บิ๊กฟิลเผยไม่รู้สึกกดดัน ย้ำไม่อยากทะเลาะกับใคร

"บิ๊กฟิล" หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี ยอดโค้ชชาวบราซิเลียน เปิดเผยว่า

การทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีม "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ไม่เคยทำให้เขารู้สึกกดดันอะไรเลย เพราะประสบการณ์อันโชกโชนของเขา

จึงทำให้งานนี้ง่ายกว่าที่คิดเอาไว้ แถมยังฝากบอกกุนซือเพื่อนร่วมลีกทุกคนว่า ตัวเขาไม่ต้องการทำสงครามจิตวิทยาด้วยการตอบโต้คารมกับใครหน้าไหนทั้งสิ้น เนื่องจากไม่ต้องการเสียเวลาทะเลาะกับคนอื่นนั่นเอง


 นิวส์ ออฟ เดอะ เวิลด์ สื่อชื่อดังแห่งเมืองผู้ดี เปิดเผยคำพูดของ หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี ผู้จัดการทีมเชลซี ที่ให้สัมภาษณ์ในช่วงที่กำลังพาลูกทีมเดินสายลงเตะนัดอุ่นแข้งในทวีปเอเชียว่า
 
ตัวเขาไม่เคยรู้สึกกดดันกับการทำหน้าที่คุมทีม "สิงโตน้ำเงินคราม" เหมือนอย่างที่หลายคนคาดคิดไว้ เพราะประสบการณ์จากงานโค้ชที่เคยรับงานคุมทีมลูกหนังทั้งในระดับชาติ รวมถึงระดับสโมสรมาก่อน จึงทำให้เขาไม่เคยรู้สึกหวั่นใจกับงานนี้เลยแม้แต่น้อย แถมโค้ชชาวบราซิเลียนรายนี้ยังมีเป้าหมายหวังจะพาทีมไปสู่ความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ทุกรายการที่ลงสนามแข่งขันอีกด้วย


 "ผมไม่เคยรู้สึกกดดันกับการทำหน้าที่คุมทีมเชลซี เพราะการคุมทีมใหญ่ๆ แบบนี้คืองานที่ง่ายสำหรับผม และถ้าผมมีโอกาสได้คุมทีมสโมสรระดับชั้นนำอย่าง มิลาน, บาร์เซโลนา, รีล มาดริด หรือ บาเลนเซีย ผมก็คงมีความรู้สึกแบบนี้เช่นกัน ผมบอกลูกทีมทุกคนว่าต้องการคว้าแชมป์ทุกรายการ และผมก็ต้องการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้สโมสรแห่งนี้"


 พร้อมกันนี้ "บิ๊กฟิล" ยังกล่าวอีกว่า

เขาต้องการเป็นโค้ชชาวบราซิเลียนที่สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้เป็นคนแรก แถมยังตั้งเป้าอยากคว้าแชมป์สโมสรยุโรปถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เพื่อที่จะได้จารึกชื่อของตัวเองว่าเป็นโค้ชเลือดแซมบ้าคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์ถ้วยใบใหญ่สุดในระดับสโมสรของทั้ง 2 ทวีป หลังเคยคว้าแชมป์สโมสรลูกหนังแห่งทวีปอเมริกาใต้ถ้วยโคปา ลิเบอร์ตาโดเรส มาแล้วถึง 2 ครั้ง เมื่อสมัยที่ทำหน้าที่คุมทีมอยู่ในประเทศบ้านเกิด เริ่มจาก เกรมิโอ เมื่อปี 1995 และ พัลไมรัส เมื่อปี 1999   


 นอกจากนั้น สโคลารี ยังฝากบอกโค้ชเพื่อนร่วมลีกที่ต้องต่อกรด้วย

อย่าง "เฟอร์กี้" เซอร์อเลกซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด และ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ที่มักชอบเปิดศึกสงครามน้ำลายใส่เพื่อร่วมอาชีพเดียวกันอยู่เป็นประจำว่า ตัวเขาไม่ต้องการทำสงครามจิตวิทยากับใครทั้งสิ้น และไม่อยากจะเปิดศึกตอบโต้คารมกับคนอื่น เพราะตัวเขาไม่ชอบก่อเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใครนั่นเอง แถมตัวเขาไม่ต้องการเสียเวลากับเรื่องแบบนี้ เพราะอยากจะเอาเวลาทั้งหมดไปทุ่มเทให้การงาน เพื่อหวังพาทีม "สิงโตน้ำเงินคราม" ไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตัวเขาวางไว้   


 "ผมไม่ต้องการต่อปากต่อคำกับผู้จัดการทีมคนไหนทั้งสิ้น ผมรู้ดีว่าพวกเขาต้องการนำจิตวิทยาในเรื่องแบบนี้มาใช้กดดันผม แต่ผมไม่ต้องการจะเสียเวลากับเรื่องแบบนี้ และที่สำคัญที่สุด ผมพูดภาษาอังกฤษยังไม่คล่อง ในบางครั้งผมยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายที่พวกเขาต้องการสื่อถึงผม ดังนั้นจึงไม่อยากพูดจาตอบโต้กับใครทั้งสิ้น"


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์