กองหลัง) ลาซิโอ ไป แมนเชสเตอร์ ซิตี 19 ล้านยูโร (ประมาณ 760 ล้านบาท)
       ปิแอร์ อังเดร ชิยัค (กองหน้า) ตูลูส ไป โอลิมปิก มาร์กเซย์ 18 ล้านยูโร (ประมาณ 720 ล้านบาท)
       เอดินสัน คาวานี (กองหน้า) ปาแลร์โม ไป นาโปลี 17 ล้านยูโร (ประมาณ 680 ล้านบาท)
       อซาโมอาห์ กียาน (กองหน้า) แรนส์ ไป ซันเดอร์แลนด์ 15.7 ล้านยูโร (ประมาณ 628 ล้านบาท)
       เลโอนาร์โด โบนุคคี (กองหลัง) บารี ไป ยูเวนตุส 15.5 ล้านยูโร (ประมาณ 620 ล้านบาท)
       ดิเอโก (กองกลาง) ยูเวนตุส ไป โวล์ฟสบวร์ก 15.5 ล้านยูโร (ประมาณ 620 ล้านบาท)
       มิลอส คราซิช (กองกลาง) ซีเอสเคเอ มอสโก ไป ยูเวนตุส 15 ล้านยูโร (ประมาณ 600 ล้านบาท)
       เมซุต โอซิล (กองกลาง) แวร์เดอร์ เบรเมน ไป รีล มาดริด 15 ล้านยูโร (ประมาณ 600 ล้านบาท)


Credit :MGR-SPORT


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์