นิโก้-สเตอร์ริดจ์เช็กบิลเชลซี 2-0 ลิ่วรอบ 5

นิโก้-สเตอร์ริดจ์เช็กบิลเชลซี 2-0 ลิ่วรอบ 5

เชลซียังบอลเขี้ยวบุกเอาชนะเปรสตันทีมท้ายตารางจากเดอะแชมเปี้ยนชิพไปไแบบไม่ยากเย็น 2-0 จากประตูของนิโกลาส์ อเนลก้าและดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ตบเท้าเข้ารอบ 5 หรือ รอบ 8 ทีมสุดท้ายก่อนใครเพื่อน

เอฟเอ คัพรอบ 4

วันเสาร์ที่ 23 มกราคม 2553


เปรสตัน 0-2 เชลซี

ประตู : 0-1 อเนลก้า น.37,0-2 สเตอร์ริดจ์ น.47


ครึ่งแรก

เริ่มมาเชลซีเล่นแบบใจเย็นคล้ายๆสบายอุราโดยนิโกลาส์ อเนลก้าติดเล่นครองบอลดึงคล้ายเล่นกับเด็กมีเล่นลอดดากนักเตะเจ้าถิ่นด้วย

เปรสตันทำเสียวก่อน
แต่นาทีที่ 8 โอกาสแรกของเกมนี้กลายเป็นของเปรสตันที่ไม่ชนะใครมา 11 นัดแล้วเมื่อเซดจ์วิคเปิดบอลมาให้บราว์นโขกชงที่เสาสองแต่คาร์เตอร์พยายามเข้าชาร์จไม่ถึงติดเซฟฮิลาริโอที่ปัดแล้วชนกับเจทีอีกทีด้วย

เชอร์คอฟหลุดซัด
อย่างไรก็ตามนาที 15 เชลซีที่ค่อยๆเคาะบอลมาได้ลุ้นขึ้นนำจากจังหวะที่เชอร์คอฟเล่นชิ่ง 1-2 กับแลมพาร์ดท่ามกลางแนวรับหน้าเขตโทษเต็มไปหมดแต่แข้งทีมชาติอังกฤษฉลาดชิ่งแบบงัดๆให้แข้งรัสเซียหลุดเข้าไปซัดด้วยอีซ้ายมุมแคบแต่โลเนอร์แกนล้มตัวปัดทันควัน

เชลซีพับสนาม-เปาไม่เก๋า
เล่นไปเรื่อยๆทรงบอลของเชลซีขี่ชัดเจนถ้ากะด้วยสายตาน่าจะครองบอลเกือบๆข้างเดียวที่ 90-10 % เลยทีเดียวและนาที 25 เกิดเหตุการณ์ปัญหาเมื่อแลมพ์ได้บอลตรงหัวกระโหลกแล้วไหลแทงให้เชอร์คอฟหลุดขึ้นมาตบบอลจากริมกรอบโทษมาที่เสาแรกก่อนที่มาลูด้าจะวิ่งมาแปเผาขนเข้าไปเลยแต่ไมค์ ดีนเป่าฟาว์ลตั้งแต่จังหวะแลมพ์เจอเสียบเลยชวดได้ประตูและบัลลัครับหน้าที่ปั่นฟรีคิกติดกำแพงเศร้ากันไป

อเล็กซ์กดฟรีคิกเต็มตีน
นาที 31 เชลซีได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษเยื้องฝั่งซ้ายเป็นแลมพ์แตะให้อเล็กซ์วิ่งมากดเต็มข้อพุ่งตรงตัวโลเนอร์แกนที่ลอยปัดสองมือทุบทิ้งทันควัน

นิโก้เปิดซิง 1-0
หลังบี้อยู่นานอีก 6 นาทีต่อมาเชลซีขึ้นนำจนได้จากจังหวะสวนกลับตั้งแต่หน้าประตูตัวเองก่อนที่เดโก้จะไหลมาที่หน้าเขตโทษด้านซ้ายให้อเนลก้าเลี้ยงจี้หาตัวประกบแล้วลากตัดเข้าในก่อนตะบันเต็มข้อบอลพุ่งลอดขาเซนต์ เลดเจอร์ที่หวังดีพยายามบล็อกแต่กลายเป็นทำให้โลเนอร์แกนเสียจังหวะล้มตัวรับบอลกระฉอกตัวเสียบตาข่ายเข้าไปเลย

เปรสตันช็อก 3 หลายิงไม่เข้า
แต่ก่อนหมดเวลา 5 นาทีเปรสตันพลาดโอกาสตีเสมอสุดช็อกหลังลูกเปิดริมเส้นโด่งย้อยเป็นคริส บราว์นกระโดดโขกชงที่เสาสองแล้วฮิลาริโอถอยหลังปัดสุดมือบอลตกมาที่หน้าเขตโทษแต่ดาร์เรน คาร์เตอร์ที่ล้มตัวสไลด์ยิงเผาขนแค่ 3 หลาดันเฉือนบอลปลิ้นข้ามคานซะงั้น ยิงให้ออกยากกว่าด้วยซ้ำ

ฮิลาริโอจุดอ่อน
เปรสตันเริ่มเห็นจุดอ่อนของเชลซีหลังมีปัญหากับลูกโด่งเรียกว่าบอมบ์มาทีไรมีอันต้องป่วนทุกทียังดีที่แข้งเจ้าถิ่นยังไม่คมเลยทำได้แค่หวาดเสียวเท่านั้น หมดครึ่งแรกเชลซีนำอยู่ 1-0

ครึ่งหลัง

สเตอร์ริดจ์บวกเม็ดสอง
เล่นมา 2 นาทีเชลซีมาได้ประตูหนีห่างจากจังหวะเตะมุมที่เจทีโถมมาโขกเต็มกบาลตรงระยะ 6 หลาแต่ติดเซฟโลเนอร์แกนที่โชคร้ายบอลมาตกตรงหน้าสเตอร์ริดจ์ที่กดเผาขน 3 หลาไม่มีเหลือ

แลมพ์เจ็บ
เกมกลับมาเนือยๆเพราะเชลซีนำสองลูกเลยไม่รีบเร่งแถมจังหวะสวนกลับสเตอร์ริดจ์ปั่นบอลไซด์ตรงหน้าเขตโทษเลี้ยงเฉี่ยวสามเหลี่ยมออกไปนิดเดียว

จากนั้นนาที 66 แลมพาร์ดส่งสัญญาของเปลี่ยนตัวหลังมีอาการบาดเจ็บจนคาร์โล่ อันเชล็อตติต้องส่งโจ โคลลงสนาม

บัลลัคเกือบซัดลูกสาม
อีกนาทีเดียวอเนลก้าป่วนตัวประกอบตรงริมกรอบโทษโดยยึกยะจะโยนไม่โยนอยู่สองทีก่อนลากไปเส้นหลังแล้วตบให้บัลลัคซัดเหน่งๆแต่โลเนอร์แกนปัดข้ามคานออกไปพร้อมส่ายหัวบ่นเพื่อนอุบ

เชลซีเน้นส่องไกล
นาที 72 สเตอร์ริดจ์ได้บอลตรงระยะ 25 หลาก่อนซัดด้วยอีซ้ายข้างถนัดบอลพุ่งเลียดเฉี่ยวเสาออกไปสุดหวาดเสียว เล่นดีจริงๆสำหรับอดีตดาวรุ่งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ผู้นี้

อีก 3 นาทีต่อมาอเนลก้าพาทัวร์ก่อนส่องไกลตรงหัวกระโหลกบอลพุ่งเลียดแรงแต่โลเนอร์แกนยังเหนียวล้มตัวรับหนึบ

เปรสตันเอาใจแฟน
เปรสตันเริ่มใช้มวยวัด+ใจสู้กะตีไข่แตกเอาใจแฟนบอลทิ้งทวนและมีโอกาสยิง 2-3 ครั้งจากเมลเลอร์อดีตเด็กหงส์ปั่นไซด์แต่บอลไม่โค้งก่อนออกหลังแล้วก็มีพาร์กินลองสิงไกลบอลออกหลังไป

สเตอร์ริดจ์เกือบเบิ้ล
ก่อนหมดเวลา 7 นาทีลูกวางยาวเข้าเขตโทษเป็นสเตอร์ริดจ์ได้ลูกคล่องเบียดแซงเลดเจอร์ที่วันนี้เล่นรั่วเยอะจนหลุดไปล่อเป้ากับโลเนอร์แกนแต่เลดเจอร์มีดึงทำให้หอกดาวรุ่งเสียหลักพยายามแหย่ยิงไม่เต็มเท้าติดบล็อกโลเนอร์แกนออกหลังไป

หมดเวลาเปรสตันที่พยายามจะทวงประตูจากเชลซีก็ทำได้แค่เอาชนะใจแฟนหมดเวลาแพ้คาบ้าน 2-0 ตกรอบ 4 และต้องไปดิ้นรนหนีตกชั้นกันต่อส่วนเชลซีลิ่วเข้ารอบ 5 ลุ้นแชมป์รายการนี้กันต่อไป

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

เปรสตัน :
แอนดี้ โลเนอร์แกน,ไมเคิ่ล ฮาร์ท ,ยูล มาเวเน่,ฌอน เซนต์ เลดเจอร์,คัลลัม เดวิดสัน,คริส เซดจ์วิค(เมเยอร์ น.72),ริชาร์ด แชปโลว์,บิลลี่ โจนส์,ดาร์เรน คาร์เตอร์(พาร์คิน น.59),รอส วัลเลซ,คริส บราว์น(เมลเลอร์ น.72)

เชลซี : เฮนริเก้ ฮิลาริโอ,เปาโล แฟร์เรียร่า,อเล็กซ์,จอห์น เทอร์รี่,ยูริ เชอร์คอฟ,ชูเลียโน่ เบลเล็ตติ (มาลูด้า น.19),มิชาเอล บัลลัค,แฟร็งค์ แลมพาร์ด (แลมพาร์ด น.66),เดโก้,นิโกลาส์ อเนลก้า,ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์




















_________________
##### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์