สิ้นปีอลวน!สิงห์อย่างช็อพ่ายวิลล่าคาถ้ำ 3-1

สิ้นปีอลวน!สิงห์อย่างช็อพ่ายวิลล่าคาถ้ำ 3-1

กลายเป็นสิ้นปีที่แฟนบอลของทีมที่ผิดหวังแทบไม่อยากจำไปเลย เพราะเชลซีซึ่งลุ้นจะเอาชนะในบ้านตัวเองให้ได้ กลับกลายเป็นว่ามาเป็นแอสตัน วิลล่าบุกเผาแบบเจ็บช้ำถึงถิ่นด้วยสกอร์ 3-1 ทำให้ไม่ชนะใครติดต่อกัน 4 ปีก่อนเข้าศักราชใหม่ซะอย่างนั้น

พรีเมียร์ ลีก

วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม 2554

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์


เชลซี 1 : 3 แอสตัน วิลล่า

ประตู :
1-0 ดร็อกบา(จุดโทษ) น.23, 1-1 ไอร์แลนด์ น.28, 1-2 เปตรอฟ น.86, 1-3 เบนท์ น.86

คลิปไฮไลท์ พรีเมียร์ลีก เชลซี 1-3 แอสตัน วิลล่า


เชลซีวันนี้ต้อนรับการมาเยือนของแอสตัน วิลล่าด้วยใจหวังที่จะคว้าชัยชนะให้จงได้ เพราะช่วงหลังฟอร์มสะดุดเสมอกันติดๆมาถึง 3 นัด จนทำให้โอกาสลุ้นแชมป์มันไม่แน่ไม่นอนอยู่เรื่อย

วันนี้โบอาสเลือกที่จะดร็อปตอร์เรสซึ่งนัดก่อนแผลงฤทธิ์ไม่ออกในการเป็นตัวจริง แล้วให้ดร็อกบาลงเล่นในแดนหน้าประสานกับทั้งสเตอร์ริดจ์และมาต้า

นอกจากนั้นแล้วแลมพาร์ดก็เป็นเพียงแค่ตัวสำรองเท่านั้น เพราะสามประสานในแดนกลางคือรามิเรส, เมเรเลสและโรเมอูนั่นเอง

ด้านวิลล่าวันนี้ไม่มีทั้งเบนท์และเฮสกีย์ ฉะนั้นแล้วความหวังของพวกเขาทั้งนั้นในแดนหน้าจึงตกเป็นของอักบอนลาฮอร์

ครึ่งแรก

สิงห์บุกแต่ยังไม่ได้เนื้อ
ผ่านช่วง 10 กว่านาทีแรกไป แม้ว่าจะได้ครองบอลมากกว่าทีมเยือน แต่เชลซีก็ยังไม่สามารถเจาะแนวรับเข้าไปทะลวงประตูได้แบบจังๆเลย ส่วนมากจะได้แต่เคาะกันนอกกรอบเขตโทษเสียมากกว่า

สเตอร์ริดจ์ซัดเหินคาน
นาทีที่ 18 ชั่วโมงนี้ต้องให้เขาเลยในแนวรุกของเชลซี เพราะแม้ว่าจะโดนกองหลังประกบอยู่สองตัว แต่ก็ยังยึกยักหาจังหวะยิงผ่านบล็อกไปจนได้ ติดอยู่เดียวบอลมันเหินไปนิด ก็เลยข้ามคานออกไป

ยิ่งกว่าชัด!ดันน์เสียบเสียจุดโทษ
นาทีที่ 22 ชัดซะจนไม่รู้จะว่ายังไง สำหรับดันนน์ไปเข้าสกัดช้าใส่ดร็อกบา เสียบจนไอ้แมลงสาบล้มหน้าคะมำ ผู้ตัดสินวิ่งมาเป่าเป็นจุดโทษให้แทบจะทันที ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกขึ้นมาสังหาร แอบติดมือของกูซานนิดหนึง แต่ก็ผ่านเข้าประตูไปจนได้ ฉลองประตูที่ 150 ของตัวเองกับเชลซี พร้อมส่งทีมขึ้นนำ 1-0

เกมวิลล่ามันยากอยู่
นัดนี้ถ้าวิลล่าจะหวังบุกมาทำประตูเชลซีได้ถึงถิ่นก็เป็นอะไรที่ยากน่าดู เพราะทิ้งอักบอนลาฮอร์เอาไว้ข้างหน้าคนเดียว พอจะสวนทีก็ต้องประวิงเวลารอกัน ทำให้เกมรับของเชลซีกลับไปเซ็ตกันแน่นแล้ว โอกาสเลยน้อยลงไปด้วย

หล่อเลย!แข้งบารากุซัดตีเจ๊า
นาทีที่ 28 เพิ่งจะพูดหยกๆว่ายิงคืนได้ยาก วิลล่าก็มาทำประตูคืนได้ทัวควันเลย ในจังหวะที่แฟร์เรร่าทำได้ไม่ดีพอในการประกบเอ็นซอกเบียซึ่งลากบอลผ่านหน้าไปดื้อ ก่อนที่จะหักไปให้ไอร์แลนด์ได้ยิงจ่อๆ จังหวะแรกไปติดเทอร์รี่บนเส้นประตู แต่ไอร์แลนด์ก็ตามซ้ำจังหวะสองลอดดากเจทีเข้าไป ทำให้แอสตัน วิลล่าตามตีเสมอเป็น 1-1 เร็วจริงอะไรจริง

สิงห์เกือบได้เฮอีกคำรบ
นาทีที่ 34 น่าจะได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจริงๆสำหรับเชลซี ในจังหวะที่ดร็อกบาโฉบไปเอาบอล ก่อนจะหลุดเข้าไปถึงสุดเส้นหลัง แล้วจัดการเปิดย้อนกลับไปหน้าประตู กูซานปัดได้ปลายมือ แต่ก็ไปเข้าทางของมาต้าที่จัดการยิงจ่อๆเหน่งๆ ติดอยู่อย่างเดียวที่มีวอร์น็อคพุ่งเข้ามาบล็อกเอาไว้ได้ ไม่งั้นแล้วเสร็จแน่

เกมมันค่อนข้างเนือย
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย พอโดนตีเสมอเข้าไปเชลซีเหมือนเครื่องจะช๊อตไปดื้อๆ เกมรุกก็ดูจะตันไปพอสมควร บวกกับการที่วิลล่าขยับเกมของพวกเขาได้ดีมากขึ้นด้วย ทำให้ตอนนี้เกมมันเลยคานๆกันอยู่ระหว่างทั้งสองทีม ไม่มีอะไรให้ได้ลุ้นมากนัก

แมลงสาบขี่วอร์น็อคเฉย!
ก่อนจะจบครึ่งแรก เชลซีมาได้ฟรีคิกในจังหวะที่ดร็อกบาโดนวอร์น็อควิ่งเข้าขวางอาไว้ ทั้งสองคนก็เลยล้มทับกัน ก่อนที่ดร็อกบาจะนึกสนุกนั่งทับวอร์น็อคเอาไว้ไม่ยอมลุก แล้วทำเหมือนขี่ม้าเล่นซะอย่างนั้น ก็ถือว่าขำดี แต่ถ้าใครก็คิดก็สยิวหน่อย

จบ 45 นาทีแรกที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ทั้งสองทีมยังคงเสมอกันอยู่ที่ 1-1 ต้องลุ้นกันต่อในอีก 45 นาทีที่เหลือ

ครึ่งหลัง

ตอร์เรสวอร์มยิก
เห็นเกมในสนามถือว่าไม่ได้มีอะไรให้ลุ้นมาก กล้องก็เลยจัดการจับไปที่ข้างสนาม ซึ่งเป็นตอร์เรสกำลังซอยเท้าวอร์มอยู่ยิกๆ ดูแล้วน่ามีสิทธิ์ได้ลงอยู่เหมือนกัน ถ้าเกมของเชลซียังไม่ดีขึ้น

เกือบบไปแล้ว!เช็กเซฟหวุดหวิด
นาทีที่ 53 แอสตัน วิลล่าเกือบจะพลิกขึ้นนำเชลซีได้แล้ว เมื่อจังหวะสวนกลับของพวกเขาเล่นงานกองหลังของเชลซีซึ่งเติมกันขึ้นไปสูงจนลงไม่ทัน ทำให้อักบอนลาฮอร์มีโอกาสได้วิ่งหลุดเดี่ยวเข้าไป แต่จังหวะยิงโดนเช็กพุ่งออกมาดักบล็อกเอาไว้ได้แบบหมดจด แต่ถึงอย่างนั้นถ้าประมาทเชลซีอาจมีพังคาบ้านได้เหมือนกัน

สิงห์ต้องส่งแลมพ์ลง
นาทีที่ 57 เชลซีจำเป็นต้องปรับเกมบ้าง ด้วยการส่งแลมพาร์ดลงไปเล่นแทนโรเมอู เพราะวันนี้พวกเขาอยากที่จะได้สามคะแนนก่อนเข้าปีใหม่จริงๆ ไม่งั้นแล้วโบอาสคงกดดันน่าดู

จัดไปอีก!ตอร์เรสลงเล่นแทนสเตอร์ริดจ์
นาทีที่ 63 เจ้าบ้านยังคงปรับเกมต่อเนื่องเพื่อหาจุดเปลี่ยนให้ได้ ด้วยการส่งตอร์เรสลงไปเล่นแทนสเตอร์ริดจ์ที่ตอนแรกดูเหมือนจะวูบวาบ แต่อยู่ๆก็หายไปเลย

ตอร์เรสสัมผัสแรกเกือบไปแล้ว
ลงมาจับบอลครั้งแรกก็เกือบจะทำให้ทีมได้ประตูขึ้นนำซะแล้ว สำหรับตอร์เรสที่ซัดประตูจากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งโด่ง แต่ไปฮุคปลาย กำลังจะเข้ากรอบอยู่แล้ว แต่มันไม่พอก็เลยชนคานเข้าอย่างจัง ไม่งั้นเกิดๆๆรับปีใหม่แน่

สิงห์ยังไม่กระเตื้องมาก
แม้ว่าจะเปลี่ยนสองผู้เล่นที่คิดว่าจะช่วยขยับเกมให้ดีขึ้นลงไปในสนามได้แล้ว แต่ดูเหมือนว่าเชลซีก็ยังกดดันอะไรทางแอสตัน วิลล่าเพิ่มไม่ได้มากนัก ดูแล้วอาจจะต้องลุ่นกันตัวโก่งเลยสำหรับแฟนบอลที่คอยเชียร์อยู่

โบซิงวาซัดได้ลุ้นมาก
นาทีที่ 76 เพิ่งจะถูกเปลี่ยนตัวลงก็มาหวือหวาใช่ย่อยเลยสำหรับโบซิงวา ที่ซัดด้วยเท้าซ้ายนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งส่ายเข้ากรอบ แต่ก็ไม่ผ่านมือของกูซานที่ดีดตัวปัดทิ้งออกหลังไปได้ทัน

เป็นช่อง!วิลล่าได้เฮ-เปตรอฟซัดหาย
นาทีที่ 83 กลายเป็นเกมพลิกไปเลย เมื่อแอสตัน วิลล่ามาได้ประตูขึ้นนำ ในจังหวะที่เชลซียืนประกบกันไม่ดี โดยเฉพาะลูอิซที่ปล่อยให้มีช่อง ทำให้คลาร์กจ่ายบอลทะลุไปถึงเปตรอฟที่จับบอลจังหวะแรก ก่อนจะอาศัยความนิ่งซัดผ่านเช็กเข้าไปเสียบเสาไกล ทำให้วิลล่าพลิกขึ้นนำไปแล้ว 2-1

ไปกันใหญ่!สิงห์หลุดเองโดนฉกไปยิงเลย
อีก 3 นาทีต่อมา ความผิดพลาดของแลมพาร์ดที่ดันไปจ่ายขวางสนาม ทำให้โดนวิลล่าทำประตูตอกย้ำชัยชนะไปเลย เมื่อไอร์แลนด์วิ่งฉกเอาบอลไปได้ ก่อนจะใจกว้างเป็นทะเลจ่ายให้เบนท์ยิงแป แม้จะติดตัวของเช็กแต่ก็ผ่าเข้าประตูไป ทำให้วิลล่านำห่าง 3-1 น่าจะสามแต้มเน้นๆแล้ว

จบ 90 นาทีกลายเป็นเจ้าบ้านเชลซีที่ต้องผิดหวังรับวันปีใหม่อย่างซะอย่างนั้น เมื่อเจอทีเด็ดของแอสตัน วิลล่าบุกมาเอาชนะได้คาถิ่น 3-1 อดทำคะแนนจี้อันดับ 4 อย่างท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์สไปเลย ส่วนแอสตัน วิลล่าก็ขึ้นอันดับที่ 9 มี 23 คะแนนชื่นมื่นกันไป

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เชลซี :
ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี่ , ดาวิด ลูอิซ, แอชลี่ย์ โคล, เปาโล แฟร์เรร่า(โบซิงวา น.75), โอริออล โรเมอู(แลมพาร์ด น.57), ราอูล เมเรเลส, รามิเรส, ฆวน มาต้า, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, ดาเนียล สเตอร์ริดจ์(ตอร์เรส น.63)

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : ฟลอร็องต์ มาลูด้า, รอส เทิร์นบูล, ซาโลมอง กาลู, แซม ฮัตชินสัน

แอสตัน วิลล่า : แบรด กูซาน, ริชาร์ด ดันน์, เจมส์ คอลลินส์, สตีเฟ่น วอร์น็อค, คาร์ลอส คูเอญ่าร์ , เคียแรน คลาร์ก, สติลิยาน เปตรอฟ(แบนแน่น น.84), ชาร์ลส์ เอ็นซอกเบีย(เบนท์ น.78), มาร์ค อัลไบรจ์ตัน(การ์ดเนอร์ น.78), กาเบรียล อักบอนลาฮอร์, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : แอนดี้ มาร์แชล, อลัน ฮัตตัน, เนธาน เดลฟองโซ่, อังเดรส ไวแมนน์




















เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์