ซีโร่ทูฮีโร่!โกเมสทำเสีย-เซฟโทษไก่เจ๊าสิงห์ 1-1

ซีโร่ทูฮีโร่!โกเมสทำเสีย-เซฟโทษไก่เจ๊าสิงห์ 1-1

เฮเรลโญ่ โกเมสเกือบต้องฝันร้ายเสียแล้ว เพราะดันไปทำเสียจุดโทษในช่วงทดเวลาในขณะที่สกอร์เสมอกันอยู่ 1-1 แต่แล้วเขาก็กลายเป็นฮีโร่ของเหล่าผองสเปอร์สพุ่งเซฟลูกโทษของดร็อกบาเอาไว้ได้ ทำให้สุดท้ายแบ่งแต้มกันไป เชลซียังคงสะกดคำว่าชนะไม่เป็น 5 เกมติด

พรีเมียร์ ลีก

วันอาทิตย์ที่ 12 ธันวาคม 2553


สเปอร์ส 1 : 1 เชลซี

ประตู :
1-0 โรมัน พาฟลูเชนโก้ น.15,1-1 ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา น.70

นี่บิ๊กแมตช์ที่แฟนบอลหลายคนเฝ้ารอประจำสัปดาห์นี้ โดยเป็นการพบกันระหว่างสเปอร์สที่เปิดรังไวท์ ฮาร์ท เลนต้อนรับการมาเยือนของเชลซีที่กำลังกระท่อนกระแท่นอยู่

ทางด้านเจ้าบ้านมาแบบเต็มๆ แถมยังได้ไมเคิ่ล ดอว์สันที่เจ็บไปนานกลับคืนทีมด้วย จะขาดก็เพียงแต่ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ตที่เร่งความฟิตกลับมาไม่ทันเกมนี้

กลายเป็นแฟรงค์ แลมพาร์ด และดิดิเย่ร์ ดร็อกบาที่ตอนแรกหลายข่าวสับสนว่าพร้อมหรือไม่ แต่ในที่สุดเขาก็กลับมาคืนทีมให้แฟนบอลได้ชื่นใจ เพียงแต่มีชื่อเป็นตัวสำรองไปก่อนเท่านั้น

ครึ่งแรก

เอก็อตโต้เกือบสร้างงาน
เริ่มเกมมาได้แค่ 3 นาที สเปอร์สก็เกือบจะผิดพลาดกันเองจนเสียประตูซะแล้ว จากจังหวะที่เอสเซียงโยนบอลอย่างกับแลมพ์พาร์ดไปน้ำหนักพอดิบพอดีให้กับอเนลก้าสวนขึ้นไปทางซ้าย ก่อนที่จะไกลให้กับกาลูตรงกลาง แต่เจ้าตัวจับบอลไม่ดี เลยหมดโอกาสยิง และบอลก็เข้าทางสเปอร์สแล้ว แต่เอก็อตโต้ดันไปลังเลจะปล่อยให้โกเมสออกมารับลืมมองว่ามีผู้เล่นของเชลซีพร้อมวิ่งเข้ามาฉกไปยิง แต่ยังดีรู้ตัวทันรีบสกัดทิ้งออกไปได้

สิงห์ดูได้เนื้อกว่า
ผ่าน 10 นาทีแรก เกมนี้ถือว่าสูีสีกันพอสมควร แต่ก็เป็นทางเชลซีที่ครองบอลได้่เหนือกว่าทางเจ้าบ้าน และมีโอกาสได้ลองส่องอยู่ 2-3 ครั้ง แต่ส่วนมากจะเป็นนอกกรอบ และไม่ได้ลุ้นเสียวอะไรมาก

สิงห์ตะลึง!พาฟลูแตะแล้วยิง
นาทีที่ 15 พอดิบพอดี เชลซีที่เหมือนจะดูดีกว่าในช่วงต้นเกมกลับต้องเซ็งไปก่อนซะงั้น จากจังหวะสวนกลับโยนยาวจังหวะเดียวของสเปอร์สไปให้กับเดโฟที่วิ่งไปรับบอลทางด้านซ้าย ก่อนที่จะจ่ายเข้ากรอบเขตโทษให้กับพาฟลูเชนโก้ที่วิ่งมาแตะบอลหนีเทอร์รี่ที่เหมือนจะเหม่อเพราะไม่ยอมไล่ตาม ทำให้่หอกรัสเซี่ยนได้โอกาสซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งผ่านมือของเช็กที่ล้มตัวปัดไม่ทันเสียบตาข่ายเข้าไปสวยงาม สเปอร์สนำแล้ว 1-0

กล้องซูมไปที่หน้าของอันเชล็อตติบอกบุญไม่รับอย่างแรง เพราะสถานการณ์กดดันเหลือเกิน

จ่าเฉยเสียว!เฮ่งเจียเจ็บ
อีก 4 นาทีต่อมา แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ถึงกับสะดุ้งออกมาจากม้านั่ง จากจังหวะที่เอสเซียงไปเข้าบอลช้าใส่เบล และย่ำเข้าที่ขา จนทำให้ปีกเฮ่งเจียล้มลงกุมขาก่อนร้องโอดโอยชนิดที่เสียวว่าหักหรือไม่หัก ทำให้ผู้ตัดสินต้องหยุดเกมมาดูอาการ ก่อนที่จะพบว่าไม่บาดเจ็บรุนแรงนัก

จังหวะนี้ไม่ได้เป็นการฟาวล์เพราะทั้งผู้ตัดสิน และผู้ช่วยไม่ได้ว่าอะไร

กาลูชาร์จไม่ตรง
นาทีที่ 22 ซี๊ดปากกันใหญ่สำหรับแฟนเชลซี จากจังหวะที่รามิเรสยึกยักอยู่ริมเส้นขวา ก่อนที่จะเปิดบอลแบบได้เสียบเข้าไปที่เสาแรก ตำแหน่งเหมาะเจาะเพราะกองหลังของสเปอร์สยากสกัด แต่ทางกาลูที่พุ่งเข้ามาก็ชาร์จบอลปลิ้นไปเสาไกลได้แค่เสียงฮือฮา

กาลูได้อีกหนึ่งเสียว!
นาทีที่ 25 กาลูได้โอกาสทำแฟนซู้ดปากอีกครั้ง จากจังหวะที่มาลูด้าพาบอลไปทางริมเส้นได้สวน ก่อนที่จะเลี้ยงตัดเข้าในเขตโทษพยายามจ่ายเข้ากลาง ติดบล็อกของทางบาสซง แต่อเนลก้าเก็บตกได้ก่อนที่จะคักบอลเข้าไปหน้าประตู เป็นกาลูที่เทคตัวสูงกว่าใครได้โหม่ง แต่บอลไม่หนีมือโกเมสมากนัก ทำให้ปัดไว้ได้ ก่อนจะตามตะครุบอีกจังหวะ

เกมสนุกน่าดูชม
เข้าช่วงครึ่งชั่วโมงแรก เกมของทั้งสองทีมไม่ยี่หระกันเลยแม้แต่นิดเดียว บุกใส่กันชนิดได้ลุ้น ได้สนุกกันอยู่ตลอดเวลา ผลัดกันรุกรับเกมเปิดเป็นอย่างยิ่ง งานนี้แฟนบอลลุ้นกันมันส์ไปเลย

เจทีสกัดสุดแม่น
นาทีที่ 34 เทอร์รี่โชว์ความสามารถในเกมรับด้วยการดักจังหวะสำคัญที่เดโฟกำลังจะแตะบอลหลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับทางเช็กแน่แล้วในการสวนกลับเร็ว แต่ก็โดนทางอดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษปั้มเกี่ยวบอลเอาไว้ได้อย่างแม่นยำ

กาลูโหม่งแค่เสียวอีก
อีก 2 นาทีต่อมา กาลูเจ้าเก่าคนเดิมยังคงไม่มีดวงในการทำประตู จากจังหวะฟรีคิกของเชลซีที่โยนบอลได้น่ากลัวเข้ากรอบเขตโทษ กาลูขึ้นโหม่งเช็ดสะบัดไปเสาสอง แต่ก็หลุดออกหลังไปนิดเดียวเท่านั้น

สิงห์เฮเก้อ!
นาทีที่ 42 เชลซีเฮกันเก้อเลย จากจังหวะที่เบลไปประมาทในกรอบเขตโทษพยายามจะแตะบอลหนี แต่โดนผู้เล่นเชลซีฉกไปได้ก่อนที่จะรีบเปิดบอลเข้ากลาง บอลไปแฉลบพวกเดียวกันเอง แต่กลายเป็นดีเข้าทางของอเนลก้าที่แปบอลเข้าไปนอนอยู่ก้นตาข่ายได้แล้ว แต่ไลน์แมนตีธงล้ำหน้าไปเสียก่อน

เกือบไป!เช็กช่วยเซฟชีวิต
ช่วงทดเวลานาทีแรก อเนลก้าเกือบทำทีมเสียประตูที่สองซะแล้ว หลังไปจ่ายบอลพลาดง่ายๆโดนสเปอร์สสวนกลับ พาฟลูเชนโก้บรรจงจ่ายบอลทะลุช่องให้กับเดโฟวิ่งแซงอิวาโนวิช แต่เป็นเช็กที่อ่านเกมขาดว่าเพื่อนวิ่งตามฝีเท้าซาไกไม่ทันแน่ เลยพุ่งออกมาตัดบอลไว้ได้ทัน

ช่วงท้ายสเปอร์สได้บุกเสียวอีกเล็กน้อย แต่สุดท้ายมิมีอะไรเกิดขึ้น ครึ่งแรกยังคงนำทางเชลซีอยู่ 1-0

ครึ่งหลัง

เชลซีเปลี่ยนเอาดิดิเย่ร์ ดร็อกบาลงเล่นแทนจอห์น โอบี มิเกล

แมลงสาบเกือบอาละวาด
นาทีที่ 55 ดร็อกบาที่เพิ่งถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลังเกือบที่จะแผลงฤทธิ์เพราะได้โอกาสตะบันจากนอกกรอบเขตโทษบอลพุ่งแรงไปเสาสอง แต่โกเมสก็จะพุ่งสุดตัวไปปัดเอาไว้ได้ปลายมือ

จังหวะต่อเนื่องจากเตะมุม สเปอร์สเคลียร์ออกไปด้านข้าง แต่โดนเชลซีบอมบ์กลับเข้ามาอีกครั้ง ปาลาซิออสเจตนาดีตั้งใจโหม่งเสยเพื่อจะสกัด แต่กลับกลายเป็นบอลพุ่งจะเสียบใต้คาน ยังดีที่โกเมสไวดีดตัวปัดเอาไว้ได้ทัน

ซาไกออก-เปรตเข้า
นาทีที่ 60 สเปอร์สต้องแก้เกมเมื่อเดโฟดูเหมือนว่าจะโชว์ฝีไม้ลายมือไม่ออกเท่าไรในเกมนี้ ส่งเคร้าซ์ลงไปเล่นแทน ซึ่งทำให้ตอนนี้คู่หน้าของเจ้าบ้านสูงใหญ่ได้ใจกันทั้งคู่

ไก่ชักจะยังไง
รูปเกมในครึ่งหลังกลายเป็นว่าสเปอร์สต้องเน้นตั้งรับซะส่วนมากต่างกับในครึ่งแรกที่ดูสูสีกันกว่านี้ ถ้าหากยังปล่อยให้เชลซีต้องทำเกมบุกอยู่แบบนี้เรื่อยๆ พลาดเมื่อไรได้ร้องจ๊ากแน่

สิงห์ปรับเกมอีก
นาทีที่ 68 เชลซีต้องปรับเกมอีกคำรบ หลังจากทำท่าจะดีแล้วก็โดนทางสเปอร์สตั้งเกมบุกกลับแบบได้ลุ้นเสียวอยู่พอควร จึงต้องเปลี่ยนเอากาลูออกและส่งสเตอร์ริดจ์ลงไปเล่นแทน

พลังแมลงสาบ!ยิงลูกตีนระเบิด
อีก 2 นาทีต่อมา เชลซีมาได้ประตูตีเสมอจากความผิดพลาดของดอว์สันที่ไปโหม่งสกัดจากการที่เขาประกบดร็อกบาไม่ดีไปหลงบอล ทำให้ดร็อกบามีโอกาสได้หลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายตามน้ำในกรอบเขตโทษปานว่ายิงลูกปืนใหญ่ บอลพุ่งเร็วแรงจนถึงขนาดที่ว่าตรงตัวโกเมสแต่ก็ปัดเอาไว้ไม่อยู่ บอลเด้งข้ามหัวเข้าประตูไป เกมเสมอกัน 1-1 แล้ว

แม้ว่าจากภาพช้าในจังหวะที่ดอว์สันเบียดกับดร็อกบาอยู่จะเป็นแขนดร็อกบาที่โดนบอลก็ตาม แต่ผู้ตัดสินไม่เห็น จึงต้องยกประโยชน์ให้กับทางเชลซีไป

ไก่รอดเฉย!
นาทีที่ 77 สเปอร์สรอดพ้นจากการเสียประตูได้อย่างไม่น่าเชื่อ จากจังหวะเตะมุมที่โยนเข้าไปเสาแรกดร็อกบาเบียดทางเคร้าซ์โหม่งเช็ดเข้ากลาง เสอตร์ริดจ์กำลังง้างจะกระโดดแปบอลเข้าประตูไปแล้ว แต่เอก็อตโต้ไม่รู้มาจากไหนกระโดดดีดบอลกลับหลังออกไปได้แบบเฉียดฉิว

ขอเสียงโหน่ยยยย!แลมพ์กลับมาแว้ว
นาทีที่ 76 เชลซีน้ำขึ้นให้รีบตักโมเมนตั้มของทีมกำลังได้บุกกดดันทางสเปอร์สที่ระส่ำ ส่งแลมพาร์ดตัวทำเกมที่แฟนบอลคิดถึงมาเนิ่นนานลงเล่นแทนมาลูด้า

จ่าเฉยรู้ตัวส่งคีนน้อยลง
อีก 2 นาทีต่อมา เร้ดแนปป์เริ่มรู้ตัวว่ากองหน้าสูงๆสองคนมันไม่เวิร์คเลยต้องเปลี่ยนเอาคีนลงไปเล่นแทนพาฟลูเชนโก้ผู้ทำประตูในเกมนี้

เลนน่อนยิงไม่ดี
นาทีที่ 79 จังหวะเคลียร์บอลแบบสะเปะสะปะของกองหลังเชลซีเกือบทำให้สเปอร์สมีโอกาสขึ้นนำอีกครั้ง เพราะบอลไปเข้าทางเลนน่อนที่มีโอกาสตั้งป้อมยิงนอกกรอบ แต่เหมือนเจ้าตัวจะเร่งๆทำให้ยิงออกหลังไป

โกเมสเกือบทำแย่
นาทีที่ 84 การสื่อสารของผู้เล่นสเปอร์สที่ผิดพลาดเกือบทำให้ทีมต้องพบกับฝันหลาย จากจังหวะที่เชลซีสวนกลับเร็วแล้วแทงบอลทะลุช่องขึ้นหน้าซึ่งไม่ได้เปรียบแล้ว และโกเมสน่าจะเคลียร์ได้ หรือไม่ก็รอรับในกรอบเขตโทษ แต่กลับหวดไปติดเอก็อตโต้ที่วิ่งบังบอลมา ยังดีที่ไม่กระดอนเข้าประตูไป

โกเมสดราม่า!ทำเสียโทษแต่เซฟแจ่ม
ช่วงทดเวลานาทีแรก กองหลังของสเปอร์สพลาดท่าให้ดร็อกบาเกี่ยวบอลตวัดขึ้นหน้าได้ ทำให้รามิเรสมีโอกาสหลุดเข้าไปเตรียมยิง และโกเมสก็พุ่งออกมาจะรับบอล แต่ช้ากว่า ทำให้ชนกันอย่างจัง ผู้ตัดสินวิ่งมาชี้เป็นจุุดโทษทันทีไม่มีลังเล

แต่ดร็อกบาเป็นคนรับหน้าที่สังหารกลับถูกทางโกเมสเซฟเอาไว้ได้อย่างสวยสดงดงาม

ทำให้จบเกมทั้งสองทีมเสมอกันไป 1-1 แบ่งกันทีมล่ะแต้ม สเปอร์สแซงโบลตันกลับขึ้นไปอยู่ที่อันดับ 5 มี 27 คะแนน ในขณะที่เชลซีมี 31 คะแนนอยู่ที่ 4 เหมือนเดิม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
สเปอร์ส :
โกเมส 7,เซบาสเตียน บาสซง 7,ไมเคิ่ล ดอว์สัน 7.5,เบนอต์ อัสซู-เอก็อตโต้ 6,อลัน ฮัตตัน 7,ลูก้า โมดริช 7,วิลสัน ปาลาซิออส 7(ซานโดร - น.89),แกเร็ธ เบล 6.5,แอร่อน เลนน่อน 7,โรมัน พาฟลูเชนโก้ 7(คีน - น.78),เจอร์เมน เดโฟ 6(เคร้าซ์ 6 น.60)

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก 6.5,จอห์น เทอร์รี่ 6.5,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช 6,แอชลี่ย์ โคล 6,เปาโล แฟร์เรร่า 7,จอห์น โอบี มิเกล 6(ดร็อกบา 7 น.45),มิชาเอล เอสเซียง 6,ฟลอร็องต์ มาลูด้า 6.5(แลมพาร์ด 6 น.78),ซาโลมอง กาลู 6(สเตอร์ริดจ์ 6 น.68),นิโกล่าส์ อเนลก้า 6,รามิเรส 6























_________________
สนับสนุนข่าวโดย www.lentee.com



Chelsea

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์