กำเนิดใหม่กองหน้ามหากาฬ

กำเดนิใหม่กองหน้ามหากาฬ



จาก เสียงชื่นชมที่มีต่อ มิชาแอล เอสเซียง เมื่อราว 2 สัปดาห์ก่อนที่หลายต่อหลายคนบอกว่าการกลับมาของ ไบซัน นี่แหละที่ทำให้เชลซี กลับมาเป็น สิงโตน้ำเงินคราม ตัวจริงเสียงจริงอีกครั้ง

แต่ ถึงตรงนี้คนที่ควรจะได้รับเสียงปรบมือในจังหวะที่ไม่น้อยไปกว่ากันแบบไม่ ต้องโต้แย้งก็คือ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา กองหน้ามหากาฬ ที่กลายเป็น ตัวแสบ สำหรับคู่ปรับหลายๆทีมไปแล้ว
โดยเฉพาะ หงส์แดง และ ปืนใหญ่ ที่คงแค้นฝังหุ่นกันไปอีกนาน
ก่อนหน้านี้เราได้ผ่านตากันไปแล้วในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8
ทีม สุดท้ายทั้งสองนัด ที่ ดร็อกบา สามารถเล่นงานเอาจนคู่กองหลังที่ได้รับการยกย่องว่าไม่ได้เป็นรองใครในยุโรป อย่าง มาร์ติน สเคอร์เทล และเจมี่ คาร์ราเกอร์ ถึงกับต้องนอน ฝันร้าย ไปหลายคืน
เพราะมันไม่ต่างอะไรจากฝันสยองที่ต้องเจอกับเจ สันใส่หน้ากากฮ๊อคกี้สีดำแถมยังตัวดำที่ตามไล่ล่าและใช้พละกำลังที่เหนือ กว่าไล่ฆ่าอย่างทารุณ
ยิ่งเป็น คาร์ราเกอร์ ยิ่งเจ็บปวดเพราะตลอดหลายปีที่ผ่านมา กองหลังที่ติดท็อปไฟว์ของพรีเมียร์ลีกคนนี้ ถูกไล่ต้อนจนมุมแบจะตลอด เพราะรองกัปตันหงส์แดงไม่ได้เป็นกองหลังที่โดดเด่นด้านใดเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการอ่านทางบอล เรื่องของพละกำลังและร่างกายที่แข็งแกร่ง หรือความเร็วที่เหนือกว่าคนอื่นๆ
สิ่งเดียวที่คาร์ราเกอร์ มีคือความกล้าหาญและการเล่นตามสัญชาติญาณที่มักจะอยู่ถูกที่ถูกเวลาเสมอในยามคับขัน
แต่สิ่งเหล่านั้นมันใช้ไม่ได้กับกองหน้าอย่าง ดร็อกบา
ดร็อกบา พญาคชสีห์จากไอวอรี่โคสต์ เป็นดาวยิงในสไตล์ที่หาได้ยากในวงการ เนื่องจากมีครบทั้งความดิบ เถื่อน และความพลิ้วไหว รวมถึงเทคนิคชั้นเชิงที่จัดว่ายอดเยี่ยม
นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์หน้าที่ใช้จุดเด่นของตัว เองได้อย่างดี นั่นคือร่างกายที่กำยำแข็งแกร่งแรงยิ่งกว่าช้าง โดยมีเทคนิคในการครองบอลที่สุดยอด สามารถเก็บเกี่ยวเอาบอลลงมาเล่นได้ในแทบทุกสถานการณ์
ด้วยเหตุนี้เราก็เลยได้เห็น ดร็อกบา เบียดบี้กองหลังคู่แข่งจนกระเจิงก่อนจะเอาบอลลงมาเล่นสบายๆ
มาวัดกันปอนด์ต่อปอนด์แล้ว คนที่สูสีกับดร็อกบา ในความเป็น ศูนย์หน้าโดยธรรมชาติ ก็คงจะมีแค่ รุด ฟาน นิสเตลรอย กับเฟร์นานโด ตอร์เรส เท่านั้น
แต่ดร็อกบา ก็มีจุดอ่อนในเรื่องเส้นอารมณ์ที่อ่อนไหว และเกือบเสียผู้เสียคนไปแล้ว
ฝันร้ายเกือบ
2 ปี ที่ผ่านมานับตั้งแต่เจ้านายใหญ่ที่ฝากชีวิตไว้ให้อย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ จากไปแบบกระทันหัน ทำให้กองหน้าคนนี้ไม่เคยมีความสุขในการเล่นให้กับเชลซี
ความรู้สึกที่เก็บกด อัดอั้นตันใจมานาน ถูกระเบิดออกมาแบบหมดเปลือก จนมีข่าวย้ายทีมแทบจะรายวัน
สำหรับดร็อกบา ไม่มีใครแทนที่ของมูรินโญ่ได้ โดยเฉพาะกับสองกุนซือที่เขาไม่นับถืออย่าง อัฟราม แกรนท์ และหลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ ที่สุดท้ายเมื่อถึงคราวต้องงัดข้อกันจริงๆ (โดยเฉพาะกรณีของสโคลารี่)
แทบไม่น่าเชื่อว่าบอร์ดของเชลซี ยังเลือกศูนย์หน้าที่หักคอซื้อมาจากมาร์กเซย์ ด้วยค่าตัว
24 ล้านปอนด์
แต่นั่นได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
ดร็อกบา ได้รับความไว้วางใจจากนายใหญ่คนใหม่ที่มาชั่วคราวอย่าง กุส ฮิดดิ้งค์ ที่ให้ทั้งโอกาสและเรียกความมั่นใจกลับมาอย่างช้าๆ
เรื่องนี้ปรากฏตั้งแต่ในเกมแรกที่ ฮิดดิ้งค์ คุมทีมเต็มตัว ดร็อกบา ได้รับโอกาสลงยืนเป็นตัวจริง โดยมีนิโกล่าส์ อเนลก้า เป็นผู้ช่วย
หลังจากนั้น อเนลก้า ที่กระแสดีกว่าก็ค่อยๆถูกเบียดหายไปเรื่อยๆ เพราะฮิดดิ้งค์ รู้แล้วว่าใครคือหมายเลขหนึ่งตัวจริง
และถ้ามองกันในรายละเอียด ผลงานของเชลซี ที่ดีวันดีคืนนับตั้งแต่ได้กุนซือชาวดัตช์มาคุมทีม ส่วนใหญ่ต้องให้เครดิตกับ ดร็อกบา ที่มีส่วนสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะการยิงประตูตัดสินในเกมสำคัญๆ
หลายครั้งที่เขานำชัยชนะมาสู่ทีม และอีกหลายครั้งที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้
ในเกมกับอาร์เซนอล ดร็อกบา เพียงคนเดียวก็ทำเอาแนวรับของกันเนอร์ส ต้องฝันร้าย โดยเฉพาะผู้รักษาประตูอย่าง ลูคัส ฟาเบียงสกี้ ที่เสียคนไปเลยในเกมนี้
ความน่าเกรงขามของกองหน้ามหากาฬทำเอาแข้งขานาย ทวารดาวรุ่งสั่นพะเงิบๆ โดยเฉพาะในยามหน้าสิ่วหน้าขวานที่ต้องการการตัดสินใจที่เฉียบขาด ฟาเบียงสกี้ ตัดสินใจพลาดหมด
การรอดตัวไปในช่วงต้นเกมที่ปล่อยบอลตกพื้นจน โดนดร็อกบา โถมโขกแต่ยังมีคีแรน กิ๊บบ์ส ตามไปช่วยชีวิตทัน ก็ไม่ได้สอนให้ ฟาเบียงสกี้ รู้ว่าควรจะทำอย่างไรเมื่อเจอคู่แข่งระดับนี้
สุดท้ายดร็อกบา ก็โฉบเอาบอลเข้าไปยิงสบายๆ
สิ่งที่น่าสนใจในยามนี้คือ ดร็อกบา จะช่วยกันกับแกนนำคนอื่นไม่ว่าจะเป็น แฟรงค์ แลมพาร์ด, จอห์น เทอร์รี่ หรือมิชาแอล เอสเซียง พาทีมไปได้ไกลแค่ไหน โดยเฉพาะในบอลถ้วย
2 รายการที่มีลุ้นทั้งยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่จะตัดเชือกกับบาร์เซโลน่า และเอฟเอ คัพ ที่รอชิงไปแล้ว
และคำถามที่ใครอยากรู้ก็คืออนาคตของเขาจะไปในทิศทางไหน เมื่อเชลซี ยังไม่รู้ว่าใครจะมาเป็นนายใหญ่คนใหม่
เท่าที่รู้คือ ถ้าหากอยากรักษาความน่าเกรงขามของดร็อกบาเอาไว้ ก็ต้องหานายใหม่ที่สามารถซื้อใจพญาคชสีห์จอมผยองคนนี้ให้ได้เท่านั้น
ไม่เช่นนั้นวังวนเดิมๆ ก็จะกลับมาเป็นช่วงเวลาเลวร้ายของทั้งดร็อกบา และเชลซี พอๆกัน