Chelsea News!!!












อันเชล็อตติ รับสิงห์บี้หม้อไม่ประทับใจ






src=http://www.b4thematch.com/tools/userimage/553000012768701.jpeg

คาร์โล อันเชล็อตติ ยอมรับ สิงห์บลูส์ เชลซี เปิดรังบดเอาชนะ ช่างปั้นหม้อ สโต๊ก ซิตี ไม่ค่อยน่าประทับใจนักในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม 2553

หลังจากโชว์ฟอร์มเทพไล่ถล่ม เวสต์บรอมวิช อัลเบียน และวีแกน แอธเลติก 6-0 แฟนๆ เชลซี คาดหวังเห็นต้นสังกัดเปิดสแตมฟอร์ด บริดจ์ ไล่ยำ สโต๊ก ซิตี ที่ปราชัยมาสองนัดก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี แชมป์เก่า พรีเมียร์ลีกแค่พิชิตชัยไป 2-0 จากผลงานของ ฟลอรองต์ มาลูดา และจุดโทษของ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ในขณะที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด ซัดจุดโทษโดนเซฟ แถมตัวเองบาดเจ็บต้องโดนเปลี่ยนตัวออก หมดสิทธิช่วยทีมชาติอังกฤษประเดิมเตะคัดเลือกยูโร 2012 ช่วงต้นเดือนกันยายน เช่นเดียวกับ จอห์น เทอร์รี ปราการหลังเพื่อนร่วมชาติ

หลังเกม คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือชาวอิตาเลียน ออกมาเผย ผมมีความสุขที่เราเก็บชัยชนะ แต่เรายังเล่นไม่ได้ในจังหวะที่ดีเยี่ยม นี่ไม่ใช่ฟอร์มอันยอดเยี่ยมของเรา จังหวะจะโคนต่างๆ ยังไม่ได้กัน แต่ดีที่เรายังไม่เสียประตู ซึ่งก็หวังว่า เชลซี จะรักษาสถิติไม่เสียประตูเอาไว้ได้และอยู่บนหัวตารางต่อไป อย่างไรก็ดี สัปดาห์นี้ถือว่าเราทำงานกันค่อนข้างหนัก เพราะผู้เล่นหลายคนยังดูไม่เฉียบกันนัก

ด้าน โทนี พูลิส กุนซือ สโต๊ก กล่าวเช่นกัน เราถือว่าเล่นกันได้ไม่เลวเลย เพียงแต่โดยรวมเป็น เชลซี ที่ดีกว่า พวกเขามีสุดยอดนักเตะ สามารถสร้างสรรค์โอกาสกันได้มากมาย แต่ผมก็ต้องให้เครดิตลูกทีมเช่นกันที่สามารถยันพวกเขาเอาไว้ได้อย่างสุดชีวิต

 

ขอขอบคุณ



 
หม้อสะกิดเชลซีอยากได้เบโกวิชเอามา 10 ลป.

สโต๊คซิตี้ ตั้งราคาอัสเมียร์ เบโกวิช นายทวารดาวรุ่งวัย 23 ปีของทีมที่เชลซีให้ความสนใจอยู่ที่ราคา 10 ล้านปอนด์เรียบร้อยแล้ว

จอมหนึบวัย 23 ปีมีข่าวว่าเชลวีอยากได้ตัวอย่างมาก ขณะที่เจ้าตัวก็อยากจะย้ายทีมเหมือนกัน ถึงกับปฏิเสธที่ลงเฝ้าเสาในเกมลีกคัพที่จะพบกับชรูว์เบอรี่ เพื่อไปเตรียมตัวย้ายไปสแตมฟอร์ดบริดจ์อีกด้วย

โทนี่ ปูลิส กุนซือช่างปั้นหม้อยืนยันว่าการตัดสินใจไม่ลงเล่นนั้นอยู่ที่นักเตะด้วย ทำให้ทางสโมสรไม่มีทางเลือกตั้งราคา 10 ล้านปอนด์ไว้เรียบร้อย หากได้ราคาตามนี้ก็พร้อมจะปล่อยออกจากบริทาเนียสเตเดียมทันที

ขณะเดียวกัน เบโกวิชก็กำลังได้รับความสนใจจากแมนเชสเตอร์ซิตี้อีกด้วย
 

Credit : SoccerSuck 

อันเช่ยกย่องมาลูด้าทำผลงานขั้นเทพ















คาร์โล อันเชล็อตติ ผู้จัดการทีมชาวอิตาเลียนของ สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ยักษ์ใหญ่แห่งวงการลูกหนังเมืองผู้ดี ออกมากล่าวยกย่องผลงานของ ฟลอร็องต์ มาลูด้า ปีกซ้ายทีมชาติฝรั่งเศส ในเกมชนะ สโต๊ค ซิตี้ 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา
 

มาลูด้า ช่วยยิงประตูเบิกร่องให้ สิงโตน้ำเงินคราม ก่อนที่ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา จะสังหารจุดโทษปิดท้าย ทำให้พวกเขาเก็บชัยชนะ 3 นัดรวด และไม่เสียประตูเลย ทำให้ตอนนี้ยังคงรั้งจ่าฝูงลีกต่อไปอย่างเหนียวแน่น โดย คาร์เล็ตโต้ กล่าวถึงผลงานของดาวเตะเลือดเฟร้นช์ว่า มาลูด้า เป็นนักเตะที่ดีที่สุด เขาทำผลงานได้ดีมากๆ และมีการเคลื่อนที่ที่ยอดเยี่ยม เขายิงประตูได้เหมือนกับเกมที่เราพบ เวสต์บรอมฯ
 

นอกจากนี้ อดีตจอมแท็กติก เอซี มิลาน และ ยูเวนตุส ยอมรับว่า เกมแมตช์นี้ค่อนข้างเปิด แต่การได้ลูกที่ 2 ทำให้พวกเขาควบคุมสถานการณ์ได้หมด สโต๊ค เล่นได้ดี เกมวันนี้เปิดพอสมควร จนกระทั่งเรายิงประตูที่สองได้ และมันก็กลายเป็นเกมที่ยากทันที เราไม่ได้เล่นเร็ว เพราะ สโต๊ค ตั้งรับเหนียวแน่น และมีจังหวะดีๆ เช่นกัน ดังนั้นเราไม่ได้มีโอกาสในการสวนกลับ แต่สิ่งที่สำคัญคือ การคว้าชัยชนะ และไม่เสียประตู ซึ่งเราพอใจมาก เพราะเรายังคงรั้งจ่าฝูงต่อไป

Credit : http://www.siamsport.co.th


10 อันดับนักเตะผู้ดีค่าตัวแพงที่สุดตลอดกาล


ซัมเมอร์นี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพิ่งจะคว้าตัว เจมส์ มิลเนอร์ มาร่วมทีมด้วยค่าตัวถึง 18 ล้านปอนด์ แต่อย่างไรก็ดี เขายังไม่ใช่นักเตะเลือดผู้ดีที่มีค่าตัวแพงที่สุด




ในทำเนียบ 10 อันดับนักเตะชาวอังกฤษที่มีค่าตัวแพงที่สุดตลอดกาล มีรายนามแข้งซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีอย่าง เดวิด เบ็คแฮม ริโอ เฟอร์ดินานด์ เวย์น รูนีย์ ฯลฯ


แต่น่าเสียดาย อลัน เชียร์เรอร์ ตำนานดาวยิงทีมสิงโตคำรามที่ย้ายจาก แบล็คเบิร์น ไป นิวคาสเซิ่ล เมื่อปี 1996 ด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์ กลับไม่มีชื่อ เพราะโดนรุ่นน้องเบียดตกชาร์ทไปอย่างหวุดหวิด


ทั้ง 10 คนจะมีใครบ้าง ติดตามได้ดังต่อไปนี้


10) โอเว่น ฮาร์กรีฟส์

ตำแหน่ง : มิดฟิลด์ตัวกลาง
จาก : บาเยิร์น มิวนิค
ไป : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ค่าตัว : 17 ล้านปอนด์
ย้ายเมื่อ : พฤษภาคม 2007
อายุตอนที่ย้ายทีม : 26 ปี
ลงเล่น : 38 นัด
ยิงได้ : 2 ประตู 


ถ้าจะกล่าวถึงนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดของทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมัน คงจะไม่มีใครกล้าปฏิเสธชื่อของ โอเว่น ฮากรีฟส์  ตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่มิดฟิลด์รายนี้ค้าแข้งอยู่ในถิ่นโอล์ด แทร็ฟฟอร์ด ต้องประสบกับปัญหาอาการบาดเจ็บแบบไม่หยุดหย่อน ส่งผลให้อนาคตของแข้งวัย 26 ปี รายนี้เหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย แต่เขายังคงรอที่จะกลับมาเอาชนะใจ เฟอร์กี้ อีกครั้ง ถ้าสามารถสลัดอาการบาดเจ็บออกไปได้
ระดับความสำเร็จ : 2 ดาว


 


9) เกล็น จอห์นสัน

ตำแหน่ง : แบ็กขวา
จาก : พอร์ทสมัธ
ไป : ลิเวอร์พูล
ค่าตัว : 18 ล้านปอนด์
ย้ายเมื่อ : มิถุนายน 2009
อายุตอนที่ย้ายทีม : 24 ปี
ลงเล่น : 34 นัด
ยิงได้ : 3 ประตู
หลังจากล้มเหลวกับ เชลซี แต่จอห์นสัน สามารถกลับมาแจ้งเกิดได้อีกครั้งกับ พอร์ทสมัธ ก่อนที่ ราฟาเอล เบนิเตซ บอสใหญ่ ลิเวอร์พูล ในตอนนั้น จะดึงเขามาร่วมถิ่นแอนฟิลด์
แบ็กทีมชาติอังกฤษเริ่มต้นฤดูกาลแรกกับ หงส์แดง ได้ไม่ดีเท่าที่ควร จุดบอดของเขาอยู่ที่เกมรับ แต่บางครั้งเขาก็ทำประโยชน์ให้ทีมได้มากเลยทีเดียวในเรื่องของเกมรุก ปัญหาก็คือฟอร์มของเขาไม่คงเส้นคงวาเท่าที่ควร และในฤดูกาลใหม่นี้ จอห์นสัน ก็หวังจะเรียกฟอร์มเก่งกลับมาเพื่อพิสูจน์ว่าเขามีดีพอกับ ลิเวอร์พูล
ระดับความสำเร็จ : 3 ดาว


 


8) ริโอ เฟอร์ดินานด์

ตำแหน่ง : เซนเตอร์ฮาล์ฟ
จาก : เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
ไป : ลีดส์ ยูไนเต็ด
ค่าตัว : 18 ล้านปอนด์
ย้ายเมื่อ : พฤศจิกายน 2000
อายุตอนที่ย้ายทีม : 22 ปี
ลงเล่น : 73 นัด
ยิงได้ : 3 ประตู
เป็นนักเตะดาวรุ่งพุ่งแรงที่หลายคนคาดว่าจะมาเป็นตัวหลักให้ทีมชาติอังกฤษในอนาคต ณ เวลานั้น และเป็น ลีดส์ ที่ทุ่มเงินมหาศาลเพื่อคว้า เฟอร์ดินานด์ มาจากอ้อมอก เวสต์แฮมที่เอลแลนด์ โร้ด เฟอร์ดินานด์ โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นร่วมกับอีกหลายนักดาวรุ่งเตะอย่าง แฮร์รี่ คีเวลล์, ลี โบว์เยอร์, อลัน สมิธ, ไมเคิ่ล บริดเจส, เจสัน วิลค็อกซ์ ฯลฯ จนสามารถพา ยูงทอง ทะลุถึงรอบตัดเชือกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เลยทีเดียว ก่อนที่ทีมจะแพแตกเนื่องจากภาวะการเงินที่ย่ำแย่
ระดับความสำเร็จ : 4 ดาว



7) เจมส์ มิลเนอร์


ตำแหน่ง : ปีกขวา/ซ้าย/มิดฟิลด์ตัวกลาง
จาก : แอสตัน วิลล่า
ไป : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ค่าตัว : 18 ล้านปอนด์ (บวก สตีเฟ่น ไอร์แลนด์)
ย้ายเมื่อ : สิงหาคม 2010
อายุตอนที่ย้ายทีม : 24 ปี
ลงเล่น : 1 นัด
ยิงได้ : 0 ประตู
เวลาเท่านั้นที่จะสามารถบอกได้ว่าอดีตแข้ง ลีดส์ และ นิวคาสเซิ่ล รายนี้ จะประสบความสำเร็จในถิ่นซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ หรือไม่ แต่ถ้าหากดูจากความสามารถของเขาแล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
เงิน 18 ล้านปอนด์ บวก สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ทำให้มูลค่าที่แท้จริงของ มิลเนอร์ น่าจะสูงถึง 26 ล้านปอนด์ เลยทีเดียว แต่จากการที่ทีม เรือใบ มีเงินให้จับจ่ายใช้สอยมากมาย คงจะไม่เป็นกังวลกับเรื่องค่าตัวที่ดูสูงขนาดนี้มากนัก
โอกาสประสบความสำเร็จ : 4 ดาว



6)ไมเคิ่ล คาร์ริค


ตำแหน่ง : มิดฟิลด์ตัวกลาง
จาก : สเปอร์ส
ไป : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ค่าตัว : 18.6 ล้านปอนด์
ย้ายเมื่อ : กรกฎาคม 2006
อายุตอนที่ย้ายทีม : 25 ปี
ลงเล่น : 189 นัด
ยิงได้ : 17 ประตู
ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับ สเปอร์ส ที่ดึงตัว คาร์ริค มาจาก เวสต์แฮม ด้วยค่าตัวเพียง 2.7 ล้านปอนด์ แต่กลับสามารถขายให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ดสูงถึงเกือบ 20 ล้านปอนด์ ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังเป็นคำถามอยู่ว่า เขาโชว์ฟอร์มได้คุ้มกับค่าตัวที่ ยูไนเต็ด ลงทุนไปหรือยัง?
แต่แม้ว่าเขาจะยังถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับความคุ้มค่าของเงินที่ ปีศาจแดง ได้ทุ่มลงไปเพียงใด อย่างน้อยเขาก็ยังได้รับเสียงชื่นชมจากเหล่านักวิจารณ์มากกว่า ฮวน เซบาสเตียน เวรอน อยู่ดี
ระดับความสำเร็จ : 4 ดาว


5) ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์

ตำแหน่ง : ปีกขวา/ซ้าย
จาก : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ไป : เชลซี
ค่าตัว : 21 ล้านปอนด์
ย้ายเมื่อ : กรกฎาคม 2005
อายุตอนที่ย้ายทีม : 22
ลงเล่น : 124
ยิงได้ : 10 ประตู
จากการที่ แมนฯ ซิตี้ สามารถดึงตัว ไรท์-ฟิลลิปส์ กลับมาจาก เชลซี เพียงแค่ราคา 9 ล้านปอนด์ แสดงให้เห็นถึงความจริงที่ว่า เขาสอบตกในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ อย่างสิ้นเชิง


แม้ว่าเขาจะได้ลงสนามให้กับ สิงห์บลูส์ ถึง 124 นัด แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเพียงแค่ตัวสำรองเสียมากกว่า และตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่ค้าแข้งอยู่ในลอนดอน เราก็มักจะพบเขาที่ม้านั่งข้างสนามเสียเป็นส่วนใหญ่
ระดับความสำเร็จ : 2 ดาว



4) โจลีออน เลสค็อตต์

ตำแหน่ง : เซนเตอร์ฮาล์ฟ/แบ็กซ้าย
จาก : เอฟเวอร์ตัน
ไป : แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ค่าตัว : 22 ล้านปอนด์
ย้ายเมื่อ : สิงหาคม 2009
อายุตอนที่ย้ายทีม : 27 ปี
ลงเล่น : 30 นัด
ยิงได้ : 2 ประตู
หลังจากที่ แมนฯ ซิตี้ ตกถังข้าวสารได้ ชีค มานซูร์ เข้ามาเป็นเจ้าของสโมสร เรือใบ ก็สร้างความปั่นป่วนให้ตลาดนักเตะโดยการทุ่มเงินแบบไม่อั้น และ เลสค็อตต์ ก็เป็นหนึ่งในนักเตะคนแรกๆ ที่ ซิตี้ ทุ่มเงินแบบบ้าคลั่งซื้อตัวมาร่วมทีม


มาร์ค ฮิวจ์ส ดึงตัว เลสค็อตต์ มาร่วมถิ่น อีสต์แลนด์เมื่อปี 2009 และเมื่อปีที่ผ่านมาเขาก็มีโอกาสลงสนามไป 30 นัด โดยที่ไม่มีอะไรให้น่าประทับใจเลย ซึ่งค่าตัวที่ ซิตี้ ลงทุนไปตั้งแต่แรก หากคิดเป็นแบบจำนวนนัดแล้ว พวกเขาเสียค่าตัวให้กับ เลสค็อตต์ นัดละ 7.3 แสนบาทเลยทีเดียว
ระดับความสำเร็จ : 1 ดาว



3) เดวิด เบ็คแฮม

ตำแหน่ง : ปีกขวา/มิดฟิลด์ตัวกลาง
จาก : แมนฯ ยูไนเต็ด
ไป : เรอัล มาดริด
ค่าตัว : 25 ล้านปอนด์
ย้ายเมื่อ : กรกฎาคม 2003
อายุตอนที่ย้ายทีม : 27 ปี
ลงเล่น : 155 นัด
ยิงได้ : 20 ประตู
ประสบความสำเร็จมาเกือบแทบจะทุกรางวัลแล้วกับ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่เมื่อ เรอัล มาดริด มาเคาะประตูติดต่อ บวกกับโดนรองเท้าสตั๊ดบินเข้าใส่ที่ปลายคิ้ว ก็ถึงเวลาที่หนุ่มเบ๊คส์จะต้องอำลาถิ่นโอลด์แทร็ฟฟอร์ดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
 
เบ็คแฮม ได้รับประสบการณ์ทั้งดีและแย่ผสมผสานกันไปในถิ่นซานติอาโก้ เบนาเบว โดยเฉพาะในยุคของกุนซือ ฟาบิโอ คาเปลโล่ และแม้ว่าตลอดเวลาที่ค้าแข้งกับ ราชันชุดขาว เขาจะได้เพียงแค่แชมป์ลา ลีกา กับ ซูเปร์โกปา อย่างละครั้ง แต่เขาก็ถือเป็นนักเตะที่คุ้มค่ามากที่สุดคนหนึ่งในยุคกาลาคติกอส
ระดับความสำเร็จ : 4 ดาว



2) เวย์น รูนี่ย์

ตำแหน่ง : ศูนย์หน้า
จาก : เอฟเวอร์ตัน
ไป : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ค่าตัว : 25.6 ล้านปอนด์
ย้ายเมื่อ : สิงหาคม 2004
อายุตอนที่ย้ายทีม : 18 ปี
ลงเล่น : 284 นัด
ยิงได้ : 131 ประตู
เวย์น รูนี่ย์ ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นั่นอาจจะเพราะเขาได้เป็นตัวหลักของทีมตั้งแต่อายุยังน้อย มันไม่มีอะไรที่น่าแปลกใจเลยสำหรับจำนวน 131 ประตูที่เขาทำให้ทีมได้
 
ตั้งแต่ย้ายมาร่วมทัพ ยูไนเต็ด วัซซ่า ค่อยๆพัฒนาตนเองให้ดีขึ้นในทุกๆปี และเมื่อฤดูกาลที่แล้วเขาก็สามารถระเบิดฟอร์มอันแท้จริงด้วยการกดไปถึง 34 ประตู จากการลงสนาม 44 นัด ซึ่งก็เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าการลงทุนของ เฟอร์กี้ ในตอนนั้นถือว่าได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ามากเลยทีเดียวในปัจจุบัน
ระดับความสำเร็จ : 5 ดาว



1) ริโอ เฟอร์ดินานด์

ตำแหน่ง : เซนเตอร์ฮาล์ฟ
จาก : ลีดส์ ยูไนเต็ด
ไป : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ค่าตัว : 31.1 ล้านปอนด์
ย้ายเมื่อ : กรกฎาคม 2002
อายุตอนที่ย้ายทีม : 23 ปี
ลงเล่น : 331 นัด
ยิงได้ : 7 ประตู
นักเตะผู้ซึ่งถูก ฟาบิโอ คาเปลโล่ เลือกให้เป็นกัปตันทีมชาติแทนที่ จอห์น เทอร์รี่ ก่อนที่เขาจะประสบปัญหาอาการบาดเจ็บส่งผลให้ชวดไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย


เฟอร์ดินานด์ เป็นนักเตะชาวอังกฤษที่มีค่าตัวแพงที่สุดตลอดกาล เขาประสบความสำเร็จคว้ารางวัลร่วมกับ แมนฯ ยูไนเต็ดมากมากมาย ประกอบไปด้วย พรัเมียร์ลีก 4 ครั้ง, ลีก คัพ 2 ครั้ง และอีกหนึ่งครั้งกับถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ระดับความสำเร็จ : 5 ดาว

Credit : MSN Football



โปรแกรมการแข่งขันยูฟ่า
 
แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่ง

กลุ่ม





























































































































































กลุ่ม เอ  กลุ่ม อี
14 ก.ย. ทเวนเต้ - อินเตอร์  15 ก.ย. บาเยิร์น - โรม่า
            เบรเมน - สเปอร์ส             ซีเอฟอาร์ คลูซ - บาเซิ่ล
29 ก.ย. สเปอร์ส - ทเวนเต้  28 ก.ย. บาเซิ่ล - บาเยิร์น  
            อินเตอร์ - เบรเมน             โรม่า - ซีเอฟอาร์ คลูซ
20 ต.ค. อินเตอร์ - สเปอร์ส 19 ต.ค. โรม่า - บาเซิ่ล 
            ทเวนเต้ - เบรเมน              บาเยิร์น - ซีเอฟอาร์ คลูซ 
2 พ.ย.   สเปอร์ส  อินเตอร์  3 พ.ย.   บาเซิ่ล - โรม่า    
            เบรเมน - ทเวนเต้              ซีเอฟอาร์ คลูซ - บาเยิร์น    
24 พ.ย. อินเตอร์ - ทเวนเต้  23 พ.ย. โรม่า - บาเยิร์น         
            สเปอร์ส - เบรเมน              บาเซิ่ล - ซีเอฟอาร์ คลูซ  
7 ธ.ค.    ทเวนเต้ - สเปอร์ส  8 ธ.ค.    บาเยิร์น - บาเซิ่ล          
            เบรเมน - อินเตอร์              ซีเอฟอาร์ คลูซ - โรม่า   
 กลุ่ม บี กลุ่ม เอฟ 
14 ก.ย. ลียง - ชาลเก้  15 ก.ย.  มาร์กเซย - สปาร์ตัก มอสโก 
            เบนฟิก้า - ฮาโปเอล เทลอาวีฟ               เอ็มเอสเค ซิลิน่า - เชลซี
29 ก.ย. ฮาโปเอล เทลอาวีฟ - ลียง             28 ก.ย.  เชลซี - มาร์กเซย 
            ชาลเก้ - เบนฟิก้า               สปาร์ตัก มอสโก - เอ็มเอสเค ซิลิน่า   
20 ต.ค. ชาลเก้ - ฮาโปเอล เทลอาวีฟ    19 ต.ค.  สปาร์ตัก มอสโก - เชลซี  
            ลียง -  เบนฟิก้า                          มาร์กเซย - เอ็มเอสเค ซิลิน่า    
2 พ.ย.  ฮาโปเอล เทลอาวีฟ - ชาลเก้   3 พ.ย.    เชลซี - สปาร์ตัก มอสโก    
           เบนฟิก้า - ลียง              เอ็มเอสเค ซิลิน่า - มาร์กเซย      
24 พ.ย. ชาลเก้ - ลียง   23 พ.ย.  สปาร์ตัก มอสโก - มาร์กเซย   
            ฮาโปเอล เทลอาวีฟ -  เบนฟิก้า                เชลซี - เอ็มเอสเค ซิลิน่า   
7 ธ.ค.    ลียง - ฮาโปเอล เทลอาวีฟ      8 ธ.ค.     มาร์กเซย -  เชลซี    
             เบนฟิก้า - ชาลเก้               เอ็มเอสเค ซิลิน่า - สปาร์ตัก มอสโก    
กลุ่ม ซี กลุ่ม จี
14 ก.ย. แมนฯ ยูไนเต็ด - เรนเจอร์ส  15 ก.ย.   เรอัล มาดริด - อาแจ็กซ์ 
            บูร์ซาสปอร์ - บาเลนเซีย               เอซี มิลาน - โอแซร์
29 ก.ย. บาเลนเซีย - แมนฯ ยูไนเต็ด    28 ก.ย.   โอแซร์ - เรอัล มาดริด 
            เรนเจอร์ส - บูร์ซาสปอร์                 อาแจ็กซ์ - เอซี มิลาน  
20 ต.ค. เรนเจอร์ส - บาเลนเซีย   19 ต.ค.   อาแจ็กซ์ - โอแซร์ 
            แมนฯ ยูไนเต็ด - บูร์ซาสปอร์                  เรอัล มาดริด - เอซี มิลาน    
2 พ.ย.  บาเลนเซีย - เรนเจอร์ส  3 พ.ย.     โอแซร์ - อาแจ็กซ์
           บูร์ซาสปอร์ - แมนฯ ยูไนเต็ด                   เอซี มิลาน - เรอัล มาดริด      
24 พ.ย.เรนเจอร์ส - แมนฯ ยูไนเต็ด   23 พ.ย.   อาแจ็กซ์ -  เรอัล มาดริด          
           บาเลนเซีย - บูร์ซาสปอร์                 โอแซร์ - เอซี มิลาน  
7 ธ.ค.  แมนฯ ยูไนเต็ด - บาเลนเซีย 8 ธ.ค.      เรอัล มาดริด - โอแซร์            
           บูร์ซาสปอร์ - เรนเจอร์ส                  เอซี มิลาน - อาแจ็กซ์    
กลุ่ม ดี กลุ่ม เอช
14 ก.ย. บาร์เซโลน่า - พานาธิไนกอส   15 ก.ย.    อาร์เซน่อล - บราก้า 
            เอฟซี โคเปนเฮเก้น - รูบิน คาซาน                ชัคเตอร์ โดเนทส์ค - ปาร์ติซาน เบลเกรด
29 ก.ย. รูบิน คาซาน - บาร์เซโลน่า    28 ก.ย.    ปาร์ติซาน เบลเกรด - อาร์เซน่อล    
            พานาธิไนกอส - เอฟซี โคเปนเฮเก้น                 บราก้า - ชัคเตอร์ โดเนทส์ค  
20 ต.ค. พานาธิไนกอส - รูบิน คาซาน   19 ต.ค.    บราก้า - ปาร์ติซาน เบลเกรด    
            บาร์เซโลน่า - เอฟซี โคเปนเฮเก้น                     อาร์เซน่อล - ชัคเตอร์ โดเนทส์ค      
2 พ.ย.   รูบิน คาซาน - พานาธิไนกอส    3 พ.ย.      ปาร์ติซาน เบลเกรด - บราก้า     
            เอฟซี โคเปนเฮเก้น - บาร์เซโลน่า                       ชัคเตอร์ โดเนทส์ค - อาร์เซน่อล       
24 พ.ย. พานาธิไนกอส - บาร์เซโลน่า   23 พ.ย.    บราก้า - อาร์เซน่อล         
            รูบิน คาซาน - เอฟซี โคเปนเฮเก้น                  ปาร์ติซาน เบลเกรด - ชัคเตอร์ โดเนทส์ค    
7 ธ.ค.    บาร์เซโลน่า - รูบิน คาซาน    8 ธ.ค.      อาร์เซน่อล - ปาร์ติซาน เบลเกรด           





            เอฟซี โคเปนเฮเก้น - พานาธิไนกอส     ชัคเตอร์ โดเนทส์ค - บราก้า  







    Credit :  http://www.lomtoe.com      


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์